เครื่องไฟฟ้าจัดหนัก ชิงแชร์ 2.3 แสนล้าน-บิ๊กเนมปูพรมซีรีส์ใหม่รับตลาดฟื้น

12 ก.ค. 2560 | 11:13 น.
แบรนด์ดังพาเหรดทัพสินค้าชิงตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ามูลค่ากว่า 2.3 แสนล้านบาท มั่นใจธุรกิจผงกหัวรับปัจจัยบวกรอบด้าน จับ “แอลจี-พานาโซนิค-อีเลคโทรลักซ์” จัดหนักรับมู้ดนักช็อปฟื้นตัวครึ่งปีหลัง

แม้ปีที่ผ่านมาภาพรวมอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและไอทีซึ่งมีมูลค่ากว่า 2.2 แสนล้านบาทจะติดลบ 4% แต่ทว่าในปีนี้ตลาดดังกล่าวกลับฉายแวดสดใส โดยเฉพาะในตลาดพรีเมี่ยมที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากปัจจัยบวกรอบด้านทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ที่ใส่เม็ดเงินเข้าสู่ระบบส่งผลให้ประชาชนเริ่มออกมาจับจ่ายมากขึ้น การแข่งขันของผู้ประกอบการที่ต่างทยอยเปิดตัวสินค้านวัตกรรมในกลุ่มต่างๆ สร้างบรรยากาศคึกคัก ปลุกมูดการจับจ่าย ทำให้เชื่อว่าภาพรวมตลาดจะกลับมาเป็นบวกและมีการเติบโตได้ที่ 5% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 2.3 แสนล้านบาท ผ่านมาครึ่งทาง สิ่งที่เห็นในตลาดนี้ คือ "มูฟเม้นท์" ที่สร้างความฮือฮาให้กับผู้บริโภค และตลาดโดยรวม

โดยพบว่าแบรนด์ชั้นนำต่างรุกขึ้นมาทำตลาดแบบครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นการออกสินค้าใหม่ การจัดแคมเปญ โปรโมชั่น รวมถึงกิจกรรมเพื่อสังคมหรือซีเอสอาร์ ส่งผลให้ปีนี้เป็นอีกปีทองของแบรนด์ชั้นนำ อาทิ "แอลจี" กับนวัตกรรมอินเวอร์เตอร์ที่ถูกนำมาใช้เป็นตัวขายหลักในทุกกลุ่มสินค้า รวมถึงเครื่องซักผ้า ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อ WIFI ผ่านแอพพลิเคชั่น LG SmartThinQTM บนสมาร์ทโฟน เจาะตลาดทุกกลุ่มตั้งแต่บน-กลาง-ล่าง ต่อด้วย "โตชิบา" ที่ขนทัพเครื่องทำความเย็นออกมาโกยยอดขายในครึ่งปีหลัง โดยเน้นเจาะตลาดไฮเอ็นด์เป็นหลัก

[caption id="attachment_176419" align="aligncenter" width="453"] เครื่องไฟฟ้าจัดหนัก ชิงแชร์2.3 แสนล้าน-บิ๊กเนมปูพรมซีรีส์ใหม่รับตลาดฟื้น เครื่องไฟฟ้าจัดหนัก ชิงแชร์2.3 แสนล้าน-บิ๊กเนมปูพรมซีรีส์ใหม่รับตลาดฟื้น[/caption]

ขณะที่ "พานาโซนิค" จัดเต็มตลาดตู้เย็น ส่ง 12 รุ่นใหม่หวังกวาดแชร์ 20% ในตลาดเมืองไทย ตามมาด้วยยักษ์ใหญ่อย่างซัมซุงที่หลังจากเปิดตัวเครื่องปรับอากาศไปเมื่อต้นปี ก็ตามมาติดๆด้วยการเปิดตัวทีวีรุ่นใหม่ "ซัมซุง คิวแอลอีดี ทีวี" 3 ซี่รี่ย์ ออกมาย้ำแชมป์ผู้นำตลาดอีกครั้ง และล่าสุดที่เรียกเสียงฮือฮาจากกลุ่มเป้าหมายได้ไม่แพ้กันเห็นจะเป็นการกลับมาของ "โซนี่ไทย" ด้วยการเปิดตัว "BRAVIA OLED TV" เปิดตัวไลน์อัพทีวีบราเวียประจำปี 2560ครบไลน์ จำนวน 29 รุ่น ซึ่งประกอบด้วยทีวีที่มาพร้อมเทคโนโลยี4K HDR จำนวนมากถึง 18รุ่น ตั้งเป้าสิ้นปีโกยยอดขายโตกว่า 30% ออกมาทำตลาดอย่างเต็มรูปแบบครั้งแรก หลังจากห่างหายจากการทำตลาดทีวีเมืองไทยไปนาน เรียกว่าสั่นคลอนเจ้าตลาดได้ไม่น้อย

