ฐานโซไซตี : เศรษฐกิจครึ่งปีหลังท่าจะแย่

ฐานโซไซตี
โดย.. พริกกะเหรี่ยง
เศรษฐกิจครึ่งปีหลังท่าจะแย่

เศรษฐกิจครึ่งปีหลังท่าจะแย่ ผลจากราคาสินค้าเกษตรร่วง ไม่ว่าจะเป็น ปาล์ม ยางพารา  ข้าว มันสำปะหลัง ฯลฯ แต่ล่าสุด “ปรเมธี  วิมลศิริ” เลขาธิการ สศช. ออกมาบอกว่าเล็งปรับจีดีพี ปีนี้หลังเห็นตัวเลขส่งออก 5 เดือนแรกทะยานไปถึง5%จากที่ประมาณการไว้ 3.6%ตัวเลขใหม่สภาพัฒน์ ขีดวงไว้ที่ 3.3-3.8 % จากเดิมค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.5% ราคาสินค้าเกษตรที่ร่วงหนักครึ่งปีหลังยิ่งซํ้าเติม “รากหญ้า” เพราะดูเหมือนรัฐจะ “หมดมุก”กระตุ้นเศรษฐกิจห้างใหญ่จึงลดราคากันทั้งปีไม่มีซีซันเพื่อตุนรายได้ เพราะปลายปีอะไรย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ

อีกทั้งภาครัฐยังพยายามอย่างหนักในการเข็นเมกะโปรเจ็กต์อย่างต่อเนื่อง หลังระบบราง 11 โครงการ มูลค่า 8.4  แสนบาท  จ่อประมูลหลายยก แต่เอาเข้าจริง “หลุดเป้า” ไปหลายโครงการ แต่ครั้งนี้ดูจะใกล้ความจริงมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น รถไฟรางคู่ 5 เส้นทาง มูลค่า 7.9 หมื่นล้านบาท รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่เหลือ 3 เส้นทางอีกราว  2.75 แสนล้านบาท และรถไฟความเร็วสูง 3 เส้นทาง ตัวเลขกลมๆ ราว  5 แสนล้านบาท ที่จะทยอยทำคลอดเร็วๆ นี้ หากไม่สะดุดอีกครึ่งปีหลังถึงปีหน้าจะได้เห็นหลายโครงการ และน่าจะเป็นปีทองของผู้รับเหมา(รายใหญ่) ที่เลือกงานเอาเฉพาะกำไรเหนาะๆ ซึ่งก็ว่ากันไม่ได้ เพราะงานล้นมือ รับเหมาจึงเล่นตัวได้

หากไม่ “ตกราง” ไปซะก่อน คนไทยจะได้ตีตั๋วนั่ง ปู๊นๆ รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน กรุงเทพฯ-โคราช ตามไทม์ไลน์ จะเปิด “หวูด” ปี2564 ค่าตั๋วเคาะกันที่เที่ยวละ 535 บาท เบื้องต้นอานิสงส์ ตกอยู่กับกลุ่มวัสดุ รับเหมาแต่ถ้าหากเปิด “อินเตอร์บิดดิ้ง” ก็อย่าเพิ่งชะล่าใจว่าโอกาสที่ผู้รับเหมาไทยจะได้งาน 75% จากมูลค่า 1.79 แสนล้านบาทที่กระทรวงคมนาคมประเมินไว้ แต่ที่แน่ๆ หาก รถไฟสายนี้ตกขบวนอีก ผู้รับผิดชอบไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้ แอกติ้ง ร.ฟ.ท. หรือบิ๊กกระทรวงหูกวาง คงร้อนๆ หนาวๆ และอาจมีสิทธิ์หลุดกันบ้างเพราะก่อนหน้านั้นก็สังเวยมาแล้วหลายราย

ส่วนไฮสปีดเทรน อีก 2 สายคือ กทม.-หัวหิน กับกทม.-ระยอง จะเป็นการลงทุนแบบ “พีพีพี” เปิดให้เอกชนลงทุนรัฐจึงไม่ต้องควักกระเป๋าฉะนั้นทำใจกับสายแรก กทม.-โคราช เม็ดเงินลงทุนก.ม.ละราว700 ล้านบาทขาดทุนแน่นอนหากไม่พัฒนาเมืองใหม่ เหมือนในต่างประเทศ อานิสงส์ต่อมาจึงตกอยู่กับกลุ่มขาใหญ่ที่ไปปักหลักซื้อที่ดินตุนไว้ใกล้ๆสถานีหมดแล้ว ส่วน 3 สถานีหลักที่รัฐตั้งเป้าพัฒนา ได้แก่ สระบุรี เนื้อที่ 90 ไร่ ปากช่องพื้นที่ 541 ไร่ และตัวเมืองโคราช พื้นที่  272 ไร่ และตามแผนรัฐบาล จะเปิดสัมปทานให้เอกชนเข้าไปพัฒนาเมืองใหม่ เพื่อสอดรับกับพฤติกรรมของผู้ใช้บริการ

