ทริสจัดอันดับเครดิต MIDAที่ BBB แนวโน้มคงที่

11 ก.ค. 2560 | 10:30 น.
"ทริสเรทติ้ง" จัดอันดับเครดิตองค์กร "ไมด้า แอสเซ็ท" ที่ระดับ BBB-สะท้อนธุรกิจมีความหลากหลาย ธุรกิจเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านกำไรสม่ำเสมอ

trist

บริษัท ทริสเรทติ้ง จัดอันดับเครดิตองค์กรของบริษัท ไมด้า แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน ) หรือ MIDA ที่ระดับ BBB-สะท้อนธุรกิจของบริษัทที่มีความหลากหลายตลอดจนประวัติผลงานในการดำเนินธุรกิจเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และผลกำไรที่สม่ำเสมอจากบริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทที่ดำเนินงานโดยบริษัทย่อย คือ บริษัท ไมด้า ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงฐานรายได้ที่ค่อนข้างน้อยของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจโรงแรม รวมทั้งแหล่งเงินทุนของบริษัทที่ไม่ค่อยมีความหลากหลาย นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังมีข้อจำกัดจากเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังคงชะลอตัว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของรายได้ของบริษัทในระยะสั้นถึงระยะปานกลางอีกด้วย

สถานะทางธุรกิจของบริษัทเกิดจากการดำเนินธุรกิจที่หลากหลาย ได้แก่ ธุรกิจเช่าซื้อ ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยในไตรมาสแรกของปี 2560 รายได้จากธุรกิจเช่าซื้อซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัทคิดเป็นสัดส่วน 70% ของรายได้รวม ในขณะที่รายได้จากธุรกิจโรงแรมและธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สร้างรายได้เป็นสัดส่วน 16% และ 10% ของรายได้รวมของบริษัท ตามลำดับ นอกเหนือจากธุรกิจหลักดังกล่าวแล้ว บริษัทยังมีรายได้จากการให้บริการเช่าดำเนินการสนามกอล์ฟและการให้บริการอื่น ๆ คิดเป็นสัดส่วน 4% ของรายได้รวมอีกด้วย

ด้านสภาพคล่องเพียงพอ โดยมีอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมอยู่ที่ระดับ 8.2% ในปี 2559 และ 8.25% ในไตรมาสแรกของปี 2560 (ปรับเป็นอัตราส่วนเต็มปีด้วยตัวเลข 12 เดือนย้อนหลัง) ขณะที่อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายรักษาระดับอยู่ที่ 3 เท่าในระหว่างปี 2556-2559 ณ เดือนมีนาคม 2560 ได้รับการสนับสนุนจากเงินสดในมือจำนวน 68 ล้านบาทและวงเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารอีก 1,375 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังมีเงินรับจากลูกหนี้ผ่อนชำระอีกเดือนละประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอสำหรับชำระหนี้ที่จะครบกำหนดใน 12 เดือนข้างหน้าประมาณ 1,700 ล้านบาท

แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดและผลประกอบการทางการเงินของธุรกิจหลักเอาไว้ได้ในระดับที่น่าพอใจ นอกจากนี้ บริษัทจะสามารถก่อสร้างโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการใหม่ให้แล้วเสร็จและส่งมอบได้ตามแผน

อย่างไรก็ตามอันดับเครดิตอาจได้รับการปรับเพิ่มหากบริษัทสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด และยกระดับสถานะทางการแข่งขันให้สูงขึ้นโดยที่ยังสามารถรักษาผลประกอบการทางการเงินที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้อย่างสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากผลการดำเนินงานหรือคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทเสื่อมถอยลงอย่างมีนัยสำคัญ