ชูเที่ยวคลัสเตอร์ล้านนารายได้ภาคเหนือโตกว่า5.7%

06 ก.ค. 2560 | 07:08 น.
 

รมว.ท่องเที่ยว ชูเที่ยวคลัสเตอร์ล้านนา ทำรายได้ภาคเหนือโตกว่า 5.7% .เร่งเสริมแบรนด์ดิ้งจ.ลำพูน 1 ใน 12 เมืองต้องห้าม..พลาด Plus ชูกลยุทธ์ Lanna Experience Campaign

kob

นางกอบกาญจน์วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยว่าจากการติดตามความคืบหน้าและขับเคลื่อนการดำเนินงานของเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอารยธรรมล้านนา ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง และพะเยา ให้การดำเนินงานสอดคล้องตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาในมิติเชิงพื้นที่ (Area Approach) เพื่อการกระจายรายได้ กระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค จังหวัดและชุมชนเพิ่มมากขึ้น สำหรับการประชุมคณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยว ณ จังหวัดลำพูน ซึ่งเป็น 1 ใน 12 เมืองต้องห้าม..พลาด พลัส มีสิ่งที่ต้องเร่งพัฒนาต่อยอดเสริมคุณค่าคือ

chaing

1) การพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวเพื่อคัดเลือกเส้นทางต้นแบบ "The Ultimate Lanna Experience Campaign" สร้างความเชื่อมโยงในกลุ่มล้านนา “ศรัทธาธรรมถิ่นล้านนา” วัดประจำปีเกิด เส้นทางเริ่มต้นจาก จังหวัดลำปาง–อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง– อำเภอซาง จังหวัดลำพูน – อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน – อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ – อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่

2) การเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อเหตุการณ์ภัยพิบัติ โดยได้ให้นโยบายย้ำว่าสิ่งที่สำคัญ คือการนำไปปฏิบัติ การพัฒนาคน สร้างเจ้าบ้านที่ดี 3) การเตรียมรายละเอียดโครงการสำหรับปีงบประมาณ 2562 ต้องจัดลำดับความสำคัญ เชื่อมโยงยุทธศาสตร์ชาติ จังหวัดเข้าด้วยกัน และ 4) ให้คำนึงถึงมิติสิ่งแวดล้อม การกำจัดน้ำเสีย กำจัดขยะ เพื่อปกป้องให้ชุมชนและแหล่งท่องเที่ยวยังอยู่ได้อย่างยั่งยืน

"เราเห็นข้อมูลตัวเลขว่าจังหวัดลำพูนมีตัวเลขรายได้การท่องเที่ยว ที่เติบโตด้วยกลยุทธ์The Ultimate Lanna Experience Campaign ซึ่งลำพูนจะต้องเร่งชูจุดเด่นเหล่านี้ เพื่อเพิ่มเสน่ห์ให้กับการท่องเที่ยวล้านนาให้มากขึ้น"

payao

นางกอบกาญจน์ กล่าวต่อว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม จนถึงปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวสะสม จำนวน 17,500,409 คน ก่อให้เกิดรายได้ 884,939.39 ล้านบาท ขยายตัว 4.27 % และ 5.82 % จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตามลำดับนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย รัสเซีย เกาหลี และญี่ปุ่น รายได้จากนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน รัสเซีย สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย และเกาหลี

นอกจากนี้ได้มอบนโบายสำคัญคือ เร่งสร้างความมั่นใจ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพราะเป็นเหตุผลสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบมาตรการรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวใน จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นตลาดหลักที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากและมักเกิดอุบัติเหตุทางทะเลคือ จีน ยุโรป และอเมริกัน จึงได้ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ พัฒนาแผนการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพ สามารถช่วยเหลือนักท่องเที่ยวได้อย่างทันท่วงที เพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตของนักท่องเที่ยว เพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว

ปัจจุบันมีบุคลากรจากศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวม 200 คน ตำรวจท่องเที่ยว 1,700 นาย และอาสาสมัครทั่วประเทศราว 2,000 คน ประมาณ 30% เป็นชาวต่างชาติ ทั้งนี้จึงได้มีการฝึกอบรมอยู่เสมอ เพื่อเตรียมความพร้อมให้สามารถรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในรูปแบบต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นได้