แอร์บัสพร้อมร่วมทุนบินไทย
นายฟาบริซ เบรจิเย่ร์ ประธานบริหาร แอร์บัส เครื่องบินพาณิชย์ กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่แอร์บัสจะร่วมลงทุนกับการบินไทย ในการพัฒนาศูนย์ซ่อม MRO สนามบินอู่ตะเภา หลังผลการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการนี้ร่วมกันทั้ง 2 ฝ่ายแล้วเสร็จ
การลงทุนศูนย์ซ่อมดังกล่าว จะเป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อการรองรับได้ถึง 40 ปี ซึ่งแอร์บัสเองก็มองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้น จากจำนวนเครื่องบินในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่เพิ่มมากขึ้นเป็น 2 เท่าในอีก 20 ปีข้างหน้าที่จะมากถึง 1.5 หมื่นลำ
โดยเครื่องบินเหล่านี้ก็ต้องได้รับการซ่อมบำรุงอยู่สมํ่าเสมอ จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ โดยแอร์บัสประมาณการว่ามูลค่าของภาคส่วนการซ่อมบำรุงอากาศ ยานในภูมิภาคนี้อย่างเดียวจะมีสูงถึง 6.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในอีก 10 ปีข้างหน้านี้
[caption id="attachment_177754" align="aligncenter" width="314"]
ฟาบริซ เบรจิเย่ร์ ประธานบริหาร แอร์บัส[/caption]
ปัจจุบันเอเชียถือเป็นตลาดที่สำคัญที่สุดของแอร์บัส ด้วยเครื่องบินแอร์บัสกว่า 3 พันลำให้บริการประจำสายการบินต่างๆ ในภูมิภาค รวมถึงยอดการสั่งซื้ออีกถึง 2,000 ลำสำหรับการส่งมอบในอนาคต นับเป็น 1 ใน 3 จากทั้งหมดของเครื่องบินแอร์บัสที่ให้บริการในปัจจุบัน และยังเป็น 1 ใน 3 ของจำนวนเครื่องบินที่รอส่งมอบจากทั่วโลก นำหน้าทั้งยุโรปและอเมริกาเหนือ (ในแง่ของการส่งมอบเครื่องบินในอนาคต)
ภูมิภาคเอเชียจึงเป็นพันธมิตรทางอุตสาหกรรมที่สำคัญมากยิ่งขึ้นของแอร์บัส บริษัทมีซัพพลายเออร์กว่า 600 รายใน 15 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชีย
การมองทำเล สนามอู่ตะเภาซึ่งมีระบบสาธารณูปโภคที่จำเป็นและเหมาะสมที่จะให้บริการซ่อมบำรุงเครื่องบินขนาดใหญ่รุ่นใหม่ในอนาคต นี่คือสิ่งที่เราอยากจะทำ นี่จะเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานระดับโลกที่ดำเนินการในประเทศไทย
สมรรถนะของศูนย์ซ่อมบำรุงแห่งนี้จะสามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่รุ่นใหม่และใช้เทคโนโลยีดิจิตอลที่ทันสมัย สามารถประมวลผลจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (big data) และมีสมาร์ท แฮงกา “โรงซ่อมอัจฉริยะ” นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีทันสมัยที่เราจะนำมาใช้กับโครงการความร่วมมือในครั้งนี้
อีกส่วนสำคัญของโครงการคือ การฝึกอบรมช่างซ่อมบำรุงจำนวนมากมายมหาศาล เพราะในเอเชียนั้นจะมีความต้องการช่างเทคนิคสำหรับงานซ่อมบำรุงอากาศ ยานราว 2 แสนคน ซึ่งเชื่อว่าภายใต้ความร่วมมือกับการบินไทย ด้วยนโยบายสนับสนุนของรัฐบาลไทย และความเหมาะสมของอู่ตะเภา รวมถึงพลังความสนับสนุนของแอร์บัส จะทำให้เกิดศักยภาพและความเป็นไปได้ของโครงการความร่วมมือที่ยั่งยืนในระยะยาวและประสบผลสำเร็จที่จะเกิดขึ้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,278 วันที่ 13 - 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
การลงทุนศูนย์ซ่อมดังกล่าว จะเป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อการรองรับได้ถึง 40 ปี ซึ่งแอร์บัสเองก็มองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้น จากจำนวนเครื่องบินในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่เพิ่มมากขึ้นเป็น 2 เท่าในอีก 20 ปีข้างหน้าที่จะมากถึง 1.5 หมื่นลำ
โดยเครื่องบินเหล่านี้ก็ต้องได้รับการซ่อมบำรุงอยู่สมํ่าเสมอ จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ โดยแอร์บัสประมาณการว่ามูลค่าของภาคส่วนการซ่อมบำรุงอากาศ ยานในภูมิภาคนี้อย่างเดียวจะมีสูงถึง 6.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในอีก 10 ปีข้างหน้านี้
[caption id="attachment_177754" align="aligncenter" width="314"]
ปัจจุบันเอเชียถือเป็นตลาดที่สำคัญที่สุดของแอร์บัส ด้วยเครื่องบินแอร์บัสกว่า 3 พันลำให้บริการประจำสายการบินต่างๆ ในภูมิภาค รวมถึงยอดการสั่งซื้ออีกถึง 2,000 ลำสำหรับการส่งมอบในอนาคต นับเป็น 1 ใน 3 จากทั้งหมดของเครื่องบินแอร์บัสที่ให้บริการในปัจจุบัน และยังเป็น 1 ใน 3 ของจำนวนเครื่องบินที่รอส่งมอบจากทั่วโลก นำหน้าทั้งยุโรปและอเมริกาเหนือ (ในแง่ของการส่งมอบเครื่องบินในอนาคต)
ภูมิภาคเอเชียจึงเป็นพันธมิตรทางอุตสาหกรรมที่สำคัญมากยิ่งขึ้นของแอร์บัส บริษัทมีซัพพลายเออร์กว่า 600 รายใน 15 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชีย
การมองทำเล สนามอู่ตะเภาซึ่งมีระบบสาธารณูปโภคที่จำเป็นและเหมาะสมที่จะให้บริการซ่อมบำรุงเครื่องบินขนาดใหญ่รุ่นใหม่ในอนาคต นี่คือสิ่งที่เราอยากจะทำ นี่จะเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานระดับโลกที่ดำเนินการในประเทศไทย
สมรรถนะของศูนย์ซ่อมบำรุงแห่งนี้จะสามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่รุ่นใหม่และใช้เทคโนโลยีดิจิตอลที่ทันสมัย สามารถประมวลผลจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (big data) และมีสมาร์ท แฮงกา “โรงซ่อมอัจฉริยะ” นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีทันสมัยที่เราจะนำมาใช้กับโครงการความร่วมมือในครั้งนี้
อีกส่วนสำคัญของโครงการคือ การฝึกอบรมช่างซ่อมบำรุงจำนวนมากมายมหาศาล เพราะในเอเชียนั้นจะมีความต้องการช่างเทคนิคสำหรับงานซ่อมบำรุงอากาศ ยานราว 2 แสนคน ซึ่งเชื่อว่าภายใต้ความร่วมมือกับการบินไทย ด้วยนโยบายสนับสนุนของรัฐบาลไทย และความเหมาะสมของอู่ตะเภา รวมถึงพลังความสนับสนุนของแอร์บัส จะทำให้เกิดศักยภาพและความเป็นไปได้ของโครงการความร่วมมือที่ยั่งยืนในระยะยาวและประสบผลสำเร็จที่จะเกิดขึ้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,278 วันที่ 13 - 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2560