BBL ไตรมาส 2 กำไร 8 พันล้าน เติบโต 12% NPL ขยับ

20 ก.ค. 2560 | 10:58 น.
แบงก์กรุงเทพอวดผลงานไตรมาส 2 กำไร 8 พันล้านบาท เติบโต 12.2% จากงวดปีก่อน หนุนครึ่งปีกำไรเพิ่ม 5.6% ส่วน NPL เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 3.7% จาก 3.5%

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL แจ้งผลดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2560 กำไรสุทธิ 8,047 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 4.19 บาท เพิ่มขึ้น 12.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 7,169.41 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 3.76 บาท แต่ลดลง 3.1% จากไตรมาส 1 ปี 2560

ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2560 กำไรสุทธิ 16,351.71 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 8.57 บาท เพิ่มขึ้น 5.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 15,486.60 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 8.11 บาท

ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิในไตรมาส 2 จำนวน 16,568 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.2% เทียบกับไตรมาส 2 ปี 2559 และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 2.31% สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน11,472 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.0% สาเหตุหลักจากกำไรสุทธิจากเงินลงทุนและรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ โดยส่วนใหญ่มาจากค่าธรรมเนียมรับจากการบริการกองทุนรวมและบริการประกันผ่านธนาคาร และค่าธรรมเนียมจากบริการอิเล็กทรอนิกส์และการโอนเงิน สำหรับค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานมีจำนวน 12,846ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.0% ทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำาเนินงานอยู่ที่ 45.8%

ณ สิ้นเดือนมิ.ย.2560 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 1,978,391 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.9% จากสิ้นปี 2559 โดยเพิ่มขึ้นจากสินเชื่อลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ สำหรับสินเชื่อด้อยคุณภาพคิดเป็น 3.7% ของเงินให้สินเชื่อรวม ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้าส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ของภาคธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงติดตามดูแลคุณภาพสินเชื่ออย่างใกล้ชิดและรักษาระดับเงินสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของธนาคารอยู่ที่ 129,918ล้านบาท หรือคิดเป็น 6.6% ของเงินให้สินเชื่อ

นอกจากนี้ธนาคารและบริษัทย่อยมีเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพจำนวน 85,947 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวมเท่ากับ 3.7% เพิ่มขึ้นจากสิ้นเดือนมี.ค.2560 อยู่ที่ 3.5% ส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ณ สิ้นเดือนมิ.ย. 2560 จำนวน 129,918 ล้านบาท โดยมีสำรองขั้นต่ำตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 69,044 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสำรองขั้นต่ำเท่ากับ 188.2% ทั้งนี้อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นเดือนมิ.ย. 2560 เท่ากับ 151.2%