ขายทิ้งนอนแบงก์ หนีคุมสินเชื่อบุคคล
กองทุนฉวยปรับพอร์ตขายหุ้น “นอนแบงก์” มองเกณฑ์คุมสินเชื่อส่วนบุคคล-เครดิต กระทบรายได้หลัก
ผู้จัดการกองทุนรายหนึ่ง เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า กองทุนได้ปรับลดน้ำหนักหุ้นกลุ่มนอนแบงก์ โดยเทขายหุ้นออกไปตั้งแต่มีข่าวว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับเกณฑ์คุมเข้มวงเงินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลใหม่ ซึ่งอาจกระทบกับนอนแบงก์ เนื่องจากส่วนใหญ่มีรายได้หลักจากส่วนนี้ ประกอบกับราคาหุ้นกลุ่มนี้ปรับตัวขึ้นมาจนเกือบเต็มมูลค่า จึงเป็นจังหวะขายหุ้นออก
“หากกฎเกณฑ์ออกมาชัดเจนก็ต้องมาประเมินใหม่และถ้าราคาหุ้นลงมาในระดับที่น่าสนใจก็เป็นโอกาสเข้าเก็บหุ้นอีกครั้ง”ผู้จัดการกองทุน กล่าว
ทั้งนี้ จากข่าวธปท.จะปรับเกณฑ์กำหนดให้ผู้สมัครบัตรเครดิตใหม่ต้องมีรายได้ 30,000 บาท/เดือน จากเดิม 15,000 บาท/เดือนและควบคุมจำนวนบัตรเครดิตไม่ให้ถือเกิน 3 ใบ วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 3 เท่าของเงินเดือน
นายชาคริต พืชพันธ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายตราสารทุน สายบริหารกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC เปิดเผยว่า การคุมเข้มสินเชื่อดังกล่าวไม่น่าจะกระทบกับธนาคารพาณิชย์มากนัก เนื่องจากเป็นสัดส่วนรายได้ที่น้อย แต่จะกระทบธุรกิจนอนแบงก์ ซึ่งต้องดูฐานลูกค้าของแต่ละบริษัท
“ต้องรอดูกฎเกณฑ์ให้ชัดก่อน ดังนั้นราคาหุ้นนอนแบงก์ที่ถูกเทขายลงมากในช่วงนี้อาจต้องประเมินราคาหุ้นที่เหมาะสมใหม่ รวมถึงหุ้นแบงก์แม้จะมีรายได้จากสินเชื่อส่วนนี้น้อยก็ตาม”นายชาคริต กล่าว
[caption id="attachment_137012" align="aligncenter" width="503"]
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ[/caption]
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บลจ.ทิสโก้ กล่าวว่า ธุรกิจนอนแบงก์น่าจะได้รับผลกระทบจากกฎเกณฑ์ดังกล่าวและคงต้องมาปรับประมาณการใหม่ แต่มองว่าเกณฑ์ที่ออกมาไม่น่าจะมีผลกับลูกค้าเดิมและคงให้เวลาสักพักก่อนจะค่อยๆ ทยอยปรับลดวงเงินลง ส่วนลูกค้ารายใหม่ได้วงเงินสินเชื่อลดลงก็ทำให้รายได้จากดอกเบี้ยของนอนแบงก์ลดลงตามไปด้วย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,277 วันที่ 9 - 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
ผู้จัดการกองทุนรายหนึ่ง เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า กองทุนได้ปรับลดน้ำหนักหุ้นกลุ่มนอนแบงก์ โดยเทขายหุ้นออกไปตั้งแต่มีข่าวว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับเกณฑ์คุมเข้มวงเงินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลใหม่ ซึ่งอาจกระทบกับนอนแบงก์ เนื่องจากส่วนใหญ่มีรายได้หลักจากส่วนนี้ ประกอบกับราคาหุ้นกลุ่มนี้ปรับตัวขึ้นมาจนเกือบเต็มมูลค่า จึงเป็นจังหวะขายหุ้นออก
“หากกฎเกณฑ์ออกมาชัดเจนก็ต้องมาประเมินใหม่และถ้าราคาหุ้นลงมาในระดับที่น่าสนใจก็เป็นโอกาสเข้าเก็บหุ้นอีกครั้ง”ผู้จัดการกองทุน กล่าว
ทั้งนี้ จากข่าวธปท.จะปรับเกณฑ์กำหนดให้ผู้สมัครบัตรเครดิตใหม่ต้องมีรายได้ 30,000 บาท/เดือน จากเดิม 15,000 บาท/เดือนและควบคุมจำนวนบัตรเครดิตไม่ให้ถือเกิน 3 ใบ วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 3 เท่าของเงินเดือน
นายชาคริต พืชพันธ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายตราสารทุน สายบริหารกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC เปิดเผยว่า การคุมเข้มสินเชื่อดังกล่าวไม่น่าจะกระทบกับธนาคารพาณิชย์มากนัก เนื่องจากเป็นสัดส่วนรายได้ที่น้อย แต่จะกระทบธุรกิจนอนแบงก์ ซึ่งต้องดูฐานลูกค้าของแต่ละบริษัท
“ต้องรอดูกฎเกณฑ์ให้ชัดก่อน ดังนั้นราคาหุ้นนอนแบงก์ที่ถูกเทขายลงมากในช่วงนี้อาจต้องประเมินราคาหุ้นที่เหมาะสมใหม่ รวมถึงหุ้นแบงก์แม้จะมีรายได้จากสินเชื่อส่วนนี้น้อยก็ตาม”นายชาคริต กล่าว
[caption id="attachment_137012" align="aligncenter" width="503"]
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บลจ.ทิสโก้ กล่าวว่า ธุรกิจนอนแบงก์น่าจะได้รับผลกระทบจากกฎเกณฑ์ดังกล่าวและคงต้องมาปรับประมาณการใหม่ แต่มองว่าเกณฑ์ที่ออกมาไม่น่าจะมีผลกับลูกค้าเดิมและคงให้เวลาสักพักก่อนจะค่อยๆ ทยอยปรับลดวงเงินลง ส่วนลูกค้ารายใหม่ได้วงเงินสินเชื่อลดลงก็ทำให้รายได้จากดอกเบี้ยของนอนแบงก์ลดลงตามไปด้วย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,277 วันที่ 9 - 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2560