20 ปี‘รถอีวี’ยึดยุโรป อานิสงส์ต้นทุนถูกลง

21 ก.ค. 2560 | 23:30 น.
ธนาคารไอเอ็นจีคาดการณ์ว่า ภายใน 20 ปีข้างหน้า รถยนต์ใหม่ทั้งหมดที่จำหน่ายในยุโรปจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า จากอานิสงส์ของต้นทุนการผลิตที่ลดลง

ธนาคารไอเอ็นจีของเยอรมนีระบุผ่านรายงาน โดยคาดการณ์ว่ารถยนต์ไฟฟ้า(อีวี)เต็มรูปแบบจะกลายมาเป็นตัวเลือกหลักของผู้ขับขี่ในยุโรปในช่วงระหว่างปี 2560-2567 หลังจากราคาในโชว์รูมลดลง เนื่องจากราคาแบตเตอรี่ที่ถูกลง และระยะการวิ่งสูงขึ้นประกอบกับจุดชาร์จแบตเตอรี่มีแพร่หลายมากขึ้นจากการสนับสนุนของรัฐบาล ก่อนที่รถยนต์ใหม่ที่จดทะเบียนทั่วทวีปยุโรปจะกลายมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 100% ในปี 2578

นักวิเคราะห์ของไอเอ็นจีคาดการณ์ด้วยว่า เมื่อถึงปี 2567 ต้นทุนการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งรวมทั้งการซื้อและชาร์จพลังงาน ในประเทศเยอรมนีจะอยู่ในระดับเดียวกับการเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินหรือดีเซล

ขณะที่ความกังวลของผู้ขับขี่เกี่ยวกับระยะทางการวิ่งจะค่อยๆ ลดน้อยลงไป โดยคาดว่าระยะการวิ่งต่อการชาร์จ 1 ครั้งจะเพิ่มขึ้นจาก 100-150 ไมล์ในปัจจุบันเป็นมากกว่า 400 ไมล์ในช่วง 10 ปีข้างหน้า

ผู้ผลิตรถยนต์เองก็จะหันมาให้ความสำคัญกับรถยนต์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวในช่วง 10 ปีจากนี้ไป ไอเอ็นจีคาดการณ์ โดยเมื่อไม่นานมานี้วอลโว่กลายมาเป็นผู้ผลิตรายใหญ่รายแรกที่ประกาศแผนการเปลี่ยนมาผลิตรถยนต์ระบบไฮบริดและไฟฟ้าทั้งหมดตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป

mp31-3272-2 อย่างไรก็ตาม ทางธนาคารเตือนว่า เมื่อถึงเวลาที่รถยนต์ไฟฟ้าครอบครองตลาดส่วนใหญ่ ผู้ผลิตสัญชาติยุโรปเสี่ยงที่จะพ่ายแพ้ให้กับผู้ผลิตจากสหรัฐฯ และเอเชีย ที่มีความได้เปรียบในด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้า
ในขณะที่ไอเอ็นจีคาดการณ์ว่าการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์ใช้นํ้ามันเชื้อเพลิงไปสู่รถยนต์ไฟฟ้จะเกิดขึ้นรวดเร็วกว่าการคาดการณ์จากบริษัทวิจัยอื่นๆ หรือแม้แต่ทางการฝรั่งเศสที่เมื่อไม่นานมานี้ประกาศแผนห้ามขายรถยนต์ใหม่ในระบบนํ้ามันเชื้อเพลิงในปี 2583แต่เป็นที่แน่ชัดว่าแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงกำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ผู้ผลิตนํ้ามันก็เริ่มมองเห็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงนี้ กลุ่มประเทศผู้ผลิตนํ้ามันเป็นสินค้าส่งออก หรือโอเปก รับเพิ่มคาดการณ์จำนวนรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2583เป็น 266 ล้านคัน จากเมื่อปีก่อนที่คาดการณ์ไว้เพียง 46 ล้านคัน เช่นเดียวกับบีพีที่คาดว่าจะมีรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งบนท้องถนน 100 ล้านคันภายในปี 2578 เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เมื่อปีก่อน 40%

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,280 วันที่ 20 - 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2560