ไมโครซอฟท์ดันโครงการนำเน็ตเร็วสูงเข้าสู่ชนบท
ปัจจุบันยังมีชาวอเมริกันที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจำนวนกว่า 30 ล้านคนทั่วประเทศ ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จึงได้ผลักดันโครงการ Rural Airband ขึ้นมา มุ่งหวังถมช่องว่างของบริการบรอดแบนด์ในเขตชนบท
นายแบรด สมิธ ประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของไมโครซอฟท์ สำนักงานใหญ่ซานฟรานซิสโก เปิดเผยผ่านเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์เมื่อเร็วๆนี้ (11 ก.ค.) ว่าถึงเวลาแล้วที่สหรัฐอเมริกาจะต้องกำหนดเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่แต่สามารถลงมือทำให้สัมฤทธิ์ผลได้ นั่นคือการขจัดช่องว่างของบริการสัญญาณบรอดแบนด์ในพื้นที่ชนบทให้ได้ภายในระยะ 5 ปีข้างหน้า ซึ่งนั่นหมายถึงภายในวันที่ 4 กรกฎาคม 2022 (ซึ่งตรงกับวันชาติสหรัฐอเมริกา)
ทั้งนี้ บริการด้านการสื่อสารผ่านสัญญาณบรอดแบนด์ได้กลายมาเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญทางเศรษฐกิจแห่งศตวรรษที่ 21 ไปแล้ว แต่จากการสำรวจโดยคณะกรรมาธิการการสื่อสารโทรคมนาคมกลางแห่งสหรัฐฯ หรือ เอฟซีซี (Federal Communications Commission: FCC) พบว่า ปัจจุบันยังมีชาวอเมริกันอีกประมาณ 34 ล้านคนที่ยังไม่มีช่องทางเข้าสู่บริการ “อินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์” ซึ่งโดยนิยามของเอฟซีซี คือ การเชื่อมต่อข้อมูลที่ความเร็ว 25 Mbps หรือ 25 เมกะบิตต่อวินาที
“ในจำนวนประชากรที่ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 34 ล้านคนของสหรัฐอเมริกานั้น จำนวน 23.4 ล้านคนเป็นผู้ที่อยู่ในเขตชนบท พวกเขาคือผู้ที่อยู่ในชุมชนห่างไกลตัวเมือง และขาดโอกาสที่จะได้รับประโยชน์ทั้งทางเศรษฐกิจและการศึกษา(จากการมีช่องทางเข้าสู่อินเทอร์เน็ต)อย่างที่ประชากรในเมืองใหญ่ได้รับอยู่” รายงานของเอฟซีซีระบุ
ผู้บริหารของไมโครซอฟท์กล่าวว่า มีความพยายามที่จะลดความเหลื่อมล้ำแตกต่างระหว่างสังคมเมืองและชนบทก็จริง แต่ในระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความพยายามที่จะลดช่องว่างในด้านการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในสหรัฐฯกลับไม่คืบหน้าไปมากนักจากหลากหลายสาเหตุด้วยกัน อาทิ ต้นทุนที่ขยับสูงขึ้น การขาดแคลนเทคโนโลยีทางเลือกใหม่ๆ รวมทั้งเงื่อนไขข้อกำหนดของรัฐบาลและในตลาดเอง ทำให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงขยายพื้นที่ครอบคลุมได้ไม่มากเท่าที่ควร
ไมโครซอฟท์เองใช้เวลาหลายปีพยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าวและได้จัดทำสมุดปกขาวออกมาเผยแพร่เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา เนื้อหาเป็นการนำเสนอแนวคิดเชิงยุทธศาสตร์การพัฒนาอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในพื้นที่ชนบทของสหรัฐฯ ที่เน้นการใช้เทคโนโลยีผสมผสานเพื่อต้นทุนที่เหมาะสม “เพื่อให้ประชาชนในเขตชนบทสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เราต้องใช้เงินลงทุนและเงินดำเนินการเบื้องต้นมูลค่าระหว่าง 8 ถึง 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ” ส่วนหนึ่งของรายงานชิ้นนี้ระบุ และว่า การนำเทคโนโลยีหลายๆอย่างมาใช้ร่วมกันจะช่วยประหยัดเงินลงทุนได้ มูลค่าการลงทุนโดยประเมินดังกล่าวนับว่าถูกกว่าการใช้เทคโนโลยีเคเบิ้ลไยแก้วเพียงอย่างเดียวถึง 80% และถูกกว่าการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายแบบปัจจุบันที่เป็นอยู่ (4G) กว่า 50%
