เอเอ็มซีสปีดขาย NPA แบม-แซมอัดโปรดึงลูกค้า หวังลดภาระภาษีที่ดิน
“BAM-SAM”โหมทำตลาดระบายอสังหาริมทรัพย์ หวังลดภาระภาษีที่ดินใหม่ แบมวางแผนปล่อยเช่า-ขายที่ดิน เตรียมส่งบ้านสุขใจปลายปีอีกระลอก ด้านแซมชูโปรจ่ายค่าธรรมเนียมแทนผู้ซื้อต่อรายไม่เกิน 17 ล้านบาท สำหรับทรัพย์แปลงใหญ่-เผยครึ่งปีแรกนักลงทุนปลุกตลาดอีอีซีคึกคัก
นับถอยหลังพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพ.ศ...ซึ่งอยู่ระหว่างรอกฎหมายลูกออกมารองรับนั้น โดยเฉพาะประเภททรัพย์อื่นเช่น เชิงพาณิชยกรรมกำหนดอัตราไว้ตั้งแต่ 0.3-1.5% ของฐานภาษี และที่ดินว่างเปล่าหรือไม่ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพที่ดินจะจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นทุก 3ปีตั้งแต่ปีที่ 1-3 อัตรา 1% ของฐานภาษี ปีที่4-6 อัตรา 2% ของฐานภาษี ปีที่ 7 ขึ้นไปคิดอัตรา 3%
[caption id="attachment_176876" align="aligncenter" width="415"]
นิยต มาศะวิสุทธิ์[/caption]
สำหรับสินทรัพย์รอการขาย(NPA)ของบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (เอเอ็มซี) จะได้รับการผ่อนผันเป็นระยะเวลา 5 ปี โดยจัดเก็บภาษีในอัตรา 0.05% ของฐานภาษี ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในปี 2562 และหลังจากนั้นจะจัดเก็บภาษีในอัตรากฎหมายกำหนดตั้งแต่ปีที่ 6 เป็นต้นไป
แหล่งข่าวจากบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด(BAM)เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การบรรเทาให้จัดเก็บภาษีสำหรับเอ็นพีเอในอัตรา 0.05% เป็นระยะเวลา 5 ปี ในส่วนของแบม หากประเมินตามภาษีใหม่ที่ได้รับการผ่อนปรนในอัตรา 0.05% ผลกระทบเบื้องต้นตั้งแต่ปี 2562-2566 จะมีภาระภาษีต่อปีจำนวน 17.6 ล้านบาท ซึ่งคำนวณจากเอ็นพีเอ(สุทธิ) ที่มีอยู่ 35,200 ล้านบาท
ขณะเดียวกันหากประเมินตามประเภททรัพย์ที่กฎหมายระบุไว้ เช่น ประเภทอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ภาระภาษีจะเพิ่มเป็น 150 ล้านบาทต่อปี แต่หากประเมินภาระภาษีที่จะเกิดขึ้นในอนาคตตั้งแต่ปีที่ 6 เป็นต้นไป โดยประเมินจากจำนวนเอ็นพีเอดังกล่าวแบมจะมีภาระภาษีค่อนข้างสูงมากประมาณ 375 ล้านบาทต่อปี ซึ่งทำให้เป็นภาระต่อแบม
แบม จึงวางแนวทางในการบริหารจัดการทรัพย์เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เช่น จัดโครงการสบายคอนโดฯ สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อทรัพย์ในราคา 4 แสนบาทต่อยูนิต โดยปลอดเงินดาวน์ หรือเน้นลดราคาสำหรับคอนโดฯระดับกลาง-บน พร้อมหาพันธมิตรปล่อยกู้ 4-5แห่งเป็นทางเลือกให้ผู้ที่สนใจ
นอกจากนี้ยังมีทางเลือกสำหรับผู้ซื้อที่อยู่อาศัยซึ่งเข้าไม่ถึงสินเชื่อในโครงการบ้านสบาย จากแบม เป็นบ้านเดี่ยวราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท สามารถให้ผ่อนชำระเป็นเวลา10 ปีกับแบมอัตรา ดอกเบี้ย 6.25% ต่อปีกรณีนี้ถ้าผู้ซื้อต้องการรีไฟแนนซ์จะมีสถาบันการเงินพันธมิตรพร้อมขยายเวลาผ่อนยาวขึ้น 20-30 ปี
สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีหรือสตาร์ตอัพจะมีเอ็นพีเอ กลุ่มเชิงพาณิชย์ เช่น โรงงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ซึ่งที่ผ่านมายอดขายคึกคักในจังหวัดระยอง บ้านฉาง ตอนนี้ไม่มีทรัพย์เหลือขายแต่ยังมีในชลบุรีและฉะเชิงเทรา และเอ็นพีเอประเภทที่ดินเปล่าจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ พื้นที่เกษตรที่มีอยู่ไม่มากประมาณ 500 ล้านบาท และที่ดินที่ยังไม่ใช้ประโยชน์มีประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท
[caption id="attachment_176862" align="aligncenter" width="243"]
เอเอ็มซีสปีดขายNPA แบม-แซมอัดโปรดึงลูกค้า หวังลดภาระภาษีที่ดิน[/caption]
ขณะนี้อยู่ระหว่างหาทางบริหารจัดการ เช่น ทำความตกลงกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(พอช.)เพื่อจัดหาที่ดินสำหรับประชาชนในราคาถูกโดยที่ผ่านมาขายเอ็นพีเอไป 5-6 แปลงในราคาพิเศษเพราะเป็นการขายระหว่างหน่วยงานภาครัฐ
“จริงๆแบมมีเอ็นพีเอทั้งหมดรวมมูลค่า 4.18 หมื่นล้านบาท แต่ในจำนวนนี้เป็นทรัพย์ส่วนกลางที่ไม่สามารถจำหน่ายออก เช่น บ่อบำบัด และถนน จึงเหลือสุทธิที่อยู่ในข่ายเสียภาษีอัตราใหม่เพียง 3.52 หมื่นล้านบาทเศษ ทีมกฎหมายจะเข้าหารือกับกระทรวงการคลังเร็วๆนี้”
นอกจากนี้ปัจจุบันแบมยังอยู่ระหว่างพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะต่อยอดการขายเอ็นพีเอ โดยจะจัดทำแปลงสาธิต “บ้านสวน สุขใจ 4.0 บาย แบม”
นายนิยต มาศะวิสุทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM กล่าวว่า แซมยังมีเอ็นพีเอจำนวนกว่า 2.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากประเมินตามอัตราภาษีใหม่แบบลดหย่อนจะมีภาระภาษีไม่เกิน 10 ล้านบาทการปรับตัวเพื่อลดภาระภาษีนั้น ที่ผ่านมาจัดโปรโมชันขายทรัพย์ ในโอกาสแซมครบรอบ 17 ปี โดยแซมจ่ายค่าธรรมเนียมแทนลูกค้าในมูลค่าไม่เกิน 17 ล้านบาทต่อรายซึ่งปัจจุบันแซมยังมีที่ดินแปลง ใหญ่ที่สุดราคากว่า 1,000 ล้านบาทตั้งอยู่บริเวณถนนบางนา-ตราด และเอ็นพีเอในเขตพื้นที่อีอีซีอีกหลายแปลง
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,277 วันที่ 9 - 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
นับถอยหลังพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพ.ศ...ซึ่งอยู่ระหว่างรอกฎหมายลูกออกมารองรับนั้น โดยเฉพาะประเภททรัพย์อื่นเช่น เชิงพาณิชยกรรมกำหนดอัตราไว้ตั้งแต่ 0.3-1.5% ของฐานภาษี และที่ดินว่างเปล่าหรือไม่ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพที่ดินจะจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นทุก 3ปีตั้งแต่ปีที่ 1-3 อัตรา 1% ของฐานภาษี ปีที่4-6 อัตรา 2% ของฐานภาษี ปีที่ 7 ขึ้นไปคิดอัตรา 3%
[caption id="attachment_176876" align="aligncenter" width="415"]
สำหรับสินทรัพย์รอการขาย(NPA)ของบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (เอเอ็มซี) จะได้รับการผ่อนผันเป็นระยะเวลา 5 ปี โดยจัดเก็บภาษีในอัตรา 0.05% ของฐานภาษี ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในปี 2562 และหลังจากนั้นจะจัดเก็บภาษีในอัตรากฎหมายกำหนดตั้งแต่ปีที่ 6 เป็นต้นไป
แหล่งข่าวจากบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด(BAM)เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การบรรเทาให้จัดเก็บภาษีสำหรับเอ็นพีเอในอัตรา 0.05% เป็นระยะเวลา 5 ปี ในส่วนของแบม หากประเมินตามภาษีใหม่ที่ได้รับการผ่อนปรนในอัตรา 0.05% ผลกระทบเบื้องต้นตั้งแต่ปี 2562-2566 จะมีภาระภาษีต่อปีจำนวน 17.6 ล้านบาท ซึ่งคำนวณจากเอ็นพีเอ(สุทธิ) ที่มีอยู่ 35,200 ล้านบาท