ทั้ง 3 สถานีใหญ่แม้จะเป็นที่ดินของกรมธนารักษ์ แต่อย่างสถานีปากช่อง ที่ดินบริเวณนี้ได้ยกให้ทหารเข้าไปใช้ประโยชน์ และชาวบ้านเข้าไปปักหลักทำกินกันมาช้านาน จนเกิดการซื้อขายเปลี่ยนมือ ราคาพุ่งไปเป็นไร่ละนับล้านบาท เมื่อมีข่าวว่ารัฐจะเอาที่ดินคืน จึงเริ่มมีเสียงต่อต้านจากคนในพื้นที่ เป็นธรรมดา แต่ก็เชื่อว่าน่าจะจัดการได้ไม่ยาก และต้องทำใจว่า เปิดใหม่ๆ “เจ๊ง” แน่นอนเพราะผู้โดยสารยังน้อยแต่ถ้าลากยาวถึงหนองคาย ต่อไปลาวและจีน ผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีน  ช่วงแรกต้องรับสภาพไม่ต่างจากแอร์พอร์ตลิงค์

ต่อเชื่อมแน่วันที่ 10 สิงหาคม นี้ รถไฟฟ้า สายสีม่วง บางใหญ่จะเชื่อมกับ MRT สายสีนํ้าเงิน สถานีเตาปูน อย่าง “สมูธ” ด้วยอิทธิฤทธิ์ ของ “ม.44” รัฐบาล คสช. เมื่อเชื่อมกันสนิทผู้โดยสารจะขยับพุ่ง จาก 3 พันคนต่อวันก็น่าจะขยับเป็นหมื่นคน ลดปัญหาขาดทุนได้แค่ไหนต้องวัดกันหลังจากเปิดเชื่อมสถานี แต่ที่กระเป๋าตุงแน่ก็ต้องค่าย “BEM” ของเจ้าสัว ช.การช่าง“ปลิว ตรีวิศวเวทย์” ที่มีแต่ได้กะได้

จากปัญหาแรงงานเถื่อนมาถึงไกด์เถื่อนที่สมาพันธ์ไกด์ยื่นหนังสือร้องเรียนถึง“บิ๊กตู่” ให้เร่งแก้ไข ไกด์ต่างชาติที่เข้ามาหากินในเมืองไทยพานักท่องเที่ยวไปช็อปไปฟันราคาตามร้านค้ากลับมาระบาดหนักอีกครั้งโดยมีผู้ประกอบการไทยร่วมมืออยู่ด้วยเรื่องนี้นายกฯ จึงมอบให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯรับไปดูแล แต่ก็อย่างว่า ปัญหานี้เรื้อรังมานานและขยายตัวตามการเติบโตของตัวเลขนักท่องเที่ยว จะให้เห็นผลทันตาคงไม่ง่ายแต่หากปราบปรามอย่างต่อเนื่องไม่ทำแบบ“ผักชีโรยหน้า”ปัญหานี้จะทุเลาเบาบางลงได้มากแต่จะให้สูญพันธุ์ตอบอย่างเดียวว่าคง “ยากส์”

แจ้งข่าวการสูญเสียคุณแม่ไก่-กฤษณี เลิศคุณากรณ์คุณแม่ของสุวัฒณี และสุรนาท เลิศคุณากรณ์ (อดีตผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนราธิวาส)  กำหนดสวดพระอภิธรรมเวลา 18.30 น.ณ วัดมกุฏกษัตริยาราม ราชวรวิหาร ศาลาท่านผู้หญิงตุ่น อุทิศฯ ถึงวันที่ 21 กรกฎาคม
คอลัมน์ :  ฐานโซไซตี /หน้า 4 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ/  ฉบับที่ 3,280 ประจำวันที่ 20-22 กรกฎาคม 2560