เฮ !ระเบียบว่าด้วยการขอรับเงินสมทบที่นำส่งไว้เกิน มีผลใช้บังคับแล้ว

29 มิ.ย. 2560 | 11:38 น.
เฮ ! ระเบียบว่าด้วยการขอรับเงินสมทบที่นำส่งไว้เกิน มีผลใช้บังคับแล้ว นายจ้าง ผู้ประกันตน สามารถขอเงินคืนได้สะดวกรวดเร็ว

กระทรวงแรงงาน สำนักงานประกันสังคม เผย ระเบียบสำนักงานประกันสังคม ว่าด้วยการ ขอรับเงินสมทบที่นำส่งไว้เกินจำนวนที่ต้องชำระคืน พ.ศ.2560 ประกาศในพระราชกิจจานุเบกษาแล้ว มีผลใช้บังคับ 29 มิ.ย.60 แจง การคืนเงินสมทบให้นายจ้าง ผู้ประกันตน จะเป็นไปด้วยความรวดเร็ว คล่องตัว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

[caption id="attachment_171807" align="aligncenter" width="467"] นายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม นายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม[/caption]

นายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีระเบียบสำนักงานประกันสังคม ว่าด้วยการขอรับเงินสมทบที่นำส่งไว้เกินจำนวนที่ต้องชำระคืน พ.ศ.2560 ประกาศในพระราชกิจจานุเบกษาแล้ว มีผลใช้บังคับ 29 มิ.ย.60 ซึ่งมีสาระสำคัญ ให้นายจ้าง ผู้ประกันตน ที่นำส่งเงินสมทบให้แก่สำนักงานประกันสังคมเกินจำนวนที่ต้องชำระ สามารถยื่นคำร้องขอรับเงินคืนเป็นหนังสือต่อสำนักงานประกันสังคมได้ทุกแห่งที่สะดวกในการติดต่อ โดยการยื่นคำร้องขอรับเงินคืนต้องมีรายการสำคัญและหลักฐานประกอบยื่น ดังนี้

- กรณีนายจ้างเป็นผู้ยื่นคำร้องขอคืนเงินสมทบ ต้องระบุชื่อ ที่อยู่และเลขที่บัญชีทะเบียนนายจ้าง เหตุผลในการขอรับเงินคืนและหลักฐานประกอบ (ถ้ามี) กรณีมีกิจการหลายสาขา ให้ระบุสาขาที่ขอรับเงินคืน ทั้งนี้ ให้ลงลายมือชื่อผู้ยื่นคำร้องและวันที่ยื่นคำร้องกำกับในแบบคำร้อง

- กรณีผู้ประกันตน เป็นผู้ยื่นคำร้องขอคืนเงินสมทบ ผู้ประกันตนต้องระบุชื่อ ที่อยู่และ เลขประจำตัวประชาชน (กรณีคนต่างด้าว ให้ใช้เลขบัตรประกันสังคม) ทั้งนี้ให้ลงลายมือชื่อ ผู้ยื่นคำร้อง วันที่ยื่นคำร้องกำกับในแบบคำร้อง

สำหรับการขอรับเงินคืนของผู้ประกันตน สำนักงานประกันสังคมได้จัดทำหนังสือส่งถึงผู้ประกันตน และแจ้งให้ทราบจำนวนเงินสมทบที่ชำระไว้เกินโดยผู้ประกันตนที่ต้องการรับเงินส่วนเกินคืน สามารถกรอกข้อความ และลงนามในคำขอรับเงินคืนพร้อมแนบหลักฐาน รายละเอียดเงินสมทบส่วนที่เกิน สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์ (ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารทหารไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารธนชาต ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย) และนำส่งทางไปรษณีย์ถึงสำนักงานประกันสังคม ภายในเวลาที่ระบุไว้ในคำขอรับเงินคืนตามที่อยู่ซึ่งแจ้งในหนังสือ และให้วงเล็บมุมซองว่า “ขอคืนเงินสมทบ”

ทั้งนี้ในการคืนเงินสมทบให้แก่นายจ้างหรือผู้ประกันตน สำนักงานประกันสังคมจะคืนเงินโดยวิธีผ่านธนาคารที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด ที่สำคัญในการขอรับเงินสมทบส่วนที่เกินคืนจากสำนักงานประกันสังคม ต้องยื่นขอรับเงินคืนภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ นำส่งเงินสมทบ

เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวในตอนท้ายว่า ระเบียบสำนักงานประกันสังคม ว่าด้วยการขอรับเงินสมทบที่นำส่งไว้เกินจำนวนที่ต้องชำระคืน พ.ศ. 2560 ที่ประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา และ มีผลใช้บังคับ 29 มิ.ย.60 ในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล และสอดคล้องกับนโยบาย กระทรวงแรงงาน ในการเพิ่มศักยภาพด้านการให้บริการที่เป็นเลิศ และงานบริการภาครัฐ ในรูปแบบใหม่ๆ โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งกระทรวงแรงงาน สำนักงานประกันสังคม ได้ให้ความสำคัญกับการให้บริการแก่ นายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน และประชาชนทั่วไป ซึ่งจะทำให้การคืนเงินสมทบเป็นไปด้วยความรวดเร็วคล่องตัว อันจะเป็นประโยชน์ต่อนายจ้าง ลูกจ้าง และผู้ประกันตนมากยิ่งขึ้น ให้ได้รับการบริการอย่างที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตนมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/จังหวัด/สาขาที่ท่านสะดวก หรือโทร.1506 ในวันและเวลาราชการ