ปตท.ซื้อหุ้น LNG ปิโตรนาส ร่วมเป็นเจ้าของแหล่ง 10-20% ป้อนใช้ในประเทศ

ปตท.ส่งบริษัทลูกเข้าซื้อหุ้น 10-20% แหล่งก๊าซแอลเอ็นจี ของปิโตรนาส คาดลงนามได้ 1-2 เดือนนี้ หลังได้สัญญาซื้อขายแอลเอ็นจี 1.2 ล้านตันต่อปี ส่งมอบล็อตแรกก.ค.นี้ ยันมีความพร้อมด้านเงินลงทุน เล็งกว้านซื้อเพิ่ม หากผลตอบแทนดี

จากความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติที่เติบโตต่อเนื่อง โดยปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 5 พันล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ส่งผลให้การจัดหาภายในประเทศไม่เพียงพอใช้ ทำให้ต้องนำเข้าจากเมียนมา 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และการนำเข้าในรูปก๊าซธรรมชาติเหลวหรือแอลเอ็นจีจากการ์ตา ที่มีสัญญาระยะยาว 2 ล้านตันต่อปี จากเชลล์ 1 ล้านตัน บีพี 1 ล้านตัน และปิโตรนาส 1.2 ล้านตัน รวม 5.2 ล้านตันต่อปีหรือประมาณ 750 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน รวมทั้งรับซื้อจากตลาดจร(สปอต)เพิ่มขึ้นด้วยในบางเวลา

ด้วยปริมาณความต้องการก๊าซฯที่เพิ่มขึ้นนี้เอง ทำให้บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) มีความจำเป็นต้องจัดหาก๊าซแอลเอ็นจีเข้ามาเสริมอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ได้เปิดให้บุคคลที่ 3 สามารถนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจีเข้ามาได้ นอกเหนือจากปตท.ซึ่งจะทำให้เกิดการแข่งขันกันมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่สามารถบริหารต้นทุนค่าขนส่งได้มากกกว่าก็จะมีความได้เปรียบ

โดยล่าสุดทางปตท.ได้ร่วมทุนบริษัท ปตท.สผ.ศูนย์บริหารธุรกิจ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. จัดตั้งบริษัท พีทีที โกลบอล แอลเอ็นจี จำกัด (ถือหุ้นฝ่ายละ 50%) ดำเนินธุรกิจก๊าซแอลเอ็นจี และในช่วงเดือน...จะเข้าไปซื้อหุ้นในแหล่งแอลเอ็นจี ของบริษัท ปิโตรนาส ของมาเลเซีย ในสัดส่วนราว 10-20 % เพื่อเป็นเจ้าของแหล่งแอลเอ็นจีส่วนหนึ่งที่จะป้อนก๊าซให้กับไทย

นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า การจัดตั้งบริษัท พีทีที โกลบอล แอลเอ็นจี จะส่งผลให้กลุ่ม ปตท.มีการดำเนินธุรกิจแอลเอ็นจีแบบครบวงจร จากปัจจุบัน ปตท.สผ.ดำเนินธุรกิจต้นน้ำในแหล่งปิโตรเลียมเพื่อผลิตแอลเอ็นจี ขณะที่ ปตท.ดำเนินธุรกิจช่วงปลายน้ำ ในการนำแอลเอ็นจีไปใช้ประโยชน์

[caption id="attachment_141115" align="aligncenter" width="503"] ‘ปิโตรนาส’ขายหุ้นบ่อก๊าซ[/caption]

โดยการดำเนินธุรกิจของบริษัท พีทีที โกลบอล แอลเอ็นจีฯ จะมองถึงการเข้าไปร่วมทุนหรือลงทุนในแหล่งก๊าซแอลเอ็นจี อาทิโครงการโรวูม่า ออฟชอร์ แอเรีย วัน ในประเทศสาธารณรัฐโมซัมบิก และโครงการแคชเมเปิล ประเทศออสเตรเลีย รวมทั้งแหล่งแอลเอ็นจีอื่นๆ นอกเหนือจากที่กลุ่มปตท.ดำเนินการ ด้วย

ขณะที่การพิจารณาร่วมทุนคงไม่จำกัดขนาดแหล่งแอลเอ็นจีมากนัก เนื่องจาก ปตท.และ ปตท.สผ. มีความพร้อมเรื่องเงินลงทุน แต่จะร่วมทุนในโครงการต่างๆอย่างไรให้ได้ประโยชน์ จากการขยายลงทุนในธุรกิจแอลเอ็นจีอย่างต่อเนื่อง
โดยบริษัท พีทีที โกลบอล แอลเอ็นจี อยู่ระหว่างการเจรจาร่วมลงทุนในแหล่งแอลเอ็นจีในภูมิภาคนี้ที่เป็นแหล่งเปิดดำเนินการผลิตอยู่แล้ว โดยเบื้องต้นมีแผนร่วมทุนในสัดส่วน 10-20% และในช่วง 1-2 เดือนข้าหน้านี้ คาดว่าจะลงนามในสัญญาได้

แหล่งข่าวจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มปตท.จะเข้าไปซื้อหุ้นในแหล่งแอลเอ็นจี บริษัท ปิโตรนาส ของมาเลเซีย หลังจากที่ได้มีการเจรจากันมาร่วม 2 ปี จากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการหลัง ลงนามสัญญาการซื้อก๊าซแอลเอ็นจีจากปิโตรนาสแล้วที่ 1.2 ล้านตันต่อปี โดยล็อดแรกที่จะนำเข้ามาในเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อรองรับความต้องการแอลเอ็นจีเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต ซึ่งตอนนี้ราคาแอลเอ็นจีอยู่ในช่วงขาลง เป็นตลาดของผู้ซื้อ

"ปัจจุบันคลังก๊าซแอลเอ็นจีที่มาบตาพุดเฟสแรกได้ขยายจาก 5 ล้านตันต่อปี เป็น 10 ล้านต่อปี ซึ่งก่อสร้างเสร็จแล้ว และจะกำลังอยู่ระหว่างขยายเพิ่มอีก 1.5 ล้านตันต่อปี จะแล้วเสร็จในปี 2562 ขณะที่คลังแอลเอ็นจีแห่งที่ 2 อีก 7.5 ล้านตันต่อปี จะแล้วเสร็จในปี 2565"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,275 วันที่ 2 - 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2560