หมดยุคผ่อนนโยบายการเงิน อีซีบี-บีโออีส่งสัญญาณลดกระตุ้นรับเศรษฐกิจฟื้น

15 ก.ค. 2560 | 12:00 น.
นักลงทุนวิตกกังวลกับแนวโน้มการปรับนโยบายลดการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางขนาดใหญ่ในยุโรป ส่งสัญญาณว่ายุคของนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอย่างมากใกล้จะสิ้นสุดลงในไม่ช้า

ช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรในหลายประเทศเกิดความผันผวน จากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับสัญญาณที่ส่งออกมาจากธนาคารกลางขนาดใหญ่ ว่าจะเริ่มทยอยปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเร็วๆ นี้
หนึ่งในนั้นคือธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่บันทึกการประชุมครั้งล่าสุดในระหว่างวันที่ 7-8 มิถุนายน ซึ่งเปิดเผยออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อน ชี้ให้เห็นว่าที่ประ ชุมได้มีการหารือกันว่าจะไม่มีการระบุถึงคำมั่นที่จะดำเนินมาตรการซื้อพันธบัตรมูลค่า 2.3 ล้านล้านยูโรต่อไปถ้ามีความจำเป็น

ในแถลงการณ์การประชุมเหมือนเช่นที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วที่ประชุมตัดสินใจว่าจะคงคำกล่าวนั้นไว้ต่อไป เนื่องจากมีความกังวลว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรปยังไม่นำไปสู่เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นตามที่ธนาคารกลางตั้งเป้าหมาย
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน และค่าเงินยูโรปรับตัวขึ้นเล็กน้อยหลังบันทึกการประชุมได้รับการเปิดเผย โดยนักลงทุนคาดหมายว่าอีซีบีใกล้การทยอยปรับลดขนาดการกระตุ้นเศรษฐกิจลงทุกขณะ

app-ecb9 ก่อนหน้านี้นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบีเอง ก็แสดงความเห็นว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วขึ้นจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้อีซีบีเพิ่มความเข้มงวดของนโยบายการเงินได้ในระดับหนึ่ง เพื่อรักษาระดับของการกระตุ้นเศรษฐกิจเอาไว้ไม่ให้มากเกินไป

อย่างไรก็ตาม คณะกรรม การของอีซีบียังคงมีความเห็นที่แตกต่าง นายปีเตอร์ แพรท หนึ่งในคณะกรรมการบริหารและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของอีซีบี มองว่า เงินเฟ้อยังคงมีแนวโน้มอ่อนแอ และอีซีบีจำเป็นต้องใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อเนื่อง ขณะที่เจ้าหน้าที่ทางการของอีซีบีอีกส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะจากฝั่งเยอรมนี ได้ออกมากล่าวเตือนหลายต่อหลายครั้งถึงความเสี่ยงในการใช้นโยบายผ่อนคลายยาวนานเกินความจำเป็น

ด้านนักวิเคราะห์คาดหมายว่า อีซีบีจะเริ่มทยอยลดขนาดการซื้อพันธบัตรในช่วงต้นปี 2561 โดยอาจจะมีการประกาศแผนการในช่วงเดือนกันยายนหรือตุลาคมนี้ ถ้าการเติบโตทางเศรษฐกิจไม่สะดุด หรือเงินเฟ้อไม่มีการปรับลดลงอย่างหนัก นอกจากนี้ยังคาดกันว่าอีซีบีจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้าด้วย แม้ว่านักวิเคราะห์ยังเห็นไม่ตรงกันว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาใด

นอกเหนือจากอีซีบี ธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) เป็นอีกหนึ่งธนาคารกลางที่ส่งสัญญาณว่าการปรับทิศทางนโยบายการเงินกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า โดยนายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการบีโออี กล่าวว่า อาจมีความจำเป็นที่จะต้องถอนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจบางส่วน ถ้าการลงทุนของภาคธุรกิจและภาคส่วนอื่นๆ ที่กระตุ้นความต้องการภายในประเทศมีความเข้มแข็งขึ้น

[caption id="attachment_177693" align="aligncenter" width="503"] หมดยุคผ่อนนโยบายการเงิน อีซีบี-บีโออีส่งสัญญาณลดกระตุ้นรับเศรษฐกิจฟื้น หมดยุคผ่อนนโยบายการเงิน อีซีบี-บีโออีส่งสัญญาณลดกระตุ้นรับเศรษฐกิจฟื้น[/caption]

นักวิเคราะห์มองว่ามีความเป็นไปได้ที่บีโออีจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้ อย่างไรก็ดี ข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาล่าสุดอาจสร้างความยากลำบากต่อการตัดสินใจของบีโออี โดยภาคการผลิตและการก่อสร้างชะลอตัวลงเหนือความคาดหมาย ขณะที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัวลงจากผลของการอ่อนค่าของเงินปอนด์ดันราคาสินค้าให้แพงขึ้น

ทั้งนี้ แนวโน้มนโยบายการเงินของอีซีบีและบีโออีในช่วงปลายปีนี้ถึงปีหน้ากำลังจะเดินตามทิศทางของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่เป็นผู้นำในการปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกเมื่อปลายปี 2558 ก่อนจะมาปรับขึ้นอีก 2ครั้งในปี 2560 ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าน่าจะมีการปรับขึ้นอีก 1 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ เหลือธนาคารกลางขนาดใหญ่เพียงรายเดียว คือธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ที่แนวโน้มเงินที่ยังอยู่ในระดับตํ่ากดดันให้ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,278 วันที่ 13 - 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2560