แม้ “บางกอก ออโต ซาลอน 2017” ปิดฉากไปแล้ว (9 ก.ค.) แต่พลังหลังการจัดงานยังมีผลกระทบต่อเนื่อง ทั้งการจับคู่ธุรกิจ การเจรจาทางการค้า (B2B) ในส่วนของผู้บริโภคยังได้อุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติม รวมถึงการเพิ่มสมรรถนะ และการดูแลรักษารถที่อาจจะไปใช้บริการหลังจบงาน ขณะเดียวกันยังมีผู้ชมงานส่วนหนึ่งนำแรงบันดาลใจจากรถแต่งนำเข้ามาจากญี่ปุ่น และรถสวยๆของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศ ไปพัฒนาต่อยอดหรือปรับความโดดเด่นให้เข้ากับสไตล์ของตนเอง
ในส่วนกลุ่มของคอมแพ็กต์คาร์ มีความน่าสนใจเพราะถือเป็นกลุ่มที่ผู้บริโภคนิยมนำรถไปตกแต่งเพิ่มเติมกันมาก โดยงานนี้ ฮอนด้านำ “ซีวิค แฮตช์แบ็ก” มาเสริมหล่อ ส่วน “มาสด้า3” ถูกแต่งขึ้นเป็นพิเศษเพื่อโชว์ในงานนี้โดยเฉพาะ
สำหรับ “มาสด้า 3 ตัวถังแฮตช์แบ็ก” ถูกนิยามว่าเป็นความสปอร์ตแบบยูโรเปียนสไตล์ ด้วยเส้นสาย รายละเอียดที่ตกแต่งบนตัวรถ การเลือกใช้วัสดุประเภทเดียวกับรถระดับหรู รวมถึงอุปกรณ์ ชิ้นส่วน อะไหล่แต่งต่างๆ ที่ติดตั้งกับระบบเบรก ช่วงล่าง รวมถึงขนาดยางและล้ออัลลอย
มาสด้า 3 ตัวถังแฮตช์แบ็กจัดเต็มรอบคันด้วย Mazdaspeed (มาสด้าสปีด) กับวัสดุดรายคาร์บอน ทั้งดิฟฟิวเซอร์-สปอยเลอร์หลัง พร้อมปลายท่อไอเสีย 4 ท่อคู่แบบไทเทเนียม ด้านข้างคาดด้วยสติกเกอร์โดยใช้สีที่เป็นเอกลักษณ์ของ Mazdaspeed ลวดลายดีไซน์แบบ “มินนิมอลลิส” ให้ความรู้สึกโฉบเฉี่ยว
ส่วนล้ออัลลอย “เอนไก” (Enkei) GTC01RR 18x9.5 พร้อมยางเซมิสลิก Toyo R888 245/40R18 ส่วนเบรก “เบรมโบ้”(Brembo)สีแดงหน้า 6 พอต หลัง 4 พอต พร้อมจานเบรกแบบ 2 ชิ้น ขนาด 355 มม. ทั้ง 4 ล้อ ภายในตกแต่ง ด้วยอัลคันทาราทั้ง คอนโซลกลาง แผงประตู ที่หุ้มคันเกียร์ เบาะนั่ง “เลกคาโร่” รองรับสรีระอย่างเต็มที่เพื่อการควบคุมรถที่แม่นยำยิ่งขึ้น
โดยราคามาสด้า 3 รุ่นตกแต่งพิเศษนี้ ไม่เป็นที่เปิดเผยแต่ดูจากของระดับเทพที่ถูกเลือกสรรมาใช้ รวมๆแล้วน่าจะมีมูลค่ากว่า 6.3 แสนบาท (ไม่รวมค่าตัวรถ 8.47 แสน -1.119 ล้านบาท) โดยคอมแพ็กต์คาร์รุ่นนี้วางเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
ด้าน “ฮอนด้า” ชูความโดดเด่นของของซีวิค แฮตช์แบ็ก(เพิ่งเปิดตัว 9 มี.ค.) ด้วยชุดแต่งโมดูโลที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น แนวคิดการออกแบบ “Stylish Athlete” เน้นความปราดเปรียว และดีไซน์ร่วมสมัยกับแอโรพาร์ตสีส้ม ทั้งสเกิร์ตรอบคัน ดุดันด้วยสปอยเลอร์หลัง ชุดตกแต่งซุ้มล้อหน้าแบบโครเมียม คิ้วบันไดสเตนเลสส์ พร้อมไฟ LED LITE BLUE รวมถึงล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วสีดำ
ด้านซีวิค แฮตช์แบ็ก ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร VTEC TURBO ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700-5,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง CVT
ทาดาชิ อิเคดะ ประธาน บริษัท ฮอนด้า แอคเซส เอเชีย แอนด์ โอเชียเนีย จำกัด เปิดเผยว่า อุปกรณ์ตกแต่งแท้ของฮอนด้าในนามโมดูโล จะเน้นความหรูหราและโฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ต รวมถึงการสะท้อนถึงจิตวิญญาณการเคลื่อนไหวที่ดูเร้าใจมากยิ่งขึ้น โดยอุปกรณ์ตกแต่งจากโมดูโลจะช่วยเติมเต็มความโดดเด่นที่ลงตัวตามเอกลักษณ์เฉพาะของรถยนต์ในแต่ละรุ่น นอกจากนี้อุปกรณ์ตกแต่งแท้โมดูโลทุกชิ้น ยังได้รับการวิจัยและพัฒนาตามมาตรฐานของการทดสอบต่างๆ รวมทั้งการใช้วัสดุคุณภาพมาตรฐานระดับสากล ลูกค้าจึงมั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัยที่จะได้รับ
สำหรับชุดแต่งโมดูโลของ “ซีวิค แฮตช์แบ็ก” แอโรพาร์ตรอบคันมีมูลค่าประมาณ 5 หมื่นบาท ส่วนล้ออัลลอยนำเข้ามาจากญี่ปุ่นชุดละ 7 หมื่นบาท (4 วง)
ทั้งนี้ผู้สนใจชุดแต่งโมดูโล สามารถเลือกซื้อได้ทั้งแบบแยกชิ้น และแบบแพ็กเกจ ที่ศูนย์บริการฮอนด้าทั่วประเทศ หรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.hondaaccess.co.th ขณะที่ “มาสด้า3” ไม่มีขายอย่างเป็นทางการ แต่ใครจะเอาสเปกของตกแต่งไปทำเอง ทางมาสด้าคงไม่ว่าอะไร
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,278 วันที่ 13 - 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2560