‘เพ็นช็อป’ แฟชั่นฟิลิปปินส์บุกไทย

11 ก.ค. 2560 | 09:18 น.
"เพ็นช็อป" แบรนด์เสื้อผ้าวัยรุ่นชื่อดังจากฟิลิปปินส์สยายปีกบุกไทย ปักหมุดสาขาแรกเซ็นทรัล เวสต์เกต ชูคอนเซ็ปต์เอเชี่ยน ซูเปอร์สตาร์ พร้อมงัดกลยุทธ์ราคาถูกกว่า 30% กระตุ้นยอดขาย วางเป้าโตปีละ 20%

นายเจฟ บาสคอน ผู้อำนวยการผลิตภัณฑ์ฝ่ายต่างประเทศ บริษัท โกลเด้นท์ เอบีซี อิงค์ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า บริษัทได้แต่งตั้งบริษัท ทรินิตี้กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเสื้อผ้าวัยรุ่น ภายใต้แบรนด์ "เพ็นช็อป" (PENSHOPPE) ในประเทศไทย พร้อมเปิดให้บริการสาขาแรกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา เวสท์เกต โดยชูจุดเด่นของเสื้อผ้าที่มีภาพลักษณ์ของ Asian Superstar และนักร้อง Sandara Park ของ 2NE1; และเหล่าดาราชั้นนำ อาทิ Lucky Blue Smith, Cameron Dallas และ Kaia Gerber ฯลฯ ก่อนจะขยายสาขาอีกอย่างน้อย 4-5 สาขาภายในสิ้นปีนี้

[caption id="attachment_176417" align="aligncenter" width="503"] ‘เพ็นช็อป’ แฟชั่นฟิลิปปินส์บุกไทย ‘เพ็นช็อป’ แฟชั่นฟิลิปปินส์บุกไทย[/caption]

สำหรับรูปแบบการสร้างแบรนด์ในประเทศไทยนอกเหนือจากการใช้จุดเด่นของแบรนด์ที่มีสินค้าหลากหลายสำหรับผู้หญิงและผู้ชายเกือบทุกเซกเมนต์ อาทิ เสื้อ กางเกง กระเป๋า รองเท้า แว่นตา หมวก น้ำหอม และเครื่องประดับ อีกทั้งมีคุณภาพคุ้มราคา โดยราคาขายจะถูกกว่าแบรนด์ระดับเดียวกันเฉลี่ย 20-30% นอกจากนี้บริษัทได้วางแผนร่วมกับเจ้าของพื้นที่อีกหลายโครงการที่จะรุกตลาดในประเทศไทย โดยวางแผนเปิดสาขาเฉลี่ยที่ 8-10 สาขาต่อปี เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคให้มากที่สุด

"ตลาดในเมืองไทยถือเป็นตลาดที่ดีและยังไม่มีแบรนด์ที่ยึดครองตลาดอย่างชัดเจน ทำให้บริษัทสามารถนำเสนอสินค้าดี มีคุณภาพ เช่น กางเกงยีนส์ ราคาเริ่มต้นที่ 599บาท เป็นต้น นอกจากกลยุทธ์ด้านราคาที่จะใช้เป็นกลยุทธ์หลักในการตีตลาดในเมืองไทยแล้ว ยังคำนึงและใส่ใจเกี่ยวกับสไตล์รวมทั้งคุณภาพที่ต้องดีควบคู่กันไป โดยบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะผลักดันให้แบรนด์เสื้อผ้าเพ็นช็อปมีการเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 20% ต่อปี"

ปัจจุบันแบรนด์เพ็นช็อป ได้รับความนิยมอย่างมากส่งผลให้เติบโตอย่างรวดเร็วทั้งในฟิลิปปินส์ และในเอเชีย โดยมีสาขาอยู่เกือบ 800 แห่งในภูมิภาคเอเชีย ทั้งที่ซาอุดิอาระเบีย ,บาห์เรน , สหรัฐอาหรับเอมิเรต์ , อินโดนีเซีย,กัมพูชา , เมียนมาร์ และเวียดนาม รวมทั้งยังมีบริการออนไลน์ในฮ่องกง , ไต้หวัน , สิงคโปร์ และมาเลเซีย อีกด้วย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,277 วันที่ 9 - 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2560