ไมซ์ ยกชั้นระดับโลกจัด“งานวิ่งมาราธอน บางแสน42 (โฟร์ตี้ทู)”

08 ก.ค. 2560 | 05:15 น.
 

ไมซ์ แอนด์ คอมมูนิเคชั่น ร่วมกับ เทศบาลเมืองแสนสุข จังหวัดชลบุรี จัด “งานวิ่งมาราธอน บางแสน42” ภายใต้แนวคิด “The Passion of World-Class Marathon” ในวันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายนนี้ ณ ชายหาดบางแสน จังหวัดชลบุรี ตั้งเป้าดันเป็นงานวิ่งมาตรฐานระดับโลก IAAF Gold Label Road Race หวังดึงดูดนักวิ่งไทย และต่างชาติปักหมุดเป็นสนามมาราธอนที่ ห้ามพลาด! พร้อมนำเทคโนโลยีใหม่ที่พัฒนาโดยคนไทย เข้ามายกระดับการจัดงานวิ่งมาราธอนของไทยสู่ระดับมาตรฐานโลก

mice

นายรัฐ  จิโรจน์วณิชชากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมซ์ แอนด์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด เผยถึงแผนการจัดงานวิ่งมาราธอน บางแสน 42 ว่า หลังจากที่ ไมซ์ฯ ได้จัดงานบางแสน 21 (ทะเวนตี้วัน) ครั้งแรกในปี 2558 ได้รับเสียงเรียกร้องเป็นอย่างมากจากนักวิ่งให้จัดงานวิ่งระยะมาราธอน ซึ่งการจัดงานวิ่งมาราธอนให้ได้คุณภาพที่ดีต้องมีความพร้อมและเตรียมการสูง จึงใช้เวลาศึกษาวางแผนและเตรียมการมาตลอด 2 ปี จนในวันนี้ บริษัท ได้ร่วมมือกับเทศบาลเมืองแสนสุข พร้อมที่จะจัด “งานวิ่งมาราธอน บางแสน42” ภายใต้แนวคิด “The Passion of  World-Class Marathon” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน 2560 เวลา 3:30-10:30 น. ณ ชายหาดบางแสน จังหวัดชลบุรี

งานวิ่งมาราธอน บางแสน42 เกิดขึ้นจากความตั้งใจจัดงานวิ่งมาราธอนที่ได้มาตรฐานระดับสากล โดยตั้งเป้าให้เป็นงานวิ่งที่ได้มาตรฐานระดับโลก IAAF Gold Label Road Race ในปี 2565 และมีจุดมุ่งหมายให้เป็นงานวิ่งที่ยิ่งใหญ่ของประเทศที่นักวิ่งไทย และต่างชาติจัดอันดับให้เป็นงานวิ่งมาราธอนที่พลาดไม่ได้ เช่นเดียวกับ โตเกียว มาราธอน บอสตัน มาราธอน และเบอร์ลิน มาราธอนเป็นต้น

ดังนั้น สิ่งที่นักวิ่งจะได้พบในงานวิ่งมาราธอน บางแสน42 คือมาตรฐานการจัดงานเช่นเดียวกับ งานวิ่งใหญ่ในต่างประเทศ ตามมาตรฐานที่ IAAF กำหนด อันได้แก่ การได้รับการรับรองมาตรฐานระยะวิ่งจากสหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ (IAAF) และสมาคมมาราธอนและการแข่งขันระยะไกลนานาชาติ (AIMS) การได้รับการรับรองการจัดการแข่งขันจากสหพันธ์กรีฑาแห่งเอเชีย (AAA) และสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (AAT) การปิดการจราจร 100% ตลอดการแข่งขัน มีระบบการแพทย์ฉุกเฉินที่ได้มาตรฐาน พร้อมทีมแพทย์เคลื่อนที่ และรถฉุกเฉิน

