ยอดรีเจกต์พุ่ง 80% คอนโดฯต่ำล้านน่าห่วง-แนะพรีแอพพรูฟก่อนจอง

05 ก.ค. 2560 | 01:50 น.
ดีเวลอปเปอร์ เผยห่วงตลาดคอนโดฯ ตํ่าล้าน พบบางโครงการยอดรีเจ็กต์พุ่ง 70-80% เหตุไร้การตรวจสอบก่อนจอง-สินค้าไม่ได้อยู่ในทำเลที่ตอบโจทย์ พฤกษาอ่านเกมออกเบนเข็มจับตลาด 3 ล้านขึ้น ชี้สต๊อกเหลือขายไม่กี่พันหน่วย

จากการคาดการณ์ของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ มองว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น แต่เมื่อมาแยกพิจารณาในแต่ละเซ็กเม้นท์ พบว่า ตลาดคอนโดมิเนียมระดับล่าง ราคาขายต่ำกว่า 1 ล้านบาทหรือราคาล้านต้นๆ ยังอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีปัญหาหนี้สินภาครัวเรือนสูง นำไปสู่การปฏิเสธสินเชื่อ (รีเจ็กต์) ของสถาบันการเงิน

นายแสนผิน สุขขี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ (GOLD) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ช่วงครึ่งหลังปี 2560 ว่า คาดว่ายอดขายน่าจะลดลง โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมระดับราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทหรือราคาล้านต้นๆ ในทำเลชานเมือง ทั้งที่มีรถไฟฟ้าเปิดให้บริการและมีแผนจะพัฒนาในอนาคต ซึ่งปจจุบันยอดปฎิเสธสินเชื่อของลูกค้ากลุ่มนี้เพิ่มสูงขึ้นเป็น 70-80% แล้ว ขณะที่สินค้าในกลุ่มแนวราบระดับราคามากกว่า 20 ล้านบาท ก็อยู่ในภาวะชะลอตัวเช่นเดียวกัน เนื่องจากผู้บริโภคในกลุ่มนี้ไม่อยากใช้เงิน ประกอบกับกำลังซื้อส่วนหนึ่งได้ถูกดูดซับไปก่อนหน้านี้แล้ว อีกทั้งยังเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนน้อย

นายธำรงค์ ปัญญาสกุลวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์และที่ปรึกษาสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่คอนโดมิเนียมในกลุ่มนี้จะมียอดรีเจ็กต์และสต๊อกเหลือขายจำนวนมาก เนื่องจากนับตั้งแต่ปี 2548-ปัจจุบัน มีผู้ประกอบการพัฒนาโครงการในระดับราคานี้เข้าสู่ตลาดสูงถึง 7-8 แสนหน่วย ขณะที่ผู้บริโภคในกลุ่มนี้มีรายได้และรายจ่ายไม่สมดุลกัน และเมื่อเศรษฐกิจชะลอตัวก็จะกระทบกับผู้บริโภคกลุ่มนี้โดยตรง ส่งผลให้ยอดรีเจ็กต์เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายกลาง-เล็กที่พัฒนาโครงการราคาต่ำกว่า 4 ล้านบาทต่างประสบปัญหาเรื่องยอดปฏิเสธสินเชื่อ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมระดับราคา 1-2 ล้านบาทในซอย ที่คาดว่าจะมียอดปฏิเสธสินเชื่อสูงถึง 70-80% เนื่องจากตลาดในกลุ่มนี้เปิดการอิ่มตัวจากจำนวนโครงการที่เปิดอย่างต่อเนื่องและหนี้สินภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น

ด้าน นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ยอดรีเจ็กต์ที่สูงถึง 80% ในกลุ่มคอนโดฯระดับล่าง จะเกิดขึ้นกับโครงการที่พัฒนาสินค้าในทำเลที่ไม่มีศักยภาพและไม่มีการพรีแอฟพรูฟลูกค้าก่อนทำการจอง ทำให้เกิดยอดรีเจ็กต์ที่สูง ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงควรทำการพรีแอฟพรูฟลูกค้าก่อนทุกครั้ง เพื่อลดอัตราการถูกปฏิเสธสินเชื่อ ในส่วนของบริษัทเองก็ใช้วิธีการนี้เช่นกัน ส่งผลให้ยอดรีเจ็กต์จากสถาบันการเงินในปัจจุบันลดลงเหลือเพียง 6% เท่านั้น

MP33-3275-A ประกอบกับบริษัทมีการปรับแผนการดำเนินธุรกิจใหม่ โดยหันมามุ่งเน้นที่ตลาดกลาง-บน ระดับมากกว่า 3 ล้านบาทแทน เพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาหนี้สินภาครัวเรือน ปัจจุบันบริษัทมีสินค้าในระดับล่างคือ แบรนด์ พลัมคอนโด ราคาขาย 1-2 ล้านบาทต่อหน่วย โดยโครงการส่วนใหญ่มีทั้งที่โอนกรรมสิทธิ์หมดแล้วและอยู่ระหว่างการโอนกรรมสิทธิ์

ซึ่งในปัจจุบันโครงการที่อยู่ระหว่างการโอนกรรมสิทธิ์คือ โครงการพลัมคอนโด แจ้งวัฒนะ เฟส 1 ที่โอนแล้ว 800 ล้านบาท จากมูลค่ารวม 1,000 ล้านบาท ในส่วนของเฟส 2 ก็มียอดขายแล้วกว่า 90% และเมื่อต้นปีได้มีการเปิดขายเฟส 3 ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 40%

สำหรับโครงการที่มีความล่าช้าในการโอนและขายคือ โครงการพลัม คอนโด พหลโยธิน 89 โซนรังสิต-ปทุมธานีที่มีหน่วยเหลือขายประมาณ 2,000 หน่วย จากทั้งหมดกว่า 500 หน่วย และโครงการพลัมคอนโด สามัคคี ซึ่งทั้ง 2 โครงการเป็นโครงการพร้อมอยู่

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,275 วันที่ 2 - 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2560