บลจ.ไทยพาณิชย์ฯ เปิดแผนครึ่งปีหลัง เน้นนวัตกรรมตอบโจทย์ลูกค้าต่อเนื่อง ซุ่มตั้งกองทุนหุ้นไทยใช้โปรแกรมบริหารแทนคน มองผลตอบแทนหุ้นไทยครึ่งปีหลัง 10% ส่วนปีหน้า 15%
นายสมิทธ์ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลังบริษัทยังคงเน้นการขยายฐานลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังไม่มีการลงทุน เพื่อให้มีเงินออมไว้ใช้ในยามเกษียณ หลังจากศึกษาร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์พบว่าคนรุ่นใหม่สนใจด้านการลงทุนน้อยรวมทั้งปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ โดยร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ปรับปรุงแอพพลิเคชั่นบนมือถือคาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาส 3 นี้ และออกกองทุนโดยนำนวัตกรรมการลงทุนใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ความต้องการนักลงทุนรวมถึงเน้นคุณภาพพนักงานเสนอขายที่เข้มข้นขึ้น
[caption id="attachment_174095" align="aligncenter" width="335"]
สมิทธ์ พนมยงค์[/caption]
ทั้งนี้ การทำงานของบริษัทจะสอดคล้องกับเป้าหมายหลักต้องการเป็นบลจ.ที่ 1 ในใจลูกค้า โดยจะไม่เน้นเติบโตด้านปริมาณ แต่เน้นเรื่องคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุน
“ด้านการลงทุนซึ่งในอดีตจะการกระจายความเสี่ยงด้วยการกระจายสินทรัพย์ แต่เวลาเกิดวิกฤต เช่น เมื่อตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงก็ดึงให้ตลาดหุ้นทั่วโลกลดลงตาม เช่นเดียวกับตราสารหนี้เมื่อเกิดวิกฤตก็กระทบกันหมด ทำให้พอร์ตลงทุนได้รับความเสียหาย จึงมีการนำนวัตกรรมการลงทุนใหม่มาใช้ โดยการกระจายลงทุนด้วยปัจจัยและกลยุทธ์ต่างๆ ซึ่งตอบโจทย์ได้ในทุกสภาวะการลงทุน”นายสมิทธ์ กล่าว
อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่บริษัทออกกองทุนที่มีนวัตกรรมใหม่อย่างการเพิ่มผลตอบแทนบนค่าความเสี่ยงไม่ได้เพิ่ม ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนค่อนข้างมาก อย่างกองทุนประเภทอินคัมที่ลงทุนต่างประเทศในช่วง 5 เดือนแรก มียอดลงทุนสูงถึง 3.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งกระจายลงทุนในหลายสินทรัพย์สามารถเลือกรายได้ระหว่างทางหรือแบบสะสมมูลค่าได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ เอเชียแปซิฟิค อินคัมพลัส กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอล อินคัมพลัส กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอล อินคัม และในวันที่ 7-11 กรกฎาคมนี้ เตรียมเปิดตัวกองทุนใหม่
นอกจากนี้บริษัทได้นำเสนอกองทุนแอปโซลูทรีเทิร์น ลงทุนหุ้นไทยให้ออกแบบให้การลงทุนมีความผันผวนต่ำ แต่ผลตอบแทนสูงกว่าตลาด สามารถสร้างผลตอบแทนเป็นบวกได้แม้ในตลาดขาลงหรือทรงตัวซึ่งตั้งเป้าบริหารผลตอบแทน 8-10% ต่อปี โดยใช้เครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงจากการลงทุนในอนุพันธ์
นายสมิทธ์ กล่าวว่า บริษัทยังมีแผนออกกองทุนหุ้นไทย ซึ่งพัฒนาระบบโดยเขียนโปรแกรมขึ้นมาใช้บริหารจัดการกองทุน เป็นอีกทางเลือกในการลงทุน ซึ่งในประเทศไทยยังไม่มี จากแบบจำลองที่ทำขึ้นมาจากการใส่ระบบข้อมูลและกลยุทธ์ซึ่งสามารถให้ผลตอบแทนได้ดี
สำหรับสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร 5 เดือนแรกปี 2560 ของบริษัทอยู่ที่ 1.34 ล้านล้าบาท ยังคงเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรม ด้วยส่วนแบ่งตลาดสูงสุด 20.2% เติบโต 3% จากสิ้นปี 2559
นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 มีโอกาสให้ผลตอบแทน 10% จากครึ่งปีแรกดัชนีค่อนข้างทรงตัว ผลจากปีก่อนดัชนีปรับขึ้น 19% สูงกว่าตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน ทำให้ครึ่งปีแรกกองทุนหุ้นต่างประเทศให้ผลตอบแทนดี จึงแนะนำขายทำกำไรและเพิ่มลงทุนหุ้นไทย โดยมองปี 2561 ตลาดหุ้นไทยยังมีทิศทางเป็นบวกผลตอบแทนประมาณ 15% จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและแนวโน้มกำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโต รวมถึงเงินลงทุนต่างชาติที่เพิ่งเริ่มเข้ามาลงทุน
“หุ้นขนาดกลางและเล็กยังน่าสนใจจากการเปรียบเทียบพอร์ตหุ้นใน SET50 มีการเติบโตของกำไรใน 12 เดือนข้างหน้าประมาณ 7% ขณะที่หุ้นขนาดกลางและเล็กภายใต้การวิเคราะห์ของบริษัทกำไรเติบโต 11% ส่วนการเติบโตของราคาต่อกำไร SET 50 อยู่ที่ 0.8 เท่า ขณะที่หุ้นขนาดกลางและเล็กอยู่ที่ 1.1 เท่า”นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,276 วันที่ 6 - 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2560