"ธนะศักดิ์" หารือทูตลาว ปัดคุยเรื่อง "โกตี๋"กบดาน

07 ก.ค. 2560 | 08:50 น.
รองนายกฯ เผยถก ทูตลาว ย้ำความร่วมมือที่ดี พร้อมจับคู่ร่วมประกาศปีท่องเที่ยว ปัดคุยเรื่อง "โกตี๋" กบดาน แต่ถกความมั่นคงชายแดน มั่นใจลาวให้ความร่วมมือจับกลุ่มเคลื่อนไหว

Tanasak

วันนี้ (7ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังนายหลี บุญค้ำ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เข้าเยี่ยมคารวะในโอกาสจะพ้นจากตำแหน่ง ว่า ได้พูดคุยยืนยันความร่วมมือที่ดี ที่สองประเทศมีต่อกัน มีความใกล้ชิด สำคัญสูงสุดทั้งการค้าเศรษฐกิจ สังคม จิตวิทยา การต่างประเทศ การท่องเที่ยว การวัฒนธรรม ศาสนา ซึ่งปี 2561 ไทยก็จะประกาศเป็นปีท่องเที่ยวของไทย ส่วนลาวก็จะประกาศเป็นปีท่องเที่ยวของลาว นั่นหมายความว่าเราสามารถจับคู่เป็นประกาศปีท่องเที่ยวร่วมกันได้ นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวได้สองประเทศในคราวเดียว เป็นความก้าวหน้าในระบบห่วงโซ่ด้านการท่องเที่ยว ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากำลังดำเนินการจัดทำเพื่อเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมครม. เมื่อได้รับความเห็นชอบ ก็คาดว่าภายในไม่เกิน 2 เดือนนี้น่าจะประกาศได้

พล.อ.ธนะศักดิ์ เปิดเผยว่า ในการหารือกับเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องการติดตามตัวนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ ผู้ต้องหาตามที่ถูกออกหมายจับ แต่อย่างใด มีแต่พูดกันถึงเรื่องความมั่นคงชายแดน ซึ่งปัจจุบันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไปมาหาสู่กันเป็นปกติ เป็นสิ่งที่ดี มีความมั่นคงในเรื่องความร่วมมือการปราบปรามยาเสพติด อาทิ เครือข่ายนายไซซนะ หลังจากที่จับได้ที่ไทยแล้ว เขาสามารถขยายผลในลาวได้ ถือเป็นความร่วมมือทั้งสองประเทศเพื่อปราบยาเสพติด ส่วนเรื่องความร่วมมือในการส่งผู้ผู้ร้ายข้ามแดนนั้นเป็นไปตามกติกาอยู่แล้ว ที่ต้องว่าไปตามขั้นตอนกฎหมาย มีความร่วมมือกันอยู่ ได้บ้างไม่ได้บ้างเป็นตามขั้นตอน ยืนยันถือเป็นความร่วมมือ

กรณีที่มีกลุ่มเคลื่อนไหวจัดวิทยุใต้ดินอยู่ในลาว ซึ่งเป็นคนที่ไทยต้องการตัว เขาแสดงความจริงใจในเรื่องนี้อย่างไร พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อครั้งที่ตนดำรงตำแหน่งรมว.การต่างประเทศ ทางลาวเคยบอกว่าหากบอกสถานที่ได้ชัดเจนเขาจะไปดูให้ในทันที ซึ่งตอนนี้ก็ยังทำแบบนั้น แต่ปัจจุบันนี้ถ้าภาษาทหารเรียกว่า ฐานลอย เช่น วันนี้รู้ว่าจัดรายการอยู่ที่นี่ แต่พอเจ้าหน้าที่ไปถึงก็หนีเปลี่ยนที่ไปแล้ว เพราะทุกวันนี้มีโทรศัพท์เครื่องเดียว มีอินเตอร์เน็ตก็สามารถจัดรายการได้แล้ว แต่ในความจริงใจระหว่างสองประเทศยังมีอยู่ ถือว่าความสัมพันธ์เหนือสิ่งอื่นใด เพราะเรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องบั่นทอน ซึ่งถ้าเขาทำให้ได้ก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ฉะนั้นเมื่อไปไล่จับจึงยาก แต่เขาทำตามขีดความสามารถอย่างเต็มที่ บางครั้งกระแสข่าวที่ออกมาตรงหรือไม่ หรือเป็นการข่าวที่บวกๆหรือไม่ จึงกลายเป็นว่าบางคนฟังแล้วรู้สึกไม่ดี แต่ทางลาวเขายืนยันในความร่วมมือ ซึ่งตนเองเชื่อว่าถ้าบอกไปว่าอยู่สถานที่ใด จุดใดเขาสามารถจัดชุดไปดูให้ทันที ตอนนี้จึงอยู่ที่ว่าฝ่ายข่าวแจ้งมาว่าอยู่ตรงไหน อย่างที่บอกว่าบางครั้งเจอแต่ฐานลอย ตนยังมั่นใจว่าเขาให้ความร่วมมือ