สพาร์จับมือดีเอชแอลเปิดร้านสะดวกซื้อเป้าปี63มี 300 สาขาทั่วไทย

14 ก.ค. 2560 | 04:27 น.
 

สพาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (SPAR International) เครือธุรกิจร้านค้าปลีกผลิตภัณฑ์อาหารรายใหญ่ที่สุดของโลก จับมือเป็นพันธมิตรกับ ดีเอชแอล ซัพพลายเชน (DHL Supply Chain) และบริษัท บางจาก รีเทล จำกัด (Bangchak Retail Company-BCR) เตรียมเปิดตัวร้านสะดวกซื้อกว่า 300 สาขาทั่วประเทศไทย ภายในสิ้นปี พ.ศ. 2563

DHL

มร. ทอม โรส ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ สพาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เผยว่า สพาร์คือกลุ่มธุรกิจจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งรายใหญ่ระดับนานาชาติ มีสาขากว่า12,100 แห่งใน 43 ประเทศ และไทยเป็นประเทศที่ 44 โดยให้สิทธิกับบางจากฯผู้เดียวในไทย ให้บริการลูกค้าด้วยจุดเด่นที่แตกต่างคือ อาหารสด มีมุมจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากชุมชน พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์จากชุมชนเพื่อจำหน่ายในไทยและส่งออกไปต่างประเทศอีกด้วย

ปัจจุบันร้านสพาร์ (SPAR) เปิดให้บริการแล้ว 20 สาขา ส่วนใหญ่จะตั้งในสถานีบริการน้ำมันบางจาก ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งในปี2560 นี้บริษัท บางจาก รีเทลฯ มีแผนการขยายสาขาของร้านสพาร์ ไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศกว่า 50 สาขา และตั้งเป้าขยายเป็น300 สาขาภายในสิ้นปี 2563 เพื่อส่งมอบประสบการณ์ใหม่นี้ให้กับลูกค้าได้ใช้บริการกันอย่างทั่วถึง

สำหรับสัญญาพันธมิตรธุรกิจกับดีเอชแอลในครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนแผนการขยายธุรกิจของสพาร์ ซุปเปอร์มาร์เก็ตให้ประสบความสำเร็จ ด้วยบริการขนส่งสินค้า บริการกระจายสินค้า และคลังสินค้าแบบครบวงจรที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทยของดีแอชแอล ส่วนบริษัท บางจาก รีเทล จำกัดจะให้การสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐานให้แก่สพาร์ ซุปเปอร์มาเก็ต ร้านค้าปลีกสัญชาติดัทช์ ปัจจุบันการดำเนินงานซัพพลายเชนของสพาร์ใช้คลังสินค้าดีเอชแอล บางนา ลอจิสติกส์แคมปัส เป็นคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้า และใช้คลังสินค้าย่านคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ ในการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์อาหาร
แช่แข็ง

DHL2

“เราต้องการพันธมิตรด้านลอจิสติกส์ที่มีประสบการณ์อันยาวนานในด้านซัพพลายเชนธุรกิจค้าปลีกผลิตภัณฑ์อาหารระดับโลก เพื่อเผยแพร่ชื่อเสียงของ สพาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ทั้งในด้านความสดใหม่ ทางเลือกที่หลากหลาย คุณภาพที่เป็นเลิศ และบริการอันน่าประทับใจสู่ผู้บริโภคในประเทศไทย ซึ่งชื่อเสียงของดีเอชแอลในการเสริมสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่ธุรกิจค้าปลีกอาหารมาแล้วทั้งในประเทศไทยและตลาดทั่วโลก ทำให้เราเชื่อมั่นในการเลือกใช้โครงสร้างพื้นฐานและบริการของดีเอชแอล เพื่อเป็นรากฐานของซัพพลายเชนของเราในประเทศไทย”

“เมื่อได้ร่วมงานกัน ดีเอชแอสร้างความประทับใจแก่สพาร์อย่างมาก ด้วยบริการขนส่งสินค้าผ่านการจัดหาบริการจากบุคคลภายนอกที่มีความราบรื่นและโปร่งใส ทำให้เราวางใจได้ว่าพันธมิตรธุรกิจจะช่วยให้สพาร์ สามารถขยายการเติบโตทางธุรกิจในประเทศไทยได้อย่างมหาศาล”

ส่วนระบบโครงสร้างพื้นฐานของ ดีเอชแอล ซัพพลายเชน จะช่วยส่งเสริมมาตรฐานการดำเนินงานของ สพาร์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ด้วยประสิทธิภาพการทำงานในด้านต่าง ๆ ทั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ระบบป้องกันอัคคีภัยอัตโนมัติ และระบบคลังสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิประสิทธิภาพสูง โดยคลังสินค้าทั้งสองแห่งจะบริหารจัดการด้วยระบบ WMOS เพื่อรักษามาตรฐานด้านความถูกต้องของสินค้าคงคลังและประสิทธิภาพการผลิตให้สอดคล้องกับมาตรฐานการดำเนินงานขั้นสูงระดับสากลของสพาร์

ด้านมร. เควิน เบอร์เรล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีเอชแอล ซัพพลายเชน ประเทศไทย กล่าวว่า ดีเอชแอล เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัท ดอยช์ โพสต์ ดีเอชแอล โดยกลุ่มบริษัทมีรายได้มากกว่า 57,000 ล้านยูโรในปี พ.ศ. 2559 ซึ่งการดำเนินธุรกิจค้าปลีกจำเป็นต้องมีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านระดับสูง เพื่อการรักษามาตรฐานด้านความถูกต้องของสินค้าคงคลัง ความถูกต้องในการขนส่งสินค้า และการทำงานที่ตรงต่อเวลา ซึ่งจำเป็นต่อการตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของผู้บริโภค เนื่องจากภาคธุรกิจค้าปลีกของไทยต้องการขยายการเติบโตอย่างเข้มแข็งไปพร้อมกับรักษาระดับรายได้หลังหักภาษี บริษัทจึงต้องการผลักดันให้บริการที่ได้รับรางวัลระดับสากลก้าวหน้าไปอีกขั้น ผ่านการสนับสนุนให้ธุรกิจของสพาร์สามารถนำเสนอคุณภาพระดับโลกสู่มือผู้บริโภคในเมืองไทย