ด้านนายนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรดน์แอลจี เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ในครึ่งปีหลังสินค้าในกลุ่มเครื่องปรับอากาศจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง แม้ไม่ใช่ช่วงหน้าขาย จากปัจจัยบวกต่างๆ ต่างจากครึ่งปีแรกที่ติดลบ 20-30% เนื่องมาจากสภาพหน้าฝนที่มาเร็วกว่าปกติ ขณะที่ตลาดโทรทัศน์ซึ่งมีมูลค่า 3 หมื่นล้านบาทก็เริ่มมีสัญญาณบวกเช่นกัน จากการที่แบรนด์ต่างๆ นำนวัตกรรมเข้ามาเสริมและใช้เป็นจุดขายในการรุกตลาด ทำให้เชื่อว่าตลาดจะดีกว่าครึ่งปีแรกที่ติดลบ 1-2%

ทั้งนี้ที่ผ่านมาแอลจี ได้ทยอยเปิดตัวสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านออกมารุกตลาดตามฤดูกาลอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นตลาดและกำลังซื้อของกลุ่มเป้าหมาย และล่าสุดเปิดตัว LGOLED TVซี รี่ย์ G7T ใน 4 ซีรี่ย์ 7 รุ่น ใน3 ขนาด ได้แก่ ขนาด 55,65,77 นิ้วออกทำตลาด เนื่องจากในตลาดทีวีขนาดใหญ่มีอัตราการเติบโตที่ดีกว่าราว 20% ขณะที่ทีวีขนาดเล็กติดลบ 10% ทั้งนี้เป็นผลมากจากสินค้าในกลุ่มแท็บเล็ตที่เข้ามาชิงส่วนแบ่งทางการตลาดของกลุ่มทีวีขนาดเล็กแทน

"ปีนี้ถือว่าตลาดทีวีเป็นปีที่มีการทรานฟอร์มของกลุ่มคนดูมากที่สุด จากเดิมที่ทีวีถูกนำมาใช้ในการดูรายการต่างๆเพียงอย่างเดียวสู่รูปแบบของการเติมความสุขในชีวิตผ่านฟังก์ชั่น นวัตกรรมที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์ไสตล์ ทำให้ตลาด 4K มีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้นถึง 36% โดยแอลจีสามารถสร้างการเติบโตในตลาดดังกล่าวได้ 60% ในปีทีผ่านมา และวางเป้าหมายการเติบโตเฉพาะในกลุ่ม 4K และ OLED TV ปีนี้ที่ 70%"

พร้อมกันนี้ได้ใช้งบประมาณทางการตลาดราว 150 ล้านบาทในการสร้างแบรนด์ LG OLED TV ซีรี่ย์G7T ที่ถือเป็นรุ่นไฮไลท์หลักที่ทางบริษัทโฟกัสการทำตลาดในปีนี้ โดยจะเน้นทำตลาดใน 4 ส่วนหลักได้แก่ 1.การสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ผ่านแบรนด์อินฟลูเอนเซอร์หลักอย่าง "เต๋อ-นวพล" 2.การเน้นทำตลาดผ่านดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งเพื่อสร้างการ OLED TV พร้อมกับร่วมมือกับร้านค้ากว่า 200 รายทั่วประเทศในการจัดกิจกรรมต่างๆ 3.การจัดโปรโมชั่น เมื่อซื้อทีวีแอลจี แถมฟรีเครื่องเสียง เป็นต้น และ4.การเปิดเน้นบริการหลังการขายด้วยศูนย์บริการ OLED Service ในการดูแลลูกค้า

อย่างไรก็ตามสำหรับภาพรวมรายได้ ในกลุ่มทีวีปีนี้คาดการณ์ว่าจะเติบโตที่ 10% หรือคิดเป็นรายได้ 8,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ที่มาจากทีวีในกลุ่ม OLED TV และ 4K 5,000 ล้านบาท ขณะที่เครื่องปรับอากาศของบริษัทช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาการเติบโตติดลบ 20% ซึ่งเป็นผลพวงจากปัจจัยลบดังกล่าวซึ่งถือว่าไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยประเมินยอดขายเครื่องปรับอากาศตลอดทั้งปีน่าจะปิดที่ 4,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 4,500 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 10% โดยภาพรวมการเติบโตของแอลจี กรุ๊ป ในปีนี้ประเมินว่าจะเปิดที่ 2.1 หมื่นล้านบาท เติบโต 4-5% จากปีก่อน ซึ่งต่ำกว่าเป้าเดิมที่วางไว้ที่ 2.3 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลมาจากเครื่องใช้ไฟฟ้าในกลุ่มเครื่องปรับอากาศที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบในแง่ของสภาพอากาศที่ร้อนน้อย-ฝนมาเร็วกว่าปกติทำให้ยอดขายในส่วนนี้หดตัวลงไป ขณะที่ในกลุ่มทีวีและเครื่องซักผ้าเป็นตัวหลักสำคัญในการไดร์ฟยอดขายของบริษัทในปีนี้

