เชือดทุจริตจำนำข้าว ดีเดย์1สิงหาฯชงบอร์ดป.ป.ท.ชี้มูลจนท.รัฐ-เรียกชดใช้

10 ก.ค. 2560 | 02:15 น.
ดีเดย์ 1 ส.ค.นี้ ทยอยชงบอร์ดป.ป.ท.เชือดเจ้าหน้าที่รัฐ-เอกชน พัวพันทุจริตจำนำข้าว 990 คดี มูลค่าเสียหาย 1.47 แสนล้าน ลั่นถึงตายความผิดไม่สิ้นสุด ทายาทรับมรดกต้องชดใช้แทน

คดีจำนำข้าว ในส่วนการทุจริตการเก็บรักษาข้าวในคลังสินค้า ที่อยู่ภายใต้การตรวจสอบของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ที่มีคณะอนุกรรมการกำกับ ติดตาม เร่งรัดสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงคดีทุจริตการเก็บรักษาข้าวในคลังสินค้า มีจำนวน 990 คดี (ณ วันที่ 5 ก.ค. 60) ล่าสุดได้แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว 211 คดี

พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับ ติดตาม เร่งรัดสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงคดีทุจริตการเก็บรักษาข้าวในคลังสินค้า เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การดำเนินการไต่สวนของคณะทำงานเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 เป็นต้นมา ได้สรุปมีการตั้งคณะอนุไต่สวนทั้งสิ้น 990 คดี แบ่งเป็น องค์การคลังสินค้า (อคส.) จำนวน 720 คดี และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) จำนวน 270 คดี มีผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ รวม 139 คน แบ่งเป็น เจ้าหน้าที่ อคส. จำนวน 93 คน และเจ้าหน้าที่ อ.ต.ก. จำนวน 46 คน มีบริษัทตรวจสอบคุณภาพหรือเซอร์เวเยอร์ 59 บริษัท และเจ้าของคลัง 231 ราย มูลค่าความเสียหายรวมทั้งสิ้น 1.47 แสนล้านบาท

[caption id="attachment_176799" align="aligncenter" width="250"] เชือดทุจริตจำนำข้าว ดีเดย์1สิงหาฯชงบอร์ดป.ป.ท.ชี้มูลจนท.รัฐ-เรียกชดใช้ เชือดทุจริตจำนำข้าว ดีเดย์1สิงหาฯชงบอร์ดป.ป.ท.ชี้มูลจนท.รัฐ-เรียกชดใช้[/caption]

“ขณะนี้ ป.ป.ท.อยู่ระหว่างการเชิญผู้ถูกกล่าวหาทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐและบริษัทเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา จำนวน 211 คดีแล้ว และจะทยอยเรียกจนครบ จากนั้นเริ่มนำสำนวนการสอบสวนที่เสร็จสิ้นเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ท.เพื่อพิจารณาตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป เมื่อไปสู่คณะกรรมการ ป.ป.ท. ที่มีนายกิตติ ลิ้มชัยกิจ เป็นประธาน จะต้องมีมติอย่างใดอย่างหนึ่ง หากชี้มูลแล้วมีความผิด จะดำเนินคดีทางอาญา โดยส่งเรื่องให้อัยการแต่ละท้องที่ที่เกิดเหตุสั่งฟ้องศาล ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐ จะดำเนินความผิดทางวินัยควบคู่ด้วย และอีกทางหนึ่งจะส่งเรื่องให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ด้วย เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งการดำเนินงานจะพร้อมกันทั้ง 3 ทาง”

พ.ท.กรทิพย์ กล่าวว่า ในส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องทุจริตอาญา แม้ว่าตายก็เลี่ยงไม่ได้ จะตกถึงทายาทมรดกที่จะร่วมชดใช้ความเสียหาย 1.47 แสนล้าน มี 3 ประเภทความเสียหาย ได้แก่ 1.ข้าวไม่ได้มาตรฐาน ปริมาณข้าว 31 ล้านตัน คิดเป็น 1.38 แสนล้านบาท แบ่งเป็นของ อคส. ปริมาณข้าว 29 ล้านตัน เสียหาย 1.11 แสนล้านบาท ส่วน อ.ต.ก.ปริมาณข้าว 2.4 ล้านตัน มูลค่าเสียหาย 2.69 หมื่นล้านบาท ขณะที่ข้าวเสื่อมคุณภาพ อยู่ในคลัง อคส. ปริมาณร่วม 10 ล้านตัน คิดเป็นค่าเสียหาย 8,179 ล้านบาท ส่วนของ อ.ต.ก.ปริมาณข้าวกว่า 2 หมื่นตัน คิดเป็น 340 ล้านบาท ส่วนข้าวสูญหาย อคส.มีปริมาณ 5.47 หมื่นตัน คิดเป็น 47 ล้านบาท ส่วน อ.ต.ก.ไม่มีข้าวหาย

“สำหรับในส่วนของผู้ถูกกล่าวหาทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐ และบริษัทนิติบุคคลที่ถูกตั้งข้อกล่าวหา ไม่ต้องเกรงกลัว ทาง ป.ป.ท.จะให้ความเป็นธรรมกับทุกคนและทุกคดีเท่าเทียมกันหมดจะไม่ปรักปรำ หรือตั้งธงว่าจะดำเนินคดีนี้เพื่อเอาผิด เรามีธงเหมือนกันคือปรัชญาในการทำคดีคือ การไต่สวนข้อเท็จจริง การพิสูจน์ให้รู้ว่ามีการทำทุจริตในภาครัฐเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ดังนั้นหากมีหลักฐานอะไรยืนยันชี้แจงได้ก็พร้อมที่จะรับฟังทั้งหมด หรือหากต้องการหาพยานหลักฐานอะไร หาเองไม่ได้ แจ้งมา จะใช้อำนาจของ ป.ป.ท.เรียกเอกสารให้ หรือเรียกพยานบุคคลนั้นมาให้ถ้อยคำพยานตามที่เรียกร้อง เพื่อใช้หลักฐานมาหักล้าง ในชั้นนี้ ยังไม่ได้ถูกควบคุมตัว ไม่ต้องเตรียมหลักทรัพย์มาประกันตัว ให้มาแสดงตัว มารับทราบข้อกล่าวหาแล้วจะชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร หรือชี้แจงด้วยวาจาก็ได้ ในขณะที่มาชี้แจงสามารถนำบุคคลที่ไว้วางใจ หรือทนายความเข้ามาร่วมรับฟังชี้แจงได้ เป็นสิทธิในคดีอาญาปกติทั่วไป”

ขณะที่นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีการชดใช้ค่าเสียหายจากการทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท ของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับพรรคพวกรวม 6 ราย ว่า ทางกรมมีคณะทำงานสืบทรัพย์ และอยู่ในขั้นตอนการสืบทรัพย์มาตั้งแต่ที่มีมาตรการบังคับทางปกครอง การสืบทรัพย์ ยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สิน ของผู้เกี่ยวข้อง ได้ทำงานประสานกับกรมบังคับคดีอย่างใกล้ชิด ส่วนรายละเอียดจำนวนทรัพย์สิน และข้อมูลต่างๆ นั้น ไม่สามารถบอกได้ เพราะอยู่นอกเหนืออำนาจของกรม

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,277 วันที่ 9 - 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2560