กรมเจ้าท่าออกมาตรการบรรเทาความเสียหายสร้างอาคาร/สิ่งล้ำลำน้ำ

06 ก.ค. 2560 | 04:05 น.
 

ตามที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีคำสั่งที่ 32/2560 เรื่อง การบรรเทาความเสียหายให้แก่ประชาชนในกรณีปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใดล่วงล้ำลำแม่น้ำ เพื่อไม่ให้การบังคับใช้ พ.ร.บ. การเดินเรือในน่านน้ำไทย ฉบับที่ ๑๗ พ.ศ. ๒๕๖๐ ส่งผลที่กระทบที่รุนแรงต่อสังคมโดยรวม กรมเจ้าท่า จึงออกมาตรการบรรเทาความเสียหายให้แก่ประชาชนผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองสิ่งล่วงล้ำลำน้ำที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือได้รับอนุญาตแต่ปลูกสร้างไม่เป็นตามที่อนุญาต

รายงานข่าวจากกรมเจ้าท่า เผยว่าทางกรมได้ออกมาตรการในการบรรเทาความเสียหายให้แก่ประชาชน ในกรณีปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใดล่วงล้ำลำแม่น้ำ คือ 1. ผู้มาแจ้งการเป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองสิ่งล่วงล้ำลำน้ำที่ปลูกสร้างก่อนวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 ต่อกรมเจ้าท่าภายในวันที่ 1กันยายน 2560 จะได้รับยกเว้นโทษอาญาและโทษปรับทางปกครอง ส่วนผู้ที่เคยแจ้งต่อกรมเจ้าท่าก่อนที่จะมีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ไม่จำเป็นต้องทำการแจ้งใหม่ ถือว่าได้แจ้งตามคำสั่งนี้แล้ว

2. ให้ผู้แจ้งตามข้อ 1 ยื่นเอกสารหรือหลักฐานแสดงการเป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองสิ่งล่วงล้ำลำน้ำหรือการได้รับอนุญาตปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำภายใน 180 วันนับแต่วันที่แจ้ง โดยเอกสารหรือหลักฐานที่ต้องยื่นเพื่อประกอบการพิจารณา มีดังนี้ 1. ภาพถ่ายสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำ 2. หลักฐานแสดงว่าได้ปลูกสร้างตั้งแต่เมื่อใด เช่น หลักฐานทะเบียนบ้าน ใบเสร็จชำระค่าไฟฟ้า หรือน้ำประปา เป็นต้น 3. หลักฐานแสดงการครอบครองสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำ

nam

3. เมื่อกรมเจ้าท่าได้รับเอกสารครบถ้วน จะพิจารณาโดยคำนึงถึงช่วงเวลาการปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ ดังนี้ 3.1 สิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำนอกพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ที่ปลูกสร้างก่อนวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2515 กรมเจ้าท่าจะขึ้นบัญชีเพื่อควบคุมให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย 3.2 การอนุญาตให้ใช้พื้นที่ล่วงล้ำลำน้ำ ให้กระทำได้เพียงเท่าที่จำเป็นและสมควรตามวัตถุประสงค์ 3.3การอนุญาตให้ใช้พื้นที่ล่วงล้ำลำน้ำ ต้องไม่เป็นการขัดต่อกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารหรือกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง

สำหรับประเภทสิ่งล่วงล้ำลำน้ำที่ปลูกสร้างตั้งแต่วันที่24 สิงหาคม พ.ศ. 2537 ถึงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 มีหลักเกณฑ์เพิ่มเติมกำหนดประเภทที่จะอนุญาตได้ตามกฎกระทรวง ฉบับที่63 (พ.ศ. 2537 ) จำนวน 18 ประเภท ดังนี้ 1. ท่าเทียบเรือ 2. สะพานปรับระดับและโป๊ะเทียบเรือ 3.สะพานข้ามแม่น้ำหรือสะพานข้ามคลอง 4. ท่อหรือสายเคเบิล 5. เขื่อนกันน้ำเซาะ 6.คานเรือ 7. โรงสูบน้ำ 8. กระชังเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 9. ท่าเทียบเรือทางลาดในแม่น้ำโขง 10. ปะการังเทียม 11. ท่อลอด 12. แพสูบน้ำ 13. เขื่อนกันทรายกันคลื่น 14. ซ่อมแซมบ้านพักอาศัย15. ฝายน้ำล้น 16. ซ่อมแซมชานไม้ 17. สะพานทางเดินไม้ 18. สิ่งปลูกสร้างสำหรับส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจที่สร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ของทางราชการ

4. กรมเจ้าท่าจะมีหนังสือแจ้งให้ทราบผลการพิจารณาภายใน 180 วันนับแต่วันที่ยื่นเอกสารหลักฐานครบถ้วน 5.สำหรับสิ่งล่วงล้ำลำน้ำที่ปลูกสร้างตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 การขออนุญาตเป็นไปตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2560 และ 6. ผู้ได้รับอนุญาตต้องชำระค่าค่าตอบแทนรายปีให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สิ่งปลูกสร้างนั้นตั้งอยู่ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจะประกาศกำหนด เช่น บ้านพักอาศัย ตารางเมตรละ 5 บาทต่อปี กระชังเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ปะการังเทียม ไม่เก็บค่าตอบแทนรายปี