“ปู” วืด! ศาลยกคำร้อง “ตรวจข้าวในโรงสี”

29 มิ.ย. 2560 | 09:07 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

วันที่ 29 มิ.ย.60 ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถนนแจ้งวัฒนะว่า นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวนคดีจำนำข้าวคดีหมายเลขดำ อม.22/2558 พร้อมองค์คณะรวม 9 คน ได้ไต่สวนพยานจำเลยนัดที่ 13 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท

ยิ่งลักษณ์1 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการไต่สวน ทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลเดินเผชิญสืบพยานหลักฐาน (การลงพื้นที่สืบพยานเกี่ยวกับสภาพสถานที่) โรงสีข้าวและคลังข้าว จ.อ่างทอง 16 แห่ง เนื่องจากต้องการพิสูจน์ว่าข้าวที่เก็บอยู่ในโกดังในโครงการรับจำนำข้าว มีวิธีการและหลักเกณฑ์ที่ถูกต้องหรือไม่ ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์เคยขอยื่นให้มีการเดินเผชิญสืบในชั้น ป.ป.ช.  3 ครั้ง แต่ ป.ป.ช.ไม่อนุญาต จึงมาขออนุญาตศาล

การไต่สวนพยานวันนี้ เมื่อถึงเวลานัด ทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้นำพยานให้ศาลไต่สวนรวม 3 ปาก ประกอบด้วย นายอดุลย์ ยุววิทยาพานิชย์ ที่ปรึกษารองประธานกรรมการองค์การคลังสินค้าด้านกฎหมายและเป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการจีทูจี ,น.ส.นิรัชฌา ไกยสวน บุตรสาวของชาวนาที่เสียชีวิตจากการผูกคอตายที่จ.ร้อยเอ็ด กับนายบุญช่วย หอมพญา บิดาของชาวนาที่เสียชีวิตจากการตายผูกคอตาย ที่ จ. นนทบุรี ที่จะยืนยันว่าเสียชีวิตจากปัญหาส่วนตัว

ยิ่งลักษณ์2 โดยนายอดุลย์ เบิกความสรุปว่า หน้าที่ในการตรวจสอบจีทูจี เป็นของกรมการค้าต่างประเทศ รัฐวิสาหกิจถือเป็นตัวแทนของรัฐบาลจีนอยู่แล้ว ดังนั้นรัฐบาลจีนไม่ต้องทำหนังสือมอบอำนาจในโครงการจีทูจี ซึ่งคณะกรรมการของตนมีหน้าที่ตรวจสอบตามคำสั่ง 2 ประเด็น คือการเปรียบเทียบยุทธศาสตร์การระบายข้าว 3 ปีย้อนหลัง และสัญญาระบายข้าว 4 ฉบับ ที่ไทยทำกับจีน ดูว่ารัฐวิสาหกิจจีนทำอะไรบ้าง ซึ่งสัญญาทั้ง 4 ฉบับก็ทำถูกต้องแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อัยการโจทก์ ยังได้ซักถามถึงการตรวจสอบนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง ผู้เกี่ยวข้องกับโครงการจีทูจี นายอดุลย์ ชี้แจงว่า ได้มีการติดต่อกับเลขานุการของนายอภิชาติเพื่อให้นายอภิชาติเข้ามาให้ข้อมูล แต่ได้รับการปฏิเสธโดยระบุว่านายอภิชาติไม่อยู่ในประเทศไทย และไม่ได้มีการตรวจสอบเอกสาร เพราะบริษัทสยามอินดิก้าไม่ใช่คู่สัญญา

ยิ่งลักษณ์4 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าอัยการโจทก์ ถามว่าเหตุใดไม่เรียก นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก  พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งอภิปรายเรื่องจีทูจีเข้ามาให้ข้อมูล นายอดุลย์ ระบุว่า คณะกรรมการได้ติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ไปแล้ว แต่ นพ.วรงค์ ไม่ประสงค์จะมา ซึ่งเลขานุการที่รับสาย ระบุว่าให้นำหลักฐานที่อภิปรายในสภาอยู่แล้วนำไปประกอบได้

ส่วนเหตุที่ไม่ได้สอบนายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กรณีที่นายมนัสระบุว่ามีการทุจริต นายอดุลย์ ชี้แจงว่า เนื่องจากนายมนัส เกษียณแล้วจึงมีการสอบนางปราณี ศิริพันธ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศขณะนั้น และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแทน โดยนายทิฆัมพร นาทวรทัต รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศขณะนั้นได้ยืนยันว่าบริษัท GSSG เป็นหน่วยงานกลางรัฐบาลจีนจริง ส่วนเรื่องการทุจริตนั้น การปฏิบัติงานในโครงการรับจำนำข้าวมีหลายขั้นตอน คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงไม่ได้ดูการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่

"เราทำตามคำสั่ง 2 ประเด็น การทุจริตเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ระดับล่าง ไม่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง"

ยิ่งลักษณ์5 ขณะที่พยานจำเลยอีก 2 ปาก คือนายบุญช่วย  บิดาของนายสมชาย หอมพญา ชาวนาที่เสียชีวิต ก็ได้เบิกความยืนยันว่า บุตรชายของตนไม่ได้ฆ่าตัวตายเพราะการรับเงินช้าในโครงการรับจำนำข้าว แต่มาจากการขายข้าวไม่ได้ราคาเหมือนช่วงที่มีโครงการรับจำนำข้าว และ น.ส.นิรัชฌา ไกยสวน บุตรสาวของนายทองมา ชาวนาที่เสียชีวิตอีก1ราย เบิกความว่า ตนไม่ได้อาศัยอยู่กับบิดา-มารดา แต่คุยกับบิดาทางโทรศัพท์เป็นประจำ ซึ่งบิดาบอกในช่วงปี 2556 ว่าเป็นช่วงที่ผลผลิตดี บิดาได้ข้าวประมาณ 9-10 ตันขายได้ราคา 18,000 บาท หลังหักความชื้นและสิ่งเจือปนแล้ว และได้รับเงินจากโครงการครบตามกำหนดไม่ล่าช้า จึงยืนยันว่าบิดาของตนไม่ได้ฆ่าตัวตายเพราะรับเงินจำนำข้าวล่าช้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากศาลไต่สวนพยานจำเลยทั้ง 3 ปากเสร็จสิ้นแล้ว ศาลได้นัดไต่สวนพยานจำเลยครั้งต่อไปในวันที่ 7 ก.ค.นี้ เวลา 09.30 น.

ส่วนกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยื่นคำร้องขอให้ศาลเดินเผชิญสืบโรงสี จ.อ่างทองนั้น โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ข้าวเป็นธัญพืชชนิดหนึ่งที่เสื่อมได้ตามกาลเวลา ซึ่งขณะนี้ผ่านมาเป็นเวลา 2 ปีเศษแล้ว เป็นปัญหาข้อเท็จจริง การเดินเผชิญสืบไม่จำเป็นแก่คดี จึงให้ยกคำขอของ น.ส.ยิ่งลักษณ์