ยนตรกิจมุ่ง‘เปอโยต์’เล็ง 3008CKD มาเลเซียสู้เอสยูวีญี่ปุ่น ชะลอ‘ซีตรอง’

21 ก.ค. 2560 | 23:00 น.
ยุคใหม่ “เปอโยต์”หวังยอดขายก้าวกระโดด ด้วยเอสยูวี 3008 เริ่มต้นนำเข้าจากฝรั่งเศส แต่ปลายปีหน้าได้ซีเคดีโรงงานมาเลเซีย พร้อมทำราคาตํ่า 2 ล้านบาทท้าชน ซีอาร์-วี เอ็กซ์-เทรล ส่วน “ซีตรอง”ในเครือเดียวกัน ชะลอแผนการทำตลาด แต่ยังดูแลบริการหลังการขายเต็มที่

ถือเป็นข่าวดังในแวดวงยานยนต์ไทยช่วงกลางปีที่แล้ว เมื่อ 2 แบรนด์ในกลุ่ม “พีเอสเอ” ของฝรั่งเศสปรับโครงสร้างทางธุรกิจ โดย“ซีตรอง” หลุดจากการดูแลของ “ดีเอดี ยนตรกิจ” หรือกลุ่มของพี่ใหญ่ในตระกูลอย่าง “วิเชียร ลีนุตพงษ์” มาสู่อ้อมแขน “ยนตรกิจ ออโตโมบิลล์”หรือ “ยูโรเปียน มอเตอร์คาร์”ของ “พลกฤษณ์ ลีนุตพงษ์” ที่ทำตลาดเปอโยต์แบบเด็ดเดี่ยวมากว่า 40 ปี แม้จะนามสกุลเดียวกัน ทว่าธุรกิจรถยนต์แบรนด์ต่างๆที่แต่ละบ้านได้สิทธิ์เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย ถูกแยกจากกันชัดเจนและปัจจุบันลูกหลานในเจเนอเรชันที่ 3 เริ่มมีบทบาทในการบริหารมากขึ้น

MP36-3280-1 เมื่อบริษัทแม่ที่ฝรั่งเศส เห็นว่ากลุ่มเปอโยต์ของ“ยูโรเปียน มอเตอร์คาร์” มุ่งมั่นทำตลาดอย่างจริงจัง และมีศักยภาพเพียงพอในการดูแลลูกค้าของ “ซีตรอง” เพราะรถยนต์หลายรุ่นใช้พื้นฐานวิศวกรรมร่วมกับเปอโยต์ ทั้งยังสามารถสื่อสารแผนงานได้โดยตรงและชัดเจนกับดิสทริบิวเตอร์รายเดียว ขณะเดียวกัน “ยูโรเปียน มอเตอร์คาร์” สามารถใช้โชว์รูมเปอโยต์ที่มีอยู่ขายรถยนต์ทั้ง 2 แบรนด์คู่กันไปได้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Bi Marque (แบ่งโซนชัดเจน) ดีลนี้จึงสมประโยชน์กันทุกฝ่าย

อย่างไรก็ตาม หลังจาก “ยูโรเปียน มอเตอร์คาร์” ได้สิทธิ์ทำตลาดซีตรองแล้ว ดูจะยังไม่ขยับเรื่องการเปิดตัวรถใหม่ หรือสื่อสารการตลาดมากนัก

“เรารอดูการปรับภาษีสรรพสามิตใหม่ที่คิดตามราคาขายปลีก เตรียมประกาศใช้ในเดือนกันยายนนี้ ก่อนตัดสินใจนำเข้าซีตรองรุ่นใหม่มาทำตลาด ส่วนการบริการหลังการขายยังดูแลอย่างเต็มที่ ปัจจุบันมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการประมาณ ?300 จ็อบต่อเดือน แบ่งเป็นลูกค้าเปอโยต์ 70% และซีตรอง 30%” นายกิจจาทร ลีนุตพงษ์ (ลูกของพลกฤษณ์ ลีนุตพงษ์) ผู้อำนวยการฝ่ายบริการหลังการขาย บริษัท ยูโรเปียน มอเตอร์คาร์ จำกัด กล่าวและว่า

