“บิ๊กจิน”ลงใต้ปลุกวางแผนสั้น-กลาง-ยาวแก้ปัญหาเกษตร

13 ก.ค. 2560 | 14:01 น.
หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. ลงพื้นที่ ประชุมหารือแนวทางการกระจายผลผลิตทางการเกษตร 5 จังหวัดชายแดนใต้ แนะสู่เกษตรผสมผสาน สร้างผลผลิตต่อเนื่อง วางแผนต่อเนื่องทางสั้น-กลาง-ยาว

เว็บไซต์www.thaigov.go.th  โดยสำนักโฆษก ทำเนียบรัฐบาล เผยแพร่ข่าวว่า เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมนี้ ที่ห้องประชุมวิวรรธน์ ปฐมภาคย์  ภายในกองบัญชาการพลทหารราบที่ 15  ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย  ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พล.อ.อ.ประจิน  จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เป็นประธานในการประชุมหารือแนวทางการกระจายผลผลิตทางการเกษตรของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ใน 5 จังหวัด ได้แก่ สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ร่วมกับหน่วยงานรัฐทุกระดับที่เกี่ยวข้อง และตัวแทนภาคเอกชนในพื้นที่

prajin2 (1)

หลังรับฟังรายงานข้อมูลด้านการเกษตร และแนวทางแก้ไขของแต่ละจังหวัดแล้ว พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า การเกษตรเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญในระดับต้น ๆ เพราะประเทศเราเป็นประเทศเกษตรกรรม พร้อมทั้งได้หารือและรับฟังข้อคิดเห็นจากฝ่ายต่าง ๆ ทั้งของจังหวัด ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และประธานหอการค้าของแต่ละจังหวัด โดยแต่ละจังหวัดได้เสนอความต้องการที่จะให้รัฐบาลช่วยเหลือในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช.ได้เสนอแนะแนวทางในการแก้ปัญหาในภาพรวม ให้ทุกจังหวัดควรวางแผนและหามาตรการในการส่งเสริมผลิตผลทางการเกษตรเป็นระยะต่าง ๆ ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ด้วยการปลูกพืชทดแทนผลผลิตที่ลดลง รวมถึงปลูกพืชหมุนเวียน เพื่อให้มีผลผลิตออกจำหน่ายได้ตลอดทั้งปี โดยให้ส่วนราชการสนับสนุนในเรื่องของการให้ความรู้ การจัดหาพันธุ์พืชและปุ๋ยในราคาถูก ตลอดจนการวางแผนขนส่งผลผลิตจากสวนไปสู่ตลาดกลาง โดยเฉพาะในเรื่องของถนนที่เป็นปัจจัยสำคัญในการนำผลผลิตออกไปสู่ส่วนต่าง ๆ จะได้ประสานงานกับหน่วยงานที่รับผิดชอบให้ดูแลในเรื่องของการพัฒนาและซ่อมแซมเส้นทางให้ใช้งานได้ตลอดปี

ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช.ได้ให้นโยบายเพิ่มเติมโดยขอให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เข้าไปกำกับดูแลในเรื่องของการส่งเสริมการตลาดให้กับผลผลิตที่ออกมาของเกษตรกร การรักษาคุณภาพผลผลิตให้อยู่ได้นานขึ้น และการส่งเสริมให้มีผลผลิตชนิดใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น เพื่อให้มีความหลากหลาย โดยไม่ให้ล้นตลาด อาทิ พืชสมุนไพร ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญและส่งเสริม โดยขอให้ทุกฝ่ายทั้งส่วนราชการที่เป็นภาครัฐและหอการค้าจังหวัดที่เป็นภาคเอกชนได้ร่วมมือกันในลักษณะประชารัฐ โดยปัญหาต่าง ๆ ที่ทุกฝ่ายนำมาเสนอในครั้งนี้จะได้นำไปเสนอให้นายกรัฐมนตรีเพื่อทราบพร้อมประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยด่วน ต่อไป