คอนโดตํ่า 2 ล้านซึมยาว ตลาดอิ่มตัว สต๊อกเหลือขายกว่าหมื่นหน่วย

22 ก.ค. 2560 | 08:37 น.
กูรูอสังหาฯเห็นพ้องตลาดคอนโดฯตํ่า 2 ล้านซบยาว เหตุเศรษฐกิจซบ ปัญหาหนี้ครัวเรือนรุมเร้า คอลลิเออร์ส เผยสต๊อกคงเหลือกว่าหมื่นหน่วย

ที่ปรึกษาสมาคมอาคารชุด ชี้ตลาดอิ่มตัว สินค้าเกินความต้องการ เผยในรอบ 10 ปีมีสินค้าสู่ตลาดกว่า 7-8 แสนหน่วย จากภาวะเศรษฐกิจที่ตกตํ่าต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้สินค้าในกลุ่มกลาง-ล่าง โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมราคาตํ่า 2 ล้านบาทได้รับผลกระทบ เนื่องจากผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายประสบปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน จนกระทบมายังการพิจารณาปล่อยสินเชื่อบ้านของสถาบันการเงิน ซึ่งเห็นได้จากยอดปฏิเสธสินเชื่อที่มีอัตราเฉลี่ยสูงถึง 40-50% และดูเหมือนว่าสถานการณ์เศรษฐกิจจะยังคงชะลอตัวเช่นนี้ต่อเนื่อง

นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า นับตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ให้ความสำคัญกับตลาดคอนโดมิเนียมราคาขายมากกว่า 70,000 บาทต่อ?ตารางเมตร หรือราคาขายต่อหน่วยมากกว่า 2 ล้านบาทมากขึ้น ในขณะที่กลุ่มระดับราคาตํ่ากว่า 50,000 บาทต่อตารางเมตรนั้น แทบจะไม่มีแล้วเนื่องจากราคาที่ดินที่สูงขึ้น ทำให้ไม่สามารถพัฒนาโครงการที่มีราคาขายระดับนี้ในพื้นที่กรุงเทพฯได้

ขณะเดียวกันโครงการที่เปิดขายใหม่ช่วงระดับราคา 50,000-70,000 บาทต่อตารางเมตร ก็มีจำนวนลดลงเช่นกัน เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ประกอบการหลายรายเดินหน้าพัฒนาโครงการที่มีราคาขายในระดับนี้จำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากผู้ซื้อค่อนข้างดี แต่เมื่อโครงการเหล่านี้สร้างเสร็จและพร้อมโอนกรรมสิทธิ์เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่เศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ผู้ซื้อส่วนหนึ่งไม่สามารถขอสินเชื่อจากธนาคารได้ ห้องชุดเหล่านั้นจึงกลับมาเป็นภาระของผู้ประกอบการอีกครั้ง

ทั้งนี้ จากการสำรวจคอนโดมิเนียมที่เปิดขายในราคาตํ่ากว่า 70,000 บาทต่อตารางเมตร ตั้งแต่ปี 2556 - ครึ่งแรกปี 2560 พบว่า มีจำนวนอยู่ที่ประมาณ 73,298 หน่วย ขายไปได้ประมาณ 85% โดยโครงการส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่นอกแนวเส้นทางรถไฟฟ้าปัจจุบัน แต่ก็ยังมีอีกหลายโครงการที่อยู่ในแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างอยู่

[caption id="attachment_181432" align="aligncenter" width="503"] คอนโดตํ่า 2 ล้านซึมยาว ตลาดอิ่มตัว สต๊อกเหลือขายกว่าหมื่นหน่วย คอนโดตํ่า 2 ล้านซึมยาว ตลาดอิ่มตัว สต๊อกเหลือขายกว่าหมื่นหน่วย[/caption]

“แม้จะมีอัตราการขายที่ค่อนข้างสูง แต่เมื่อพิจารณาจากหน่วยเหลือขายแล้ว ก็อาจจะยังเป็นที่น่ากังวลพอสมควร เพราะมีหน่วยเหลือขายไม่ตํ่ากว่า 10,000 หน่วย ซึ่งคอนโดมิเนียมที่เหลือขายในกลุ่มนี้เป็นของผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯประมาณ 48% ที่เหลือเป็นของผู้ประกอบการรายย่อย ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันยังไม่มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัว ขณะที่สถาบันการเงินเองก็ยังเพิ่มระดับความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ทำให้คาดการณ์ได้ว่าตลาดคอนโดมิเนียมระดับกลาง-ล่างจะยังคงชะลอตัวต่อเนื่องอย่างน้อยไปจนถึงปีหน้า”นายสุรเชษฐ กล่าว

ด้าน นายธำรง ปัญญาสกุลวงศ์ นายกสมาคมกิตติมศักดิ์ และที่ปรึกษาสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า หากดูตัวเลขการเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมระดับกลาง-ล่างในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา (ปี 2548-ปัจจุบัน) พบว่ามีสินค้าเข้าสู่ตลาดราว 7-8 แสนหน่วย ผู้บริโภคที่อยู่ในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ก็ซื้อไปหมดแล้ว สำหรับกลุ่มเก็งกำไรก็ซื้อเพื่อการลงทุนกันหมดแล้ว และยิ่งในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันยิ่งทำให้นักลงทุนกลุ่มนี้ลดลง

[caption id="attachment_43911" align="aligncenter" width="334"] ธำรง ปัญญาสกุลวงศ์ นายกสมาคมกิตติมศักดิ์ และที่ปรึกษาสมาคมอาคารชุดไทย และประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท นิรันดร์กรุ๊ปฯ ธำรง ปัญญาสกุลวงศ์
นายกสมาคมกิตติมศักดิ์ และที่ปรึกษาสมาคมอาคารชุดไทย และประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท นิรันดร์กรุ๊ปฯ[/caption]

“ด้วยสภาพตลาดในปัจจุบันอาจกล่าวได้ว่า ตลาดคอนโดมิเนียมระดับกลาง-ล่าง อยู่ในภาวะอิ่มตัว ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะที่ผ่านมาผู้ประกอบการต่างมุ่งเน้นพัฒนาสินค้าในกลุ่มนี้เป็นหลัก เหตุเพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อขนาดใหญ่” นายธำรง กล่าว

ทั้งนี้ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือเป็นเจ้าตลาดคอนโดมิเนียมระดับกลาง-ล่าง ยังหันไปพัฒนาโครงการระดับกลาง-บน แทน เพื่อลดความเสี่ยงจากกลุ่มกลาง-ล่าง ที่มีปัญหาในเรื่องของการถูกปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงิน โดยเมื่อตอนต้นปี 2560 บมจ.แอล.พี.เอ็น.ได้ชี้แจงว่าในปี 2560 บริษัทต้องเร่งระบายสต๊อกคอนโดมิเนียมที่มีอยู่จำนวน 13,000 หน่วย มูลค่า 14,000 ล้านบาท ให้มากที่สุด พร้อมกับเปิด 12 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,280 วันที่ 20 - 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2560