เคเคปล่อยกู้อสังหาฯ 40 โครงการ

11 ก.ค. 2560 | 00:15 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

เกียรตินาคินมั่นใจตลาดอสังหาริมทรัพย์สดใส หลัง 5-6 เดือนแรก ลูกค้ารายใหญ่-เอสเอ็มอีทยอยลงทุนเปิดโครงการใหม่กว่า 40 โครงการ เชื่อลูกค้าปรับตัวเร่งขายค้างสต๊อก-สร้างใหม่สมดุลกับดีมานด์ ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ 2 หมื่นล้านบาท

นายวิศรุต ปัญญาภิญโญผล ผู้อำนวยการการตลาดสินเชื่อ ฝ่ายสินเชื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สายสินเชื่อธุรกิจ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริม ทรัพย์ในครึ่งปีแรกมีสัญญาณดีขึ้น โดยธนาคารเริ่มเห็นผู้ประกอบการขนาดใหญ่และรายกลาง-รายเล็กทยอยลงทุนโปรเจ็กต์ใหญ่ สอดคล้องกับยอดขายที่ยังมีต่อเนื่อง ประกอบกับสัญญาณการเก็งกำไรลดลง จึงคาดว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้มีแนวโน้มสดใสกว่าในปีก่อน

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 5-6 เดือนของธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยทั้งปีตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่อยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ตั้งไว้อยู่ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท โดยปัจจุบันยอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท หดตัวเล็กน้อยจากปีก่อน เนื่องจากมียอดชำระคืนหนี้เข้ามา ทำให้ยอดสินเชื่อคงค้างสุทธิไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นมากนัก

ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมีลูกค้าผู้ประกอบการขอวงเงินสินเชื่อเพื่อทำโครงการใหม่ต่อเนื่องมีเกือบ 40 โครงการ ซึ่งมีทั้งลูกค้าขนาดใหญ่วงเงินลงทุนเฉลี่ยประมาณ 500 ล้านบาท และลูกค้าขนาดกลางและเล็กวงเงินเฉลี่ย 200-300 ล้านบาท โดยเห็นสัญญาณการเบิกใช้วงเงินตามยอดขายของโครงการ เช่น ล่าสุดมีลูกค้าขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เปิดขายโครงการเพียง 2 สัปดาห์สามารถมียอดขายสูงถึง 70% เป็นต้น สะท้อนถึงกำลังซื้อและตลาดที่เริ่มกลับมาสดใสอีกครั้ง

ตลอดจนจะเห็นว่าลูกค้าผู้ประกอบการเริ่มปรับตัวมากขึ้น โดยให้ความสำคัญในเรื่องของปริมาณคงค้างในสต๊อกมากขึ้น ทำให้อัตราการสร้างโครงการใหม่สัมพันธ์กับยอดขายมากขึ้น รวมถึงให้ความสำคัญในพื้นที่ทำเลที่ตั้ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าไม่มีความเสี่ยงหลังจากสร้างเสร็จ เช่น พื้นที่ติดถนนใหญ่ หรือเข้าซอยไม่มากหรือเล็กจนเกินไป เป็นต้น ทั้งนี้ ในจำนวน 40 โครงการ จะแบ่งเป็นลูกค้าแนวราบค่อนข้างเยอะ สอดคล้องกับพอร์ตของธนาคารที่มีฐานลูกค้าแนวราบประมาณ 70% และคอนโดมิเนียม 30% และเป็นลูกค้ากรุงเทพฯ-ปริมณฑล 65% และต่างจังหวัด 35%

กลยุทธ์ในปีนี้ของธนาคารจะยังเน้นการทำสินเชื่อโครงการต่อเนื่อง โดยยังคงให้ความสำคัญในการเลือกและคัดกรองลูกค้า จะเน้นลูกค้าในตลาดระดับบนหรือเกรดเอมากขึ้น หรือผู้ประกอบการรายใหญ่ รวมถึงผู้ประกอบการที่มีชื่อในแต่ละพื้นที่ ซึ่งอาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาด แต่เป็นผู้ประกอบการที่มีความชำนาญและมีชื่อเสียงในแต่ละพื้นที่ เป็นต้น

[caption id="attachment_176866" align="aligncenter" width="335"] วิศรุต ปัญญาภิญโญผล วิศรุต ปัญญาภิญโญผล[/caption]

ส่วนลูกค้าเอสเอ็มอียังคงปล่อยสินเชื่อปกติควบคู่กับการหาลูกค้ารายใหญ่รายใหม่ ขณะที่ตลาดต่างจังหวัดยังคงมีความร่วมมือกับลูกค้ารายใหญ่ โดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ที่ยังมีโอกาสเติบโตอยู่ ส่วนจังหวัดรองลงมายังไม่ได้เน้นเป็นพิเศษ

ขณะที่คุณภาพสินเชื่อปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการเริ่มปรับตัวได้ และจากภาพรวมจะเห็นยอดขายและยอดโอนดีขึ้นตามดีมานด์ความต้องการที่ดีขึ้น ทำให้การผิดนัดชำระหนี้ หรือคุณภาพสินเชื่อดีขึ้นตามลำดับ อย่างไรก็ดี ในส่วนของลูกค้าที่ผิดนัดชำระหนี้ หรือเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ก็แก้ไขปัญหาไปตามขั้นตอนปกติ ทั้งยืดอายุการชำระหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ เป็นต้น

“เรามองกลุ่มลูกค้าเรียลเอสเตตเป็นโพสิทีฟ หรือเป็นบวกมากขึ้นสำหรับตลาดปีนี้ เพราะมีลูกค้าทำโครงการต่อเนื่องทั้งรายใหญ่รายกลาง และลูกค้าเองก็ปรับตัวเลือกพื้นที่ทำเลที่ค่อนข้างชัวร์ ไม่เข้าซอยเล็กเกินไป และในด้านความกังวลลูกค้าโพสต์ไฟแนนซ์ก็ลดลง เพราะสินเชื่อขยายตัวดีจากดีมานด์ที่เริ่มกลับมา ผู้ประกอบการก็สร้างให้สมดุลกับยอดขาย ภาพรวมดูตลาดสดชื่นขึ้น ส่วนการเบิกใช้วงเงินแบงก์ก็เป็นไปตามยอดขายและเงื่อนไขที่แต่ละแห่งจะกำหนดลูกค้า และมีการคัดกรองในการวางดาวน์ของลูกค้ามากขึ้น เช่น คอนโดมิเนียมกว่า 10% ส่วนแนวราบน้อยกว่า 10%”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,277 วันที่ 9 - 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2560