‘หัวเห็ด’เล็งใช้นวัตกรรม สร้างรายได้ไต่ระดับสู่ 100 ล้านบาทปี 61

08 ก.ค. 2560 | 05:40 น.
เห็ดกรอบแบรนด์ "หัวเห็ด" ลุยขยายตลาดให้ครอบคลุม พร้อมขยายสู่ประเทศจีนปูทาง เพิ่มรายได้เป็น 20-30 ล้านบาทปี 60 แย้มเตรียมใช้นวัตกรรมพัฒนาผลิตใหม่ พร้อมจับมือพันธมิตรทางธุรกิจสร้างตลาดใหม่ เชื่อดันรายได้สู่หลัก 100 ล้านบาทในปี61

นายเศรษฐกาล เศรษฐภากรณ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท มายาณกานต์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเห็ดกรอบแปรรูปจากเห็ดสดแบรนด์ "หัวเห็ด" เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า กลยุทธ์การทำตลาดในปี 2560 นี้ บริษัทจะมุ่งเน้นการขยายตลาดให้ครอบคลุม และขยายกลุ่มลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปจำหน่ายในคอนวิเนี่ยนสโตร์ และไฮเปอร์มาร์เก็ต จากเดิมที่จะมีจำหน่ายอยู่ที่ซุบเปอร์มาร์เก็ต ,โกลเด้นเพลส ,ท็อปซุบเปอร์มาร์เก็ต ,กูร์เม่ต์มาร์เก็ต (Gourmet)และร้านเซเว่นอีเลฟเว่นสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นต้น

ขณะที่ตลาดในต่างประเทศก็จะเข้าทำตลาดในประเทศจีนเป็นหลัก โดยที่ผ่านมาบริษัทก็มีการทดลองทำตลาด และได้รับกระแสตอบรับที่ดีอย่างมาก จากเดิมที่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะมีผู้ที่เข้ามาติดต่อไปจำหน่ายในประเทศกลุ่มเอเชียใต้ ด้านกลยุทธ์ในการทำตลาดก็จะเริ่มกระจายไปสู่การสื่อสารที่ไม่ใช่รูปแบบทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เพื่อขยายการรับรู้ต่อแบรนด์ให้กว้างขวางขึ้น จากเดิมในช่วง 1 ปีครึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะมีการเติบโตได้จากดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งเป็นหลัก โดยปีนี้จะเริ่มดำเนินการในส่วนของสื่อสาธารณะไม่ว่าจะเป็นรถโดยสารประจำทาง และสื่อสิ่งพิมพ์ เป็นต้น

"การทำตลาดในรูปแบบดังกล่าวของบริษัทในปีนี้ เชื่อว่าจะทำให้รายได้เติบโตขึ้นมา 20-30 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นจากในปีที่ผ่านมาที่บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 10 ล้านบาท และจะเติบโตขึ้นเป็น 100 ล้านบาทภายในปี 2561"

สำหรับแนวทางที่จะทำให้รายได้ของบริษัทสามารถเติบโตถึงหลัก 100 ล้านบาทนั้น จะมาจากการขยายจุดจำหน่ายให้ครอบคลุมในประเทศ โดยจะกระจายไปจำหน่ายในพื้นที่ต่างจังหวัด และขยายตลาดส่งออก อีกทั้งยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่โดยนำนวัตกรรมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการกระบวนการผลิต โดยจะยังคงมุ่งเน้นการใช้วัตถุดิบที่เป็นเห็ดอยู่เช่นเดิม นอกจากนี้ ยังจะมีความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสร้างตลาดใหม่ให้เกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยทำให้บริษัทขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มมากขึ้นจากที่มีอยู่

MP13-3276-a ด้านนางสาวพนัญญา ธิติบดินทร์ กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า ปัจจุบันผลิตภัณฑ์แบรนด์ "หัวเห็ด" มีการทำตลาดอยู่ 3 ประเภท ประกอบด้วย 1.เห็ดนางฟ้ากรอบรสดั้งเดิม 2.เห็ดเข็มทองกรอบรสดั้งเดิม และ3.เห็ดเข็มทองกรอบรสเผ็ด โดยมีจุดเด่นอยู่ที่คุณประโยชน์ของตัวเห็ดในเรื่องของสารอาหารไม่ว่าจะเป็นโปรตีน วิตามิน และธาตุเหล็ก เป็นต้น อีกทั้งยังเป็นอาหารที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่รักสุขภาพ ขณะที่ผู้ที่เป็นอิสลาม และผู้ที่รับประทานอาหารเจก็สามารถรับประทานได้ ซึ่งแบรนด์ "หัวเห็ด" เองได้การรับรองมาตรฐานทั้งจากองค์การอาหารและยา (อย.) ,ตราฮาลาล และมาตรฐานตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ดีในการผลิตอาหารซึ่งจัดทำขึ้นโดยหน่วยงานมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ หรือ โคเด็กซ์ (CODEX) เพื่อให้สมาชิกทั่วโลกใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค (Good Manufacturing Practice : GMP)

นอกจากนี้ สิ่งที่สำคัญก็คือเรื่องของวัตถุดิบที่นำมาใช้แปรรูป ซึ่งเราจะคัดเฉพาะเห็ดปลอดสารพิษ โดยจะมีวิธีการควบคุมคุณภาพด้วยการปลูกในโรงเรือนแบบปิดด้วยตัวบริษัทเองส่วนหนึ่ง และมีการทำสัญญากับฟาร์มเพาะเห็ดที่จะส่งวัตถุดิบให้กับบริษัท อีกทั้งยังมีการควบคุมด้วยการมีห้องแล็ป และมีกระบวนแปรรูปที่สามารถรักษาสารอาหารในเห็ดเอาไว้ได้มากที่สุด รวมถึงไม่มีส่วนผสมของผงชูรสในผลิตภัณฑ์

"ในความเป็นจริงแล้วต้นทุนของเห็นปลอดสารพิษที่ขายกันอยู่ในตลาดก็มีราคาประมาณ 50-100 บาทแล้ว แต่เราสามารถควบคุมต้นทุนเหล่านั้นได้ เพราะเรามีโรงเพาะเห็ดเอง และการทำสัญญากับฟาร์มจากภายนอก ทำให้สามารถจำหน่ายเห็ดกรอบได้ในราคาที่ผู้บริโภคสามารถจับต้องได้ และนี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่สำคัญ"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,276 วันที่ 6 - 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2560