สร้างแบรนด์เก่งแค่ไหน...สินค้าไม่ดี ก็จบ!

08 ก.ค. 2560 | 10:30 น.
[caption id="attachment_174229" align="aligncenter" width="317"] MP29-3276-2 วิจักษ์ สิริสิงห์” ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยท็อปสปอร์ต จำกัด[/caption]

ว่าด้วยเรื่องของการสร้างแบรนด์ การทำตลาดให้สินค้าเป็นที่รู้จัก และยอมรับของผู้บริโภค คือหน้าที่ของนักการตลาดทั้งหลาย แต่นักการตลาดไม่ว่าจะเก่งแค่ไหนก็มักต้องจอดแบบตายสนิท เมื่อสินค้านั้นคุณภาพไม่ได้เรื่อง...นี่คือนิยามการคัดเลือกสินค้าแบรนด์เนมเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยของ “วิจักษ์ สิริสิงห์” ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยท็อปสปอร์ต จำกัด ผู้จัดจำหน่าย รีบอค และผู้นำเข้าสปอร์ตแวร์แบรนด์ดังจากต่างประเทศอีก 7 แบรนด์ “วิจักษ์” ทำแบรนด์รีบอคมานาน ตั้งแต่ยุคก่อนฟองสบู่แตก โดยการเริ่มต้นจากอุตสาหกรรมการผลิต ที่ให้บทเรียนที่สำคัญกับเขามากๆ อุตสาหกรรมการผลิตที่ต้องคุมคนเป็นหมื่น ต้องสางสารพัดปัญหา แถมยังเจอทั้งวิกฤติปี 2540 และปัญหาค่าแรง 300 บาท เล่นงานจนจุกอก ต้องม้วนเสื่อ เลิกทำโรงงานไปเลย แต่ด้วยความโชคดีที่เจ้าของแบรนด์รีบอคมองเห็นศักยภาพ เลือกให้เขาเป็นดิสตริบิวเตอร์แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จากจุดเริ่มต้นตรงนั้น จึงทำให้เขาเลือกเส้นทางธุรกิจ กับการเป็นผู้นำเข้าสินค้าสปอร์ตแวร์แบรนด์อินเตอร์มาตลอด

“ผมอยู่ในวงการรองเท้ามา 30 ปี เมื่อก่อนทำโรงงานรองเท้า วงศ์ไพฑุรย์ ส่งให้รีบอค ไนกี้ อาดิดาส แต่พอปี 2540 ฟองสบู่แตก โรงงานประสบปัญหา ตอนนั้นเราเป็นดิสตริบิวเตอร์ของรีบอคด้วย พอโรงงานปิด เขาก็ให้ผมมาเป็นดิสตริบิวเตอร์เองเต็มตัว แล้วขยายธุรกิจมาเรื่อยๆ”

“วิจักษ์” บอกว่า ธุรกิจดิสตริบิวเตอร์สปอร์ตแวร์และฟุตแวร์ของรีบอคดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เทรนด์ออกกำลังเป็นที่นิยมของคนไทย ทำให้ยอดขายของเขาเติบโตแบบก้าวกระโดด จากตอนทำโรงงานยอดขายไม่เยอะ ประมาณ 2,500 ล้านบาท แต่เมื่อเข้ามาทำเต็มตัว เขาให้ความสำคัญกับการบุกตลาดมากขึ้น

MP29-3276-1 “ความที่เราเป็นอินเตอร์แบรนด์ เรามีพื้นฐานในตลาดมานาน คนรู้จักรีบอคพอสมควร ห้างทุกห้างที่เปิดก็จะมาหาว่าเราจะไปเปิดไหม การทำแบรนด์ เราเป็นฟิตเนสแบรนด์ ฟิตเนส เป็น core ของการเล่นกีฬาทุกอย่าง”

เมื่อการออกกำลังกายบูม ตลาดเปิด การแข่งขันก็ย่อมสูงตามเป็นธรรมดา ทุกแบรนด์แข่งออกนวัตกรรม แข่งอัดแคมเปญ บางแบรนด์ใช้เซเลบ หรือคนที่มีอิทธิพล (influencer) ต่อกลุ่มเป้าหมายเข้ามาชักจูง สำหรับ รีบอค เลือกใช้ ลิเดีย-ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ พร้อมด้วย influencer ในสาขาอาชีพต่างๆ ทำให้ยอดขายเติบโตต่อเนื่องเป็นดับเบิลดิจิตต่อเนื่อง

