ก่อสร้างเหนือคึก รับนักลงทุนจีนบุก

15 ก.ค. 2560 | 08:43 น.
รับเหมาเชียงใหม่คึกปรับตัวรับเมกะโปรเจ็กต์และทุนจีน บมจ.เชียงใหม่ริมดอย(CRD) เปิดโพยงานรับเหมาก่อสร้าง คาดโกยงานสิ้นปีได้อีกราว 600 ล้าน ชี้ความต้องการลงทุนอสังหาริมทรัพย์จากชาวจีนยังมีอีกเพียบ

นายธีรพัฒน์ จิรพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชียงใหม่ริมดอย จำกัด(มหาชน) หรือ CRD ผู้ประกอบกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างทั่วไปประเภทต่างๆ และการรับเหมาก่อสร้างงานระบบสาธารณูปโภค ในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือ เปิดเผยว่า สถานการณ์รับเหมาก่อสร้างในจังหวัดเชียงใหม่ปัจจุบันแนวโน้มยังคงมีการเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งน่าจะมาจากความคาดการณ์ในเรื่องของโครงการเมกะโปรเจกต์ที่กำลังจะเกิดในอนาคตเป็นแรงผลักดัน ไม่ว่าจะเป็น โครงการขยายสนามบินเชียงใหม่เพื่อรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยว โครงการรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ โครงการมอเตอร์เวย์ เชื่อมเชียงใหม่-เชียงราย และโครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดบริเวณสามแยกแม่โจ้ (เทพปัญญา) ขนาด 6 ช่องจราจร เป็นต้น

นอกจากนั้นปัจจุบันยังพบอีกว่ามีนักลงทุนชาวจีนเดินทางเข้ามาทำธุรกิจในพื้นที่เชียงใหม่มากขึ้น แน่นอนว่ามีความต้องการที่อยู่อาศัยตามมา ดังนั้นปัจจัยดังกล่าวจึงส่งผลให้บริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ เข้ามาพัฒนาที่ดินอย่างต่อเนื่อง ทั้งการก่อสร้างโรงแรม อาคารที่อยู่อาศัย บ้านจัดสรร ห้างสรรพสินค้า อาคารจอดรถ โดยพบว่าทุนจีนเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนในประเทศไทย ส่งผลให้ราคาที่ดินในเชียงใหม่ปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย

ปัจจุบันบมจ.เชียงใหม่ริมดอยหรือ CRD มีรายได้หลักจากการก่อสร้างงานอาคารและสิ่งปลูกสร้างทั่วไปในสัดส่วน80-90% มีมูลค่างานที่อยู่ระหว่างการดำเนินงานประมาณ 907 ล้านบาท โดยเป็นงานภาครัฐและเอกชน ในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดอื่นๆ ด้วยรูปแบบที่หลากหลาย

“บมจ.เชียงใหม่ริมดอยมีปริมาณงานในมือนับ 10 โครงการ โดยมีจุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญในพื้นที่เขตภาคเหนือ ด้วยการดำเนินงานกว่า 27 ปีทำให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า อีกทั้งเป็นผู้รับเหมาขนาดกลางที่มีศักยภาพดำเนินการก่อสร้างที่หลากหลายสามารถรับงานมูลค่าตั้งแต่ 20-1,000 ล้านบาท ล่าสุดยังมีการเจรจากับเอกชนในพื้นที่เชียงใหม่อีก 3-4 ราย อีกทั้งยังมีงานภาครัฐที่อยู่ระหว่างการซื้อแบบรายละเอียดแล้วอีกราว2,000 ล้านบาท และปลายปีนี้ยังมีลุ้นงานบำบัดนํ้าเสียเพิ่มเติมเข้ามาอีกราว 600 ล้านบาทจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่พะเยา และพิษณุโลก”