[caption id="attachment_176420" align="aligncenter" width="503"] สุทธิ มโนกิจจรูญมั่น สุทธิ มโนกิจจรูญมั่น[/caption]

นายสุทธิ มโนกิจจรูญมั่น ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเลคโทรลักซ์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า แผนงานต่อจากนี้บริษัทจะให้ความสำคัญในการทำตลาดเครื่องอบผ้าควบคู่ไปเครื่องซักผ้ามากขึ้น เพื่อรับกับสภาพอากาศที่ฝนตกอย่างต่อเนื่องและอัตราการถือครองของคนไทยยังน้อยอยู่ ผ่านรูปแบบการทำตลาดที่หลากหลาย ทั้งสินค้าใหม่ กิจกรรมโปรโมชั่นต่างๆ โดยล่าสุดได้เดินหน้าทำกิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านแคมเปญ "เรนนี่ พริวิลเลจ" ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงสิ้นเดือน ก.ค.ด้วยการมอบโบนัส 3 ต่อสุดคุ้ม เช่น เมื่อซื้อเครื่องซักผ้าสามารถแลกซื้อเครื่องอบผ้าราคาพิเศษ ถูกกว่าราคาจริง 50% สำหรับซื้อเครื่องอบผ้า รวมถึง เมื่อซื้อเครื่องซักผ้าขนาด 8 กก.รับเตารีดเป็นของแถมทันที และซื้อเครื่องซักผ้าขนาด 9 กก. รับรับไมโครเวฟเป็นของแถมทันที , ซื้อเครื่องซักผ้าแล้วสามารถแลกซื้อเครื่องอบผ้าราคาพิเศษ 9,990 บาท หรือ 19,990 ซึ่งลดลงจากราคาขายจริงถึง 50% ,และซื้อเครื่องซักผ้าฝาหน้าได้ในราคาพิเศษลด 30% ของราคาขาย โดยตั้งเป้าหมายกระตุ้นยอดขายให้เติบโตจากปกติได้ประมาณ 10% และผลักดันให้สัดส่วนเครื่องอบผ้าของบริษัทในสิ้นปีนี้มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มจาก 80% ขึ้นเป็น 85%

นายทาเคชิ โนะโมโตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พานาโซนิค เอ.พี.เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าพานาโซนิค กล่าวว่า บริษัทมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดเครื่องซักผ้าพรีเมียมในประเทศไทยซึ่งมีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปีนี้จะมีอัตราการเติบโต 9% จากปีที่ผ่านมา และมีสัดส่วนเป็น 55% ขณะที่ในปัจจุบันพานาโซนิคมียอดขายเครื่องซักผ้าพรีเมียมเติบโตขึ้นมากกว่า 50 % ทั้งนี้เป็นผลมาจากลูกค้าตลาดบนซึ่งมีกำลังซื้อสูงยังคงมีความต้องการสินค้า โดยเน้นเรื่องของดีไซน์ เทคโนโลยี และฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์การใช้งาน

ขณะที่การสื่อสารแบรนด์นับจากนี้ยังคงมุ่งเน้นการสื่อสารครบทุกช่องทาง ทั้งสื่อออนไลน์และออฟไลน์ โดยคว้าตัวนางเอกดัง แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อสร้างการจดจำแบรนด์ให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่ รวมทั้งผลิตภาพยนตร์โฆษณาชุดปรากฏการณ์ความสะอาด ซึ่งจะเผยแพร่ให้ชมทางโทรทัศน์และสื่อออนไลน์ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป นอกจากนี้ ยังมีการจัดแคมเปญ "Hello Rainy" โปร 4 ฉ่ำ ตั้งแต่วันนี้-31 ส.ค. 60 เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลสินค้า พร้อมจัดกิจกรรมโปรโมชั่นพิเศษร่วมกับร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

สำหรับภาพรวมตลาดเครื่องซักผ้าในประเทศไทยในปีนี้คาดการณ์มูลค่าจะอยู่ที่ 1.23 หมื่นล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมีสัดส่วนสินค้ากลุ่มพรีเมียม 55% โดยบริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายเครื่องซักผ้าโดยรวมอยู่ที่ 2,200 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 22% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยแบ่งสัดส่วนเป็นยอดขายสินค้ากลุ่มพรีเมียม 57% อีก 43% เป็นสินค้ากลุ่มอื่นๆ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,277 วันที่ 9 - 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2560