นอกจากนี้มีการทำประกันอุบัติเหตุ วงเงินรักษาพยาบาล 100,000 บาท ให้กับนักวิ่งทุกคน รวมถึงจะมีการสุ่มตรวจการใช้สารกระตุ้น (Anti-Doping) ตามมาตรฐานการจัดงานวิ่งของ IAAF Label Road Race อีกด้วยการนำระบบคัท-ออฟ มาใช้อย่างเข้มงวด โดยให้เวลาการแข่งขันทั้งสิ้น 7 ชั่วโมง และมีจุดเช็คพอยท์ ทั้งหมด 5 จุด หากนักวิ่งมาไม่ทันเวลาคัท-ออฟ จะถูกเชิญออกจากการแข่งขัน เช่นเดียวกับงานมาตรฐานสากลอื่น ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ด้านความปลอดภัยของนักวิ่งเอง

จุดเด่นอีกด้านของงานคือ การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้กับการแข่งขัน เช่น ระบบ e-Slip รายงานผลการแข่งขัน ผ่าน SMS ซึ่งผลการแข่งขันจะถูกส่งให้นักวิ่งแต่ละคนทันทีหลังเข้าเส้นชัย และยังได้นำ ระบบ Face Recognition (ระบบจดจำใบหน้า) มาใช้ในงานเพื่อช่วยในเรื่องของการแข่งขันในด้านต่างๆ อาทิเช่น การตัดสินนักวิ่งที่ได้รับรางวัล การค้นหารูปถ่ายของนักวิ่ง เป็นต้น ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ พัฒนาโดยโปรแกรมเมอร์ชาวไทย จากทีม ThaiRun

mice2

งานวิ่งมาราธอน บางแสน42 จะเป็นงานวิ่งครั้งแรกของประเทศไทย  ที่มีระยะมาราธอนระยะเดียว โดยเส้นทางวิ่งเริ่มจากถนนหน้าหาด บริเวณศูนย์ประชุมบางแสนเฮอริเทจ วิ่งผ่านวงเวียนบางแสน แล้ว มุ่งสู่สะพานชลมารควิถี 84 พรรษา แลนมาร์คใหม่ของจังหวัดชลบุรี หลังจากนั้นจะผ่านตลาดอ่างศิลา ศาลเจ้านาจาไท่จื้อ เขาสามมุก แหลมแท่น และวิ่งเลียบแนวชายหาด เพื่อเข้าสู่เส้นชัย

สำหรับเสื้อวิ่งของงานนี้ได้ร่วมมือกับแบรนด์กีฬาระดับโลก 2 แบรนด์ดัง ในการผลิตเสื้อให้กับงาน โดยเสื้อวิ่งของงานใช้แบรนด์ PUMA และนักวิ่งทุกคนที่เข้าเส้นชัยก่อนเวลาคัท-ออฟ จะได้รับเสื้อ ฟินิชเชอร์ แบรนด์ CEP อีก 1 ตัว สำหรับเหรียญฟินิชเชอร์ ผลิตด้วยโลหะเกรดพรีเมี่ยม จากโรงงานผลิตเหรียญรางวัลระดับโลก ออกแบบด้วยแนวคิด ค่ำคืนแห่งดวงดาว ซึ่งสามารถเรืองแสงได้ในที่มืด และ อีกหนึ่งไฮไลท์ที่เป็นเอกลักษณ์ของไมซ์ที่นักวิ่งรอคอยคือ รางวัลพิเศษ Top100 ทั้งชายและหญิง ซึ่งจะเป็นของรางวัลอะไรนั้น จะแจ้งให้ทราบในเร็วๆ นี้

งานวิ่งมาราธอน บางแสน42 จะเปิดลงทะเบียนรับสมัครในวันพฤหัสบดีที่ 6 กรกฎาคม 2560 เวลา 9:00 น. ที่ www.BANGSAEN42.com ค่าสมัครราคา 1,500 บาท มีโปรโมชั่นพิเศษราคา 1,200 บาท สำหรับผู้ที่สมัครในวันที่ 6-7 กรกฎาคม นายรัฐ กล่าว

