ลุ้น “มากาโนมิคส์” ดันจีดีพีสหรัฐฯโต 3%
MAGAnomics เป็นคำใหม่ที่มีการพูดถึงเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย 4 อักษรแรก MAGA นั้น มาจากสโลแกน Make America Great Again ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งปลายปี 2559 เป้าหมายคือการทำให้เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกากลับมาแข็งแกร่ง ด้วยเป้าหมายขยายการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปีละ 3% อย่างยั่งยืน เพิ่มจากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่อัตราไม่ถึง 2%
นายมิค มัลวานี ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารงบประมาณสหรัฐฯ
นายมิค มัลวานี ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารงบประมาณสหรัฐฯ ระบุในบทความที่เขาเขียนลงตีพิมพ์ในเดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า “มากาโนมิคส์” คือความพยายามที่จะขับเคลื่อนสหรัฐฯไปสู่เป้าหมายการเติบโตของจีดีพี ที่ปีละ 3% ซึ่งหลายฝ่ายโจมตีว่า เป็นเป้าหมายที่หวังสูงเกินไป
มาตรการหลักๆภายใต้ “มากาโนมิคส์” ที่จะนำไปสู่เป้าหมายการขยายตัวของจีดีพีที่ 3% คือ มาตรการลดภาษี การปฏิรูประบบสวัสดิการและประกันสุขภาพ การลงทุนในโครงการพัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ การเจรจาทำข้อตกลงการค้าใหม่ๆกับประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ และการตัดลดการใช้จ่ายภาครัฐ “ถ้าสามารถดำเนินนโยบายมากาโนมิคส์อย่างที่ตั้งใจไว้ เราจะสามารถวางพื้นฐานการกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา และนั่นจะเป็นการกลับมาครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯนับจากยุคต้นทศวรรษ 1980” ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารงบประมาณสหรัฐฯกล่าว
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ส่วนหนึ่งมองว่าเป้าหมายจีดีพี 3% ของนโยบายมากาโนมิคส์นั้น ยากที่จะทำได้จริง และยิ่งจะรักษาการเติบโตในระดับนี้อย่างยั่งยืน ก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ นายโจเอล นารอฟฟ์ ประธานบริษัทที่ปรึกษา นารอฟฟ์ อิโคโนมิค แอดไวเซอร์ส ให้ความเห็นว่า นึกภาพไม่ออกเลยว่าเป้าหมายดังกล่าวจะเป็นจริงได้อย่างไร แต่ถ้าจะคิดว่าอะไรๆก็สามารถเป็นไปได้ อย่าเพิ่งพูดว่าไม่มีทาง เขาก็เห็นว่าโอกาสที่จะทำเป้าจีดีพี 3% นั้นมันอยู่ระหว่างคำว่า “มีบางๆ” กับ “ไม่มีเลย”
MAGA มาจากสโลแกน Make America Great Again ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ใช้ในการหาเสียง
ที่สำคัญก็คือ นักวิเคราะห์มองว่ามีนโยบายบางอย่างของรัฐบาลที่จะเป็นอุปสรรคต่อการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ยกตัวอย่างเมื่อเร็วๆนี้ สำนักงบประมาณรัฐสภาสหรัฐฯได้เผยบทวิเคราะห์ออกมาว่า งบประมาณที่รัฐบาลจัดสรรไว้นั้นไม่มากพอที่จะผลักดันให้จีดีพีโตถึง 3% ทั้งนี้ ประมาณการณ์ว่า งบประมาณของรัฐบาลทรัมป์จะส่งผลให้จีดีพีขยับขึ้นเพียงเฉลี่ยปีละ 1.9% ในระยะ 10 ปีข้างหน้า ตัวเลขดังกล่าว (1.9%) ไม่เพียงต่ำกว่าเป้า 3% ของนโยบายมากาโนมิคส์ แต่ยังสูงกว่าอัตราปัจจุบันเพียงนิดเดียวเท่านั้น (อัตราปัจจุบันอยู่ที่ 1.8%)
