เปิดแผน 5 ปีธุรกิจแฟชั่นเครือสหพัฒน์ ลุยออนไลน์ดันยอด

02 ก.ค. 2560 | 08:13 น.
เปินแผนกลุ่มธุรกิจเครื่องสำอาง-แฟชั่น เครือสหพัฒน์ 5 ปียังเติบโตต่อเนื่อง เดินหน้าปรับระบบซัพพลายเชน  พร้อมลุยตลาดออนไลน์  หวังสร้างพอร์ตเพิ่ม  ไอ.ซี.ซี.ฯ เตรียมลุยเพื่อนบ้าน โอซีซี พัฒนาสินค้าขายลาซาด้า  บูติกนิวซิตี้  ขยายพอร์ตลูกค้าองค์กร  ด้านนิวซิตี้  ปรับสู่ธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าเพิ่ม

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา  กรรมการผู้อำนวยการและรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่น  กล่าวภายในงานนักวิเคราะห์ นักลงทุนพบกลุ่มสหพัฒน์ ครั้งที่ 9 ปี 2560 ภายในงานสหกรุ๊ปแฟร์ครั้งที่ 21 ที่ผ่านมาว่า   สถานการณ์ธุรกิจยังอยู่ในภาวะทรางตัว เนื่องจากผู้บริโภคไม่มีอารมณ์จับจ่ายใช้สอย   โดยการเติบในอีก 5 ปีข้างหน้าก็ไม่น่าจะหวือหวา แต่มีโอการเติบโตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง  เพราะปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการบริหารซัพพลายเชน  และการพัฒนาสินค้า  รวมถึงการทำตลาดออนไลน์  ที่จะเป็นธุรกิจผลักดันให้บริษัทมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ และยังมีตลาดประเทศเพื่อนบ้านที่ปัจจุบันยังไม่ได้ทำตลาดอย่างจริงจัง DSCF6084

“การทำตลาดออนไลน์ได้เริ่มทดลองแล้ว  บางแบรนด์ก็เติบโตดี และบางแบรด์ตัวเลขยังไม่ดี แต่ก็มีอัตราการเติบโตที่ดี  ซึ่งสินค้าที่จำหน่ายในออนไนลน์แตกต่างจากร้านค้า  เพราะคนซื้อสินค้ามีความแตกต่าง  ซึ่งเราได้คิดทำตลาดเองรวมถึงหาความรู้จากคู่ค้าบ้าง  ตอนนี้บริษัทมีการปรับปรุงกระบวนการออกสินค้า ที่ไม่ได้ใช้ข้อมูลการขายอย่างเดียว แต่ใช้ข้อมูลทางด้านการตลาดมาประกอบด้วย  เพราะต้องทำให้สินค้าเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค  และไปถึงมือให้เร็วที่สุด  จึงมีการพัฒนาทั้งแวร์เฮ้าส์และระบบซัพพลายเชนทั้งหมด  ภายในปีที่  4-5 น่าจะเห็นผลการเติบโตชัดเจน”

ขณะที่นางธีรดา อำพันวงษ์  กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอซีซี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายเครื่องสำอางในเครือสหพัฒน์  กล่าวว่า  ปัจจุบันตลาดเครื่องสำอางการแข่งขันสูง เนื่องจากมีแบรนด์จากต่างประเทศเข้ามาทำตลาดจำนวนมากและเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ซึ่งบริษัทมีทั้งแบรนด์ที่ผลิตขึ้นเองและแบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศ  ที่จะต้องปรับตัวและแข่งขันให้ได้  โดยดูกระแสและเทรนด์แฟชั่น  รวมถึงส่วนผสมที่นำมาเป็นวัตถุดิบ  ที่จะต้องปรับตัวให้ทันกับความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับตัวทุกรูปแบบ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

“ตลาดออนไลน์บริษัทก็ให้ความสำคัญ  ทั้งในส่วนของบริษัทเองและในส่วนของช่องทางออนไลน์คนอื่นที่ได้เข้าไปร่วม  อย่างล่าสุดเครือสหพัฒน์ที่ได้จับมือกับลาซาด้า  บริษัทก็กำลังคัดเลือกสินค้าและพัฒนาตลาดร่วมกัน สัดส่วนสินค้ายังไม่มากแต่มีแนวโน้มที่ดี  อีก 1-2 ปีน่าจะเห็นตัวเลขเติบโตที่ดี  นอกจากนี้ นังมีการพัฒนช่องทางการตลาดใหม่  การทำตลาดกับประเทศเพื่อนบ้าน  ที่ผ่านมาก็มียอดสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแบรนด์เคเอ็มเอ ส่วนการเติบโตในอีก 5 ปีข้างหน้า  บริษัทคงต้องอิงไปกับตลาด เติบโตจากผลิตภัณฑ์ใหม่  และตั้งเป้าโต 10% ทุกปีแต่ที่ผ่านมาตัวเลขยังทรงตัว”

