กทพ.เร่งอุโมงค์กะทู้-ป่าตอง ประมูลปีนี้ค่า 1.4 หมื่นล้าน-จับตา BEM รุกหัวเมือง

06 ก.ค. 2560 | 03:45 น.
รับเหมาภูเก็ตลุ้นงบก้อนโตโครงการก่อสร้างอุโมงค์กะทู้-ป่าตอง มูลค่า 1.4 หมื่นล้าน หลังบอร์ดกทพ.ลงพื้นที่ลุยเคลียร์ปมปัญหา คาดพร้อมเสนอ ครม.ประมูลปลายปีนี้ จับตา BEM ตัวเก็งคว้างานรับเหมาและบริหารจัดการพร้อมวางระบบ

แหล่งข่าวระดับสูงของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพล.อ. วิวรรธน์ สุชาติ ประธานคณะกรรมการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เดินทางไปประชุมหารือร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต บริษัทที่ปรึกษาโครงการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัดภูเก็ตในการเร่งขับเคลื่อนโครงการก่อสร้างอุโมงค์ กะทู้-ป่าตอง หลังจากช่วงก่อนนี้พบปัญหาไม่ลงตัวหลายด้าน โดยเฉพาะการเวนคืนพื้นที่ ซึ่งการหารือในครั้งนี้ประธานบอร์ดกำหนดว่าปลายปี 2561 ต้องสามารถเริ่มงานก่อสร้างได้ แต่ขึ้นกับขั้นตอนปฏิบัติตามพ.ร.บ. ร่วมทุนฯปี 2556

ทั้งนี้เมื่อผลการศึกษาด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) ผ่านการพิจารณา กทพ.จะเร่งแต่งตั้งคณะกรรมการตามพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ เพื่อพิจารณาและขับเคลื่อนโครงการพร้อมเปิดประมูลให้ได้ปลายปีนี้หรือต้นปี 2561 ปัจจุบันกระทรวงคมนาคมได้นำโครงการดังกล่าวบรรจุไว้ในกิจการภายใต้แผนยุทธศาสตร์การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2558-2562 (Project Pipeline) อีกทั้งยังบรรจุในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) และแผนปฏิบัติการตามยุทธศาสตร์กระทรวงคมนาคม พ.ศ.2560-2564 (Action Plan) ดังนั้น ช่วงครึ่งปี 2560 นี้กทพ.จึงต้องเร่งรัดกระบวนการต่างๆให้แล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อนำไปสู่การเปิดประมูลและก่อสร้างต่อไป

“ปัจจุบันการออกแบบเบื้องต้นแล้วเสร็จ หลังจากนี้กทพ.จะเร่งว่าจ้างออกแบบรายละเอียดต่อไป เช่นเดียวกับการศึกษาด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) ที่ยังมีลุ้นหลังจากที่บริษัทที่ปรึกษาได้นำเสนอไปเมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมาให้คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมทางบกและทางอากาศ (คชก.) ของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) พิจารณา หากผ่านการพิจารณาเดือนกันยายนนี้ก็จะเร่งนำเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเห็นชอบต่อไป”

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่าประเด็นหนึ่งที่ประธานบอร์ดกังวลอย่างมากคือ การเวนคืน เนื่องจากที่ดินในจังหวัดภูเก็ตราคาแพง จึงไม่ต้องการให้มูลค่าการเวนคืนเพิ่มสูงมากจนส่งผลกระทบต่อวงเงินดำเนินโครงการในครั้งนี้ ซึ่งขณะนี้ได้ข้อสรุปใน 2 พื้นที่คือกะทู้และป่าตองเรียบร้อยแล้ว

“ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ระบุว่าปัจจุบันจังหวัดภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวจำนวนประมาณ 13.37 ล้านคน (ปี 2558) มีรายได้จากการท่องเที่ยวราว 3.26 แสนล้านบาท (ปี 2558) จึงนับว่าเป็นความร่วมมือที่ดีของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่เพราะเล็งเห็นถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจเมื่อเปิดให้บริการโครงการอย่างเป็นทางการที่จะสามารถอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางและยกระดับโลจิสติกส์ในพื้นที่ได้อย่างมาก ประการสำคัญต้องจับตาดูกรณีการเปิดประมูลและการร่วมลงทุนที่คาดว่าบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BEM จะเข้าไปรับงานนี้นอกเขตพื้นที่กรุงเทพ มหานคร โดยจะแข่งขันเองหรือร่วมกับนักลงทุนในพื้นที่ภูเก็ต

TP12-3256-1 ทั้งนี้โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต มีระยะทาง 3.98 กิโลเมตร มีจุดเริ่มต้นโครงการเชื่อมกับถนนผังเมืองรวมสาย ก. ในพื้นที่ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ เป็นทางยกระดับขนาด 4 ช่องจราจรต่อทิศทาง ข้ามถนนพิศิษฐ์กรณีย์ แล้วจึงเป็นอุโมงค์ลอดเขานาคเกิด หลังจากผ่านช่วงภูเขาจึงเป็นทางยกระดับเชื่อมกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4029 ในพื้นที่ตำบลกะทู้ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดโครงการ

โดยตามผลศึกษามีมูลค่าปัจจุบันสุทธิ(NPV) 12,709 ล้านบาท อัตราส่วนผลประโยชน์ต่อทุน(B/C Ratio) 2.29 และมีอัตราผลตอบแทนด้านเศรษฐกิจ(EIRR) 20.01% กทพ. เป็นผู้ดำเนินโครงการและขอรับการสนับสนุนค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 100% และค่าก่อสร้างบางส่วนประมาณ 58.88% จากรัฐบาล เพื่อให้อัตราผลตอบแทนทางการเงิน(FIRR) เท่ากับ 8.02% สำหรับงบประมาณโครงการดังกล่าวรวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท จำแนกเป็นค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 5,685 ล้านบาท และค่าก่อสร้างรวมค่าควบคุมงาน 8,231 ล้านบาท เมื่อเปิดให้บริการในปี 2567 คาดว่าจะจัดเก็บค่าโดยสารอัตรา 15-240 บาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,276 วันที่ 6 - 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2560