ด้านนายณรงค์ชัย คุณปลื้ม (นายกตุ้ย) นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข กล่าวว่า ชาวบางแสน ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ต้อนรับนักวิ่งอีกครั้ง และรู้สึกเป็นเกียรติที่ถนนเลียบหาดและชุมชนบางแสน จะกลายเป็นสนามวิ่งคุณภาพมาตรฐานระดับสากล จากการจัดงานวิ่งบางแสน21 ติดต่อกันมา 2 ปี ได้ส่งผลในแง่บวกให้กับชาวบางแสน ทั้งในด้านเศรษฐกิจภายในชุมชนและละแวกใกล้เคียง รวมทั้ง ชาวบางแสนมีความตื่นตัว และรู้สึกมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าภาพต้อนรับนักวิ่งทุกท่าน ดังที่นักวิ่งเห็นได้จากชาวบ้านออกมาร่วมใจทำความสะอาดถนนที่ใช้เป็นเส้นทางวิ่งล่วงหน้าก่อนวันวิ่ง และชาวบ้านออกมาเชียร์นักวิ่งด้วยใจที่หน้าบ้านของตนตลอดระยะเส้นทางการวิ่ง

โดยครั้งนี้ งานวิ่งมาราธอน บางแสน42 ได้นำเสนอเส้นทางวิ่งสุดพิเศษ คือวิ่งไปยังสะพานชลมารควิถี 84 พรรษา ซึ่งเป็นแลนมาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดชลบุรี ซึ่งมีทิวทัศน์สวยงามมาก นอกจากนี้นักวิ่งจะได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติกับเส้นทางวิ่งเลียบหาด ได้ชมมุมที่สวยที่สุดของทะเลบางแสน ผ่านเขาสามมุก และยังได้พบกับศิลปวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวบางแสน ที่ศาลเจ้านาจาไท่จื้อ และตลาดอ่างศิลา พร้อมด้วยอาหารขึ้นชื่อของบางแสน เช่น ไก่เหลืองบางแสน ข้าวหลามช็อต และอีกหลายเมนูที่เตรียมไว้ต้อนรับนักวิ่งเมื่อเข้าเส้นชัย

ในด้านความปลอดภัยของนักวิ่งในฐานะเจ้าบ้าน ได้ประสานงานเรื่องการปิดการจราจรในช่วงการแข่งขันกับทางตำรวจ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับนักวิ่งตลอดระยะทางการวิ่งอย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ภาครัฐและเอกชนในท้องถิ่น ทีมอาสาสมัครต่างๆ ต่างร่วมมือ ร่วมใจกัน เตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน ที่จะทำให้งานนี้ประสบความสำเร็จในฐานะงานวิ่งมาราธอนระดับโลกให้ได้” นายณรงค์ชัย กล่าว

ดร.ชาญณรงค์ สุหงษา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี กล่าวว่าจังหวัดชลบุรี มีความยินดีให้การสนับสนุนการจัดงานวิ่งมาราธอน บางแสน42 ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของจังหวัดในการจัด Sport Tourism โดย บางแสน เป็นทำเลที่เหมาะสม ไม่ไกลจากกรุงเทพ และสนามบิน อีกทั้งยังเป็นประตู สู่ภาคตะวันออกไปยังสถานที่ท่องเที่ยวและจังหวัดต่างๆ บางแสนมีศักยภาพและความพร้อมในการรองรับนักวิ่งจำนวนมาก รวมทั้งมีเสน่ห์ที่จะสร้างความประทับใจให้กับนักวิ่ง เหมาะที่จะจัดงานที่ยิ่งใหญ่ระดับประเทศ คุณภาพระดับสากล ซึ่งทางจังหวัด ได้ให้การสนับสนุนการจัดงานวิ่งมาราธอน บางแสน42 นี้อย่างเต็มที่