ปัจจุบันเปอโยต์-ซีตรองมีโชว์รูมศูนย์บริการ 3 แห่งที่ ทองหล่อ สุขาภิบาล3, เชียงใหม่ และเตรียมเปิดใหม่อีก 1 แห่งย่านรังสิต แต่จะดำเนินงานผ่านดีลเลอร์ที่กำลังเจรจากันอยู่ ในส่วนโปร ดักต์แม้ซีตรองยังไม่มีรถใหม่เปิดตัว แต่บริษัทแม่ก็เข้าใจในสถานการณ์และบอกว่าให้ทุ่มไปกับเปอโยต์อย่างเต็มที่

“หลังเรารู้อัตราภาษีสรรพสามิตใหม่แล้ว ค่อยมาพิจารณาว่าจะนำรถยนต์รุ่นไหนเข้ามาขาย แต่ต้องยอมรับว่าซีตรองหรือซับแบรนด์ดีเอส ถูกวางตำแหน่งการตลาดไว้สูงกว่าเปอโยต์ จึงต้องพิจารณาราคาขายให้รอบคอบ”

MP36-3280-2 เมื่อบริษัทแม่บอกว่า แบรนด์หลักในการทำธุรกิจยังเป็นเปอโยต์ บริษัทก็ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยเดือนกันยายนนี้เตรียมนำเข้าเอสยูวีรุ่นใหม่ 3008 มาเปิดตัว ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 2.0 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ออพชันเต็ม ทั้งหลังคาแก้ว ชุดเครื่องเสียงพรีเมียม ประตูท้ายควบคุมการเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า สนนราคาประมาณ 2.5 ล้านบาท พร้อมส่งมอบให้ลูกค้าได้ทันที

สำหรับ 3008 เป็นเอสยูวี 5 ที่นั่งรุ่นใหม่เพิ่งเริ่มผลิตพวงมาลัยขวาที่โรงงานประเทศฝรั่งเศส และจะมีรุ่น 5008 ที่ใช้พื้นฐานเดียวกันแต่มีฐานล้อยาวขึ้นรองรับ 7 ที่นั่ง ซึ่งบริษัทพร้อมนำเข้ามาทำตลาดเช่นกัน

นายกิจจาทร กล่าวว่า ทีเด็ดของเปอโยต์จะอยู่ในช่วงปลายปีหน้า เมื่อโรงงานประเทศมาเลเซียเริ่มประกอบ 3008 แต่สเปกจะต่างจากเวอร์ชันฝรั่งเศสพอสมควร โดยใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร เทอร์โบ แต่ราคาจะตํ่าลงมาเหลือไม่ถึง 2 ล้านบาท สามารถแข่งขันกับคอมแพ็กต์เอสยูวี แบรนด์ญี่ปุ่นได้ (ฮอนด้า ซีอาร์-วี,นิสสัน เอ็กซ์-เทรล,มาสด้า ซีเอ็กซ์-5) พร้อมทั้งผลักดันยอดขายรวมบริษัทเป็น 400-500 คันต่อปี หรือเพิ่มจากปัจจุบันที่ทำได้ 100-150 คันต่อปี
ปัจจุบันเปอโยต์ มีรถยนต์ทำตลาด 3 รุ่นหลักคือ 408 ซีดานโฉมใหม่ เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร เทอร์โบ 165 แรงม้า ราคา 1.69 ล้านบาท และ 308 Sw เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 1.6 ลิตร 120 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตัน-เมตร ราคา 2.39 ล้านบาท รวมถึงรถตู้รุ่น “เอ็กซ์เพิร์ต” (Expert) เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 2.0 ลิตร 163 แรงม้า แรงบิด 340 นิวตัน-เมตร ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,280 วันที่ 20 - 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2560