“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”เดินทางมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฟังการไต่สวนพยานจำเลยนัดสุดท้าย คดีโครงการรับจำนำข้าว ฐานปล่อยปละละเลยเกิดการทุจริตเสียหายกว่า 4 แสนล้าน พร้อมยื่นแถลงปิดคดี ตร.รปภ.เข้มเตือนกองเชียร์ห้ามละเมิดศาล
เมื่อเวลา 8.25 น. วันนี้( 21 ก.ค.60) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถ.แจ้งวัฒนะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาฟังการนัดไต่สวนพยานจำเลยนัดสุดท้ายคดีโครงการรับจำนำข้าว ในข้อหาปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริต และปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวกว่า 4 แสนล้านบาทและยื่นขอแถลงปิดคดีด้วยวาจาหลังการไต่สวนพยานเสร็จสิ้น
การเดินทางมารับฟังการไต่สวนพยานจำเลยในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 16 เป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งมีประชาชนเดินทางมารอให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ประมาณ 400-500 คน และมีสื่อมวลชนทั้งไทยเดินทางมาทำข่าวหลากหลายสำนัก
ส่วนบรรยากาศการรักษาความปลอดภัยในบริเวณด้านหน้าศาล มีเจ้าหน้าที่จากกองอารักขาและควบคุมฝูงชนหรือกองร้อยน้ำหวานจำนวน 20 นาย และกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ซึ่งได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ไว้ประมาณมากกว่า 100 นาย เพื่อดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย พร้อมทั้งขอความร่วมมือกับประชาชนว่าไม่ให้ส่งเสียงดัง เนื่องจากพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นที่ทำการของศาล
พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งได้เดินทางมาตรวจดูความเรียบร้อย กล่าวว่า วันนี้ (21 ก.ค.) ได้จัดกำลังตำรวจกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ตำรวจควบคุมฝูงชน, กองร้อยน้ำหวาน และตำรวจท้องที่ มาคอยดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย จำนวน 280 นาย โดยพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ของศาล การทำกิจกรรมอะไรถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงฝากเตือนให้ระมัดระวังเรื่องการแสดงออก และเบื้องต้นได้พูดคุยกับแกนนำพรรคเพื่อไทย เพื่อขอความร่วมมือให้ช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยของมวลชนแล้ว ซึ่งทางตำรวจยืนยันว่า จะอำนวยความสะดวกให้กับมวลชน และจะคอยดูแลความเรียบร้อยป้องกันมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์ เชื่อว่ามวลชนที่เดินทางมาวันนี้จะไม่ได้สร้างปัญหา ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางมาตรวจดูความเรียบร้อยด้วย
นอกจากนี้ ยังมีแกนนำพรรคเพื่อไทยและอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยจำนวนหลายสิบคนเดินทางมาให้กำลังใจด้วย เช่น นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการ, นายชูศักดิ์ ศิรินิล ฝ่ายกฎหมาย, นายชัยเกษม นิติสิริ อดีต รมว.ยุติธรรม และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีต รมว.ศึกษาธิการ เป็นต้น
ในขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางมาถึง ได้ทักทายประชาชนที่มารอให้กำลังใจ พร้อมรับดอกไม้ที่มวลชนเตรียมมาให้ โดยมวลชนได้ตะโกนว่า "ยิ่งลักษณ์สู้ๆ" และเข้าไปรุมล้อมให้กำลังใจตลอดเวลา ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้เวลาในการทักทายกับประชาชนประมาณ 30 นาที พร้อมมีน้ำตาคลอขณะรับดอกไม้จากประชาชน
จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ทักทายสื่อมวลชน ซึ่งปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์โดยระบุว่า เวลาไม่พอ และขอให้รอฟังการแถลงปิดคดีด้วย พร้อมยกมือไหว้ขอบคุณสื่อมวลชน แกนนำพรรคเพื่อไทยและอดีต ส.ส. และประชาชน ที่มาติดตามทำข่าวและมาให้กำลังใจ พร้อมถ่ายรูปร่วมกับแกนนำพรรคเพื่อไทยและอดีต ส.ส. ก่อนเดินเข้าไปภายในอาคารศาลฎีกาฯ
สำหรับคำร้องของทีมทนายที่ยื่นเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2560 ต่อศาลฎีกาฯ นั้น เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามาตรา 5 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2542 ขัดหรือแย้งกับมาตรา 235 วรรค 6 ของรัฐธรรมนูญ 2560 หรือไม่ หลังโจทก์อาศัยช่องทางตามกฎหมายวิธีพิจารณาคดีอาญาฯ เพิ่มเติมพยานหลักฐานใหม่โดยเฉพาะพยานเอกสารเกือบ 7 หมื่นแผ่นเข้ามาในคดี ทั้งที่ไม่อยู่ในสำนวนของ ป.ป.ช. ขณะที่รัฐธรรมนูญที่เพิ่งประกาศใช้บัญญัติว่า "การพิจารณาของศาลฎีกาฯ ให้นำสำนวนการไต่สวนของ ป.ป.ช. เป็นหลักในการพิจารณา และกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมว่า เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ให้ศาลมีอำนาจไต่สวนข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพิ่มเติมได้