ไม่เพียงเท่านั้น การจะรักษาอัตราเติบโตที่ 3% “อย่างยั่งยืน” ยังถูกมองว่า ไม่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง “มันเป็นไปได้ที่จีดีพีจะโต 3% ในระยะสั้นๆ ยกตัวอย่างมาตรการลดภาษี อาจจะช่วยให้จีดีพีโตถึงอัตรานั้น 2-3 ไตรมาส แต่ไม่ถึง 2-3 ปีแน่ๆ” นักวิเคราะห์ระบุว่า ในความเป็นจริง การเติบโตของจีดีพีอาจจะแกว่งขึ้นๆลงๆในรายไตรมาส เช่น ในไตรมาสสามของปี 2559 จีดีพีสหรัฐฯ (รายไตรมาส) โตถึง 3.5% แต่ในระยะที่ยาวเป็นรายปีก็ไม่เคยรักษาระดับนั้นได้เลยนับตั้งแต่หลังยุคเศรษฐกิจเฟื่องฟูในทศวรรษ 1990
นายมิค มัลวานี ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารงบประมาณสหรัฐฯ
นายมิค มัลวานี ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารงบประมาณสหรัฐฯ ระบุในบทความที่เขาเขียนลงตีพิมพ์ในเดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า “มากาโนมิคส์” คือความพยายามที่จะขับเคลื่อนสหรัฐฯไปสู่เป้าหมายการเติบโตของจีดีพี ที่ปีละ 3% ซึ่งหลายฝ่ายโจมตีว่า เป็นเป้าหมายที่หวังสูงเกินไป
มาตรการหลักๆภายใต้ “มากาโนมิคส์” ที่จะนำไปสู่เป้าหมายการขยายตัวของจีดีพีที่ 3% คือ มาตรการลดภาษี การปฏิรูประบบสวัสดิการและประกันสุขภาพ การลงทุนในโครงการพัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ การเจรจาทำข้อตกลงการค้าใหม่ๆกับประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ และการตัดลดการใช้จ่ายภาครัฐ “ถ้าสามารถดำเนินนโยบายมากาโนมิคส์อย่างที่ตั้งใจไว้ เราจะสามารถวางพื้นฐานการกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา และนั่นจะเป็นการกลับมาครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯนับจากยุคต้นทศวรรษ 1980” ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารงบประมาณสหรัฐฯกล่าว
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ส่วนหนึ่งมองว่าเป้าหมายจีดีพี 3% ของนโยบายมากาโนมิคส์นั้น ยากที่จะทำได้จริง และยิ่งจะรักษาการเติบโตในระดับนี้อย่างยั่งยืน ก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ นายโจเอล นารอฟฟ์ ประธานบริษัทที่ปรึกษา นารอฟฟ์ อิโคโนมิค แอดไวเซอร์ส ให้ความเห็นว่า นึกภาพไม่ออกเลยว่าเป้าหมายดังกล่าวจะเป็นจริงได้อย่างไร แต่ถ้าจะคิดว่าอะไรๆก็สามารถเป็นไปได้ อย่าเพิ่งพูดว่าไม่มีทาง เขาก็เห็นว่าโอกาสที่จะทำเป้าจีดีพี 3% นั้นมันอยู่ระหว่างคำว่า “มีบางๆ” กับ “ไม่มีเลย”
MAGA มาจากสโลแกน Make America Great Again ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ใช้ในการหาเสียง
ที่สำคัญก็คือ นักวิเคราะห์มองว่ามีนโยบายบางอย่างของรัฐบาลที่จะเป็นอุปสรรคต่อการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ยกตัวอย่างเมื่อเร็วๆนี้ สำนักงบประมาณรัฐสภาสหรัฐฯได้เผยบทวิเคราะห์ออกมาว่า งบประมาณที่รัฐบาลจัดสรรไว้นั้นไม่มากพอที่จะผลักดันให้จีดีพีโตถึง 3% ทั้งนี้ ประมาณการณ์ว่า งบประมาณของรัฐบาลทรัมป์จะส่งผลให้จีดีพีขยับขึ้นเพียงเฉลี่ยปีละ 1.9% ในระยะ 10 ปีข้างหน้า ตัวเลขดังกล่าว (1.9%) ไม่เพียงต่ำกว่าเป้า 3% ของนโยบายมากาโนมิคส์ แต่ยังสูงกว่าอัตราปัจจุบันเพียงนิดเดียวเท่านั้น (อัตราปัจจุบันอยู่ที่ 1.8%)
ไม่เพียงเท่านั้น การจะรักษาอัตราเติบโตที่ 3% “อย่างยั่งยืน” ยังถูกมองว่า ไม่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง “มันเป็นไปได้ที่จีดีพีจะโต 3% ในระยะสั้นๆ ยกตัวอย่างมาตรการลดภาษี อาจจะช่วยให้จีดีพีโตถึงอัตรานั้น 2-3 ไตรมาส แต่ไม่ถึง 2-3 ปีแน่ๆ” นักวิเคราะห์ระบุว่า ในความเป็นจริง การเติบโตของจีดีพีอาจจะแกว่งขึ้นๆลงๆในรายไตรมาส เช่น ในไตรมาสสามของปี 2559 จีดีพีสหรัฐฯ (รายไตรมาส) โตถึง 3.5% แต่ในระยะที่ยาวเป็นรายปีก็ไม่เคยรักษาระดับนั้นได้เลยนับตั้งแต่หลังยุคเศรษฐกิจเฟื่องฟูในทศวรรษ 1990