จี้ปรับตัวรับมือ‘ไร้เงินสด’สมาคมค้าเงินคาดเหลือ15% แนะใช้ดิจิตอล-อี-มันนี่

22 ก.ค. 2560 | 14:34 น.
สมาคมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจี้สมาชิกปรับตัวรับสังคมไร้เงินสด คาดภายในปี 2568 โลกใช้เงินสดแค่ 15% แนะใช้บัตรดิจิตอลและอี-มันนี่มากขึ้น

นายสัคสุพชร์ ลีละบรรยงค์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริษัท ทเวลฟ์ วิคทอรี่ จำกัด ในฐานะเลขาธิการ สมาคมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (TAFEX) กล่าวว่า Boston Consulting Group ทำนายการใช้เงินสดทั่วโลกจะลดลงเหลือน้อยกว่า 15% ภายในปี 2568 และไปชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น

ข้อมูลที่รวบรวมไว้ในปี 2559 ที่รายงานโดย Boston Consulting Group ดังกล่าวค่าเฉลี่ยทั่วโลกของการใช้เงินสดอยู่ที่ 75% อย่างไรก็ตามแนวโน้มการใช้เงินสดลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยรัฐบาลต่างชาติจำนวนมากต่างก็ยืนหยัดในการพัฒนาสู่สังคมไร้เงินสด

“ประโยชน์จากการใช้ Digital Payment จะช่วยลดการทุจริต คอร์รัปชัน และการฟอกเงินค่าใช้จ่ายในการขน ส่งเงินสด การทำลายธนบัตรเก่า และการพิมพ์ธนบัตร จะสามารถลดลงได้มากหากเปลี่ยนมาใช้ Digital Payment”

[caption id="attachment_181900" align="aligncenter" width="357"] สัคสุพชร์ ลีละบรรยงค์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริษัท ทเวลฟ์ วิคทอรี่ จำกัด สัคสุพชร์ ลีละบรรยงค์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริษัท ทเวลฟ์ วิคทอรี่ จำกัด[/caption]

นายสัคสุพชร์ กล่าวว่า รูปแบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ประกอบด้วยบัตรเดบิต บัตรเครดิต การชำระเงินทางอินเตอร์เน็ต การชำระเงินผ่านมือถือ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ การชำระเงินแบบ peer to peer การชำระเงินผ่านมือถือในรูปแบบ e-wallet และการชำระเงินแบบ peer to peer เป็นรูปแบบการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพ จะเป็นตัวขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้จ่ายเงินในอนาคตอันใกล้นี้

“ลูกค้าสามารถมีอิสระในการตัดสินใจ การจัดการกับธุรกรรมแบบชำระเงินของตนเองซึ่งจะไม่จำกัด เฉพาะธนาคารและแบบถือเงินสดอีกต่อไป”

ขณะที่ในต่างประเทศ เช่น สวีเดน จีน และอินเดีย เริ่มให้ความสำคัญต่อการลดการใช้เงินสด และการส่งเสริมการเคลื่อนไหวเพื่อสังคมไร้เงินสด ประเทศสวีเดน ร้านค้าในท้องถิ่นปัจจุบันมีการใช้เงินสดเพียง 20% ของธุรกรรม ซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งของการใช้เงินสดเทียบกับ 5 ปีที่ผ่านมา ในปัจจุบัน 3 ใน 4 ของธนาคารในสวีเดนไม่รับฝากเงินสด หรือถือครองเงินสดในมืออีกต่อไป นักวิเคราะห์เชื่อว่าใน 5 ปีข้างหน้าสวีเดนจะเป็นสังคมที่ไร้เงินสดแน่นอน

ส่วนในประเทศจีน Jack Ma และ Alibaba ตั้งใจลงทุนประมาณ 3 พันล้านหยวนต่อปีเป็นเวลา 3 ปี เพื่อผลักดันการค้าปลีกทั่วโลกให้กลายเป็นสังคมที่ไร้เงินสด

ในประเทศอินเดียการห้ามใช้เงินสดอย่างทันทีทันใด เป็นการสะท้อนถึงมุมมองของรัฐบาลในการบังคับให้ประชาชนเข้าสู่ระบบดิจิตอลใหม่ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาอัตราการชำระที่ไม่ใช้เงินสดไม่ถึง 10% ปัจจุบันนี้อยู่ที่ 22% ภายในปี 2568 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 59% การเจริญเติบโตของระบบชำระด้วยอิเล็กทรอนิกส์เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์เมื่อพิจารณาถึงสถานะของประเทศที่ยังคงเป็นประเทศกำลังพัฒนา

ส่วนไทยบัตร Rabbit บัตร True money ถือเป็นบัตร E-money ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการวางรากฐานการชำระเงินด้วย อิเล็กทรอนิคส์ อย่างไรก็ตามสัญญาณสำคัญที่สุดในความตั้งใจของรัฐบาล ในการส่งเสริมการบริการระบบจ่ายเงินด่วน (Prompt Pay) ซึ่งผู้โอนจำเป็นต้องเชื่อมโยงหมายเลขโทรศัพท์มือถือ หรือหมายเลขบัตรประชาชนเข้ากับบัญชีเงินฝากธนาคารของตน

นายสัคสุพชร์ กล่าวว่า ในที่สุดจะส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม สมาคมจึงจำเป็นต้องคิดวิธีที่จะจัดการกับการก้าวไปข้างหน้านี้ ธุรกิจแลกเงิน จำเป็นที่จะต้องปรับตัวตามความต้องการของลูกค้าที่จะมา แลกเปลี่ยนและถือครองเงินตราต่างประเทศในรูปเงินสดน้อยลง การให้บริการจึงต้องเปลี่ยนแปลงเป็นการใช้บัตร Digital หรือ E-Money มากขึ้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,280 วันที่ 20 - 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2560