ซีอีโอ ผู้จำหน่ายรีบอค เปรยว่า influencer เป็นผู้มีอิทธิพลมากกับกลุ่มลูกค้ายุคนี้ ครูสอนเต้น หรือเทรนเนอร์ออกกำลังกาย แนะนำให้ใส่อะไร พวกเขาจะทำตาม ศิลปินนักร้อง นักแสดง หากคนเหล่านี้แนะนำอะไร ใส่อะไร วัยรุ่นและคนรุ่นใหม่จะซื้อตาม เพราะฉะนั้น การจะทำตลาดธุรกิจสปอร์ตแวร์ให้สำเร็จในยุคนี้ จึงต้องตามแฟชั่นให้ติด อย่าตกเทรนด์ และต้องทำการตลาดต่อเนื่อง ต้องทำให้ลูกค้าเห็นว่า มีสินค้าอะไร มีนวัตกรรมอะไรที่น่าสนใจ ขนออกมาโชว์สวยๆ เพื่อดึงลูกค้าเข้าร้านให้มากที่สุดยิ่งช่วงหลังนี้ ร้านรองเท้าสนีกเกอร์ได้รับความนิยมมากๆ รองเท้าบางรุ่นของรีบอคก็ถูกนำเข้าไปจำหน่ายในร้านเหล่านี้ด้วยเช่นกัน ซึ่ง “วิจักษ์” ถือว่า เป็นการเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ เพราะรองเท้าในร้านสนีกเกอร์ จะเป็นรองเท้ารุ่นลิมิเต็ด หรือรองเท้ารุ่นเก๋ๆ ที่วัยรุ่นนิยม และหากเป็นแบรนด์รีบอคก็ต้องมาสั่งซื้อผ่านเขาอยู่แล้ว

“วิจักษ์” ยอมรับว่า ในยุคที่การแข่งขันสูงแบบนี้ ค่าการตลาดของเขาสูงขึ้นกว่าเมื่อก่อนถึง 30-40% แต่...รีเทิร์นที่ได้กลับมาก็คุ้ม เพราะรายได้ที่โตเป็นดับเบิลดิจิตทุกปี โดยเฉพาะปี 2557-2558 โตสูงมาก เป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียว

ผู้บริหารคนนี้ ไม่ได้สร้างแบรนด์รีบอคในตลาดเมืองไทยเพียงแบรนด์เดียว แต่เขายังนำเข้าสปอร์ตแวร์แบรนด์อินเตอร์อีก 6-7 แบรนด์ การที่มีสินค้าแบรนด์เนมหลายแบรนด์ในมือ ถามว่าเคยมีไอเดียที่จะเปิดช็อปเป็นมัลติแบรนด์บ้างหรือไม่ เขาตอบทันทีว่า ไม่...การบริหารแบบแยกแบรนด์ โปรโมตสินค้าง่ายกว่า ทำแบรนด์ง่ายกว่า คนนิยมเดินร้านแบบนี้มากกว่า เพราะมีสินค้าให้เลือกครบ

“วิจักษ์” ยังมีแผนที่จะนำเข้าแบรนด์อินเตอร์ที่เป็นสปอร์ตแวร์เข้ามาจำหน่ายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามความเหมาะสม และยังมีแผนสำหรับรีบอค ที่จะขยายสาขาต่ออีก 3 สาขาในปีนี้ ที่ เซ็นทรัลลาดพร้าว เซ็นทรัลพระราม 9 และเซ็นทรัลเวิลด์ ส่วนปีหน้าอีก 3 สาขา คือ ที่ไอคอน สยาม และอีก 2 สาขากำลังตัดสินใจ โดยมีแผนที่จะเปิดให้ครบ 18 สาขาภายใน 3 ปี จาก 11 สาขาในปัจจุบัน ส่วนสาขาต่างประเทศ เขาเน้นการจับมือกับพันธมิตร ซึ่งตอนนี้มีแล้วที่เมียนมา และกำลังวางแผนที่จะบุกตลาด ลาว และกัมพูชา ตลาดรวม 4 หมื่นล้านบาทสำหรับสินค้าสปอร์ตแวร์ เป็นตลาดที่หอมหวลและยังมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้น การจับตลาดให้แม่น เลือกสินค้าให้ถูก พร้อมกับทำตลาดต่อเนื่อง จึงเป็นหัวใจสำคัญ ที่ซีอีโอคนนี้ยึดเป็นหลักในการทำธุรกิจ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,276 วันที่ 6 - 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2560