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

นางประวรา เอครพานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท บูติค นิวซิตี้ จำกัด (มหาชน)  ผู้ผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้าแฟชั่นสตรี  กล่าวว่า  ปัจจุบันเครื่องแต่งกายเป็นปัจจัย 4 ที่ทุกคนต้องแต่งกาย แต่ยังมีความยากในการทำธุรกิจ  คือ มีผู้เล่นในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ทั้งกลุ่มสินค้าราคาถูกและราคาแพง  แต่ยังคงเน้นเรื่องคุณภาพสินค้า  ทำให้สามารถรักษาการเติบโตไว้ได้  ขณะเดียวกันยังได้ขยายตลาดไปยังธุรกิจรับออกแบบเสื้อผ้าองค์กร  โดยมีฐานลูกค้าหลักเป็นกลุ่มสถาบันการเงิน  เนื่องจากใช้จุดแข็งจากประสบการณ์ของบริษัทที่รู้รูปร่างของคนไทย  ทำให้มีขนาดให้ลูกค้าเลือกมาก 50-60 ขนาด

อย่างไรก็ตาม  ในการรับมือกับภาวะการแข่งขันและรักษาอัตรากำไร  บริษัทยัคงเน้นราคาที่สามารถแข่งขันได้  ด้วยการบริหารงานภายในเพื่อลดต้นทุนการจัดการต่างๆ การพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย  ซึ่นอกจากการขายสินค้าให้กลุ่มองค์กร  ในส่วนช่องทางรีเทลก็มีการพัฒนาในทุกรูปแบบ  รวมถึงการพัฒนาช่องทางออนไลน์ เพื่อสื่อสารถึงลูกค้าได้โดยตรง การเติบโตนับจากนี้ใน 5 ปียังคงวางการเติบโตต่อเนื่อง  แต่จะต้องสร้างธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งและมั่นคงด้วย

ส่วนนายพิภพ โชควัฒนา รองประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท นิวซิตี้ (กรุงเทพฯ) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายถุงน่อง ถุงเท้า และสินค้าแฟชั่น กล่าวว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาบริษัทเติบโตค่อนข้างสูง  เนื่องจากมีสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาด  ซึ่งสินค้าใหม่มีอัตราการเติบโต 30-40%  แต่ประสบภาวะตลาดชะลอตัวช่วงปลายปี  ส่วนในปีนี้ได้วางกลยุทธ์เพื่อผลักดันการเติบโตด้วยการขยายช่องทางการขายหลากหลาย  ทั้งกลุ่มยี่ปั๊วซาปั๊ว  ช่องทางค้าปลีก และอีคอมเมิร์ซ   แต่อาจจะต้องมาดูว่าช่องทางไหนจะเติบโตได้ดี  สำหรับช่องทางออนไลน์ปัจจุบันยังยังไม่ส่งผลชัดเจน  แต่มีแนวโน้มที่ดีจากเทรด์ผู้บริโภคที่ใช้สมาร์ทโฟนจำนวนมาก

“ปัจจุบันภาวะการแข่งขันมีสูง  ธุรกิจถุงน่องก็เป็นวัฎจักร  การขยายมีขึ้นมีลง  ทำให้บริษัทปรับตัวเองเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้ามากขึ้น  การรับเป็นดิสทริบิวเตอร์ มีการนำสินค้าเกาหลีเข้ามาขาย  สินค้าจากเมียนมา  แบรนด์บีลีฟ ทานาคา  ที่มีตัวเลขยังเติบโตได้ดี มีสัดส่วน 30% ของยอดขายที่ขายมา 3 ปีแล้ว  อย่างไรก็ตาม ในช่วง 5 บริษัทยังคงเติบโตในอัตราเลขตัวเดียว  ยกเว้นว่าจะมีสินค้าใหม่ที่มีอัตราการเติบโต 30-40% มาช่วยผลักดันยอดขาย”