ขณะเดียวกันหากประเมินตามประเภททรัพย์ที่กฎหมายระบุไว้ เช่น ประเภทอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ภาระภาษีจะเพิ่มเป็น 150 ล้านบาทต่อปี แต่หากประเมินภาระภาษีที่จะเกิดขึ้นในอนาคตตั้งแต่ปีที่ 6 เป็นต้นไป โดยประเมินจากจำนวนเอ็นพีเอดังกล่าวแบมจะมีภาระภาษีค่อนข้างสูงมากประมาณ 375 ล้านบาทต่อปี ซึ่งทำให้เป็นภาระต่อแบม
แบม จึงวางแนวทางในการบริหารจัดการทรัพย์เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เช่น จัดโครงการสบายคอนโดฯ สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อทรัพย์ในราคา 4 แสนบาทต่อยูนิต โดยปลอดเงินดาวน์ หรือเน้นลดราคาสำหรับคอนโดฯระดับกลาง-บน พร้อมหาพันธมิตรปล่อยกู้ 4-5แห่งเป็นทางเลือกให้ผู้ที่สนใจ
นอกจากนี้ยังมีทางเลือกสำหรับผู้ซื้อที่อยู่อาศัยซึ่งเข้าไม่ถึงสินเชื่อในโครงการบ้านสบาย จากแบม เป็นบ้านเดี่ยวราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท สามารถให้ผ่อนชำระเป็นเวลา10 ปีกับแบมอัตรา ดอกเบี้ย 6.25% ต่อปีกรณีนี้ถ้าผู้ซื้อต้องการรีไฟแนนซ์จะมีสถาบันการเงินพันธมิตรพร้อมขยายเวลาผ่อนยาวขึ้น 20-30 ปี
สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีหรือสตาร์ตอัพจะมีเอ็นพีเอ กลุ่มเชิงพาณิชย์ เช่น โรงงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ซึ่งที่ผ่านมายอดขายคึกคักในจังหวัดระยอง บ้านฉาง ตอนนี้ไม่มีทรัพย์เหลือขายแต่ยังมีในชลบุรีและฉะเชิงเทรา และเอ็นพีเอประเภทที่ดินเปล่าจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ พื้นที่เกษตรที่มีอยู่ไม่มากประมาณ 500 ล้านบาท และที่ดินที่ยังไม่ใช้ประโยชน์มีประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท
[caption id="attachment_176862" align="aligncenter" width="243"]
ขณะนี้อยู่ระหว่างหาทางบริหารจัดการ เช่น ทำความตกลงกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(พอช.)เพื่อจัดหาที่ดินสำหรับประชาชนในราคาถูกโดยที่ผ่านมาขายเอ็นพีเอไป 5-6 แปลงในราคาพิเศษเพราะเป็นการขายระหว่างหน่วยงานภาครัฐ
“จริงๆแบมมีเอ็นพีเอทั้งหมดรวมมูลค่า 4.18 หมื่นล้านบาท แต่ในจำนวนนี้เป็นทรัพย์ส่วนกลางที่ไม่สามารถจำหน่ายออก เช่น บ่อบำบัด และถนน จึงเหลือสุทธิที่อยู่ในข่ายเสียภาษีอัตราใหม่เพียง 3.52 หมื่นล้านบาทเศษ ทีมกฎหมายจะเข้าหารือกับกระทรวงการคลังเร็วๆนี้”
นอกจากนี้ปัจจุบันแบมยังอยู่ระหว่างพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะต่อยอดการขายเอ็นพีเอ โดยจะจัดทำแปลงสาธิต “บ้านสวน สุขใจ 4.0 บาย แบม”
นายนิยต มาศะวิสุทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM กล่าวว่า แซมยังมีเอ็นพีเอจำนวนกว่า 2.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากประเมินตามอัตราภาษีใหม่แบบลดหย่อนจะมีภาระภาษีไม่เกิน 10 ล้านบาทการปรับตัวเพื่อลดภาระภาษีนั้น ที่ผ่านมาจัดโปรโมชันขายทรัพย์ ในโอกาสแซมครบรอบ 17 ปี โดยแซมจ่ายค่าธรรมเนียมแทนลูกค้าในมูลค่าไม่เกิน 17 ล้านบาทต่อรายซึ่งปัจจุบันแซมยังมีที่ดินแปลง ใหญ่ที่สุดราคากว่า 1,000 ล้านบาทตั้งอยู่บริเวณถนนบางนา-ตราด และเอ็นพีเอในเขตพื้นที่อีอีซีอีกหลายแปลง
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,277 วันที่ 9 - 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2560