นายแบรด สมิธ ประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของไมโครซอฟท์ สำนักงานใหญ่ซานฟรานซิสโก เปิดเผยผ่านเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์เมื่อเร็วๆนี้ (11 ก.ค.) ว่าถึงเวลาแล้วที่สหรัฐอเมริกาจะต้องกำหนดเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่แต่สามารถลงมือทำให้สัมฤทธิ์ผลได้ นั่นคือการขจัดช่องว่างของบริการสัญญาณบรอดแบนด์ในพื้นที่ชนบทให้ได้ภายในระยะ 5 ปีข้างหน้า ซึ่งนั่นหมายถึงภายในวันที่ 4 กรกฎาคม 2022 (ซึ่งตรงกับวันชาติสหรัฐอเมริกา)
ทั้งนี้ บริการด้านการสื่อสารผ่านสัญญาณบรอดแบนด์ได้กลายมาเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญทางเศรษฐกิจแห่งศตวรรษที่ 21 ไปแล้ว แต่จากการสำรวจโดยคณะกรรมาธิการการสื่อสารโทรคมนาคมกลางแห่งสหรัฐฯ หรือ เอฟซีซี (Federal Communications Commission: FCC) พบว่า ปัจจุบันยังมีชาวอเมริกันอีกประมาณ 34 ล้านคนที่ยังไม่มีช่องทางเข้าสู่บริการ “อินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์” ซึ่งโดยนิยามของเอฟซีซี คือ การเชื่อมต่อข้อมูลที่ความเร็ว 25 Mbps หรือ 25 เมกะบิตต่อวินาที
“ในจำนวนประชากรที่ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 34 ล้านคนของสหรัฐอเมริกานั้น จำนวน 23.4 ล้านคนเป็นผู้ที่อยู่ในเขตชนบท พวกเขาคือผู้ที่อยู่ในชุมชนห่างไกลตัวเมือง และขาดโอกาสที่จะได้รับประโยชน์ทั้งทางเศรษฐกิจและการศึกษา(จากการมีช่องทางเข้าสู่อินเทอร์เน็ต)อย่างที่ประชากรในเมืองใหญ่ได้รับอยู่” รายงานของเอฟซีซีระบุ
ผู้บริหารของไมโครซอฟท์กล่าวว่า มีความพยายามที่จะลดความเหลื่อมล้ำแตกต่างระหว่างสังคมเมืองและชนบทก็จริง แต่ในระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความพยายามที่จะลดช่องว่างในด้านการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในสหรัฐฯกลับไม่คืบหน้าไปมากนักจากหลากหลายสาเหตุด้วยกัน อาทิ ต้นทุนที่ขยับสูงขึ้น การขาดแคลนเทคโนโลยีทางเลือกใหม่ๆ รวมทั้งเงื่อนไขข้อกำหนดของรัฐบาลและในตลาดเอง ทำให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงขยายพื้นที่ครอบคลุมได้ไม่มากเท่าที่ควร
ไมโครซอฟท์เองใช้เวลาหลายปีพยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าวและได้จัดทำสมุดปกขาวออกมาเผยแพร่เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา เนื้อหาเป็นการนำเสนอแนวคิดเชิงยุทธศาสตร์การพัฒนาอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในพื้นที่ชนบทของสหรัฐฯ ที่เน้นการใช้เทคโนโลยีผสมผสานเพื่อต้นทุนที่เหมาะสม “เพื่อให้ประชาชนในเขตชนบทสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เราต้องใช้เงินลงทุนและเงินดำเนินการเบื้องต้นมูลค่าระหว่าง 8 ถึง 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ” ส่วนหนึ่งของรายงานชิ้นนี้ระบุ และว่า การนำเทคโนโลยีหลายๆอย่างมาใช้ร่วมกันจะช่วยประหยัดเงินลงทุนได้ มูลค่าการลงทุนโดยประเมินดังกล่าวนับว่าถูกกว่าการใช้เทคโนโลยีเคเบิ้ลไยแก้วเพียงอย่างเดียวถึง 80% และถูกกว่าการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายแบบปัจจุบันที่เป็นอยู่ (4G) กว่า 50%