จี้ล้มกองทุน สอนเชิง 'ก.ล.ต.' ปั้นตลาดหุ้น!

28 มิ.ย. 2560 | 08:39 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

บอร์ดตลาดหลักทรัพย์นัดประชุม หาทางออกเรื่องการจัดตั้งกองทุนพัฒนาตลาดทุน ก่อนหารือร่วมกับบอร์ดก.ล.ต. สัปดาห์หน้า

นายปริญญ์ พานิชภักดิ์  กรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ซี แอล เอส เอ (ประเทศไทย) จำกัด  เปิดเผยว่า ในวันที่ 28 มิถุนายน 2560 คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการประชุม เพื่อพิจารณาเรื่องการแก้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อรองรับการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน  (CMDF) แต่ยังไม่ทราบว่าจะได้ข้อยุติหรือไม่ เนื่องจากจะต้องรอฟังความคิดเห็นของกรรมการแต่ละคนก่อน และจะนำผลการหารือไปประชุมร่วมกับคณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ในสัปดาห์หน้า

จี้ล้มกองทุน สอนเชิง \'ก.ล.ต.\' ปั้นตลาดหุ้น!


นายปริญญ์ กล่าวว่า  ส่วนตัวมีความคิดเห็นว่าควรจะถอนเรื่องการจัดตั้งกองทุนฯออกไปจากการแก้ไขพรบ.หลักทรัพย์  เพราะไม่มีคนสนับสนุน หรือเห็นด้วยกับเรื่องนี้ เนื่องจากการพัฒนาตลาดทุน ในส่วนของก.ล.ต.สามารถดำเนินการได้ โดยไม่ต้องใช้เงินจากตลาดหลักทรัพย์จำนวนมาก   อาทิ การรีบดำเนินคดีกับคนปั่นหุ้น การปรับปรุงกฎเกณฑ์ให้เหมาะสม เพื่อเปิดโอกาสให้ตลาดทุนเติบโตและแข่งขันเสรีได้  เช่น  กฎหมายของ ก.ล.ต.เรื่องฟินเทคที่ให้ต่างชาติถือตํ่ากว่า 50% ขณะนี้แก้ได้หรือยัง เพราะไม่มีใครเข้ามาลงทุน ขณะที่ประเทศไทยต้องการเงินลงทุนและเทคโนโลยีจากต่างประเทศ

สำหรับการให้ใช้เงินของตลาดหลักทรัพย์ จำนวน 8,000 ล้านบาท ไปตั้งกองทุน ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะเอาไปทำอะไร ไม่มีแผนการใช้เงินที่ชัดเจน หากต้องการนำไปช่วยสตาร์อัพ หรือเอสเอ็มอี ก็ไม่ควรใช้เงินจากตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะปัจจุบันเงินช่วยเหลือธุรกิจมีการสนับสนุนอยู่แล้วที่ธนาคารออมสินและธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศ ไทย (ธพว.)

จี้ล้มกองทุน สอนเชิง \'ก.ล.ต.\' ปั้นตลาดหุ้น!


 “ตลาดฯ มีเงินเหลือเก็บ 25,000 ล้านบาท และใช้จ่ายเงินปีละกว่า 200 ล้านบาท หากต้องการให้ใช้มากกว่านี้ก็ทำได้ หากภาครัฐมีโจทย์และมาพูดคุยว่าต้องการให้ทำอะไรบ้าง  ถ้าต้องการพัฒนาตลาดทุนจริงๆ ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเอกชน ตลาดหลักทรัพย์ฯ คณะกรรมการฯ และเอกชนเป็นผู้ดูแลกองทุนนี้ และพัฒนาให้มีประสิทธิภาพที่ดี รวมถึงความคล่องตัวในการเบิกจ่าย ขณะเดียวกันกองทุนต่างๆ ทั่วโลกเมื่อได้ยินเรื่องนี้ต่างก็มีความกังวล และอยากขายหุ้นในประเทศ ไทยทิ้ง ถอนเงินจากประเทศไทย เพราะเป็นการแทรงแซงจากภาครัฐโดยที่ไม่ควรจะแทรกแซง กฎเกณฑ์ก.ล.ต.ควรมีไว้เพื่อพัฒนาตลาดทุนมากกว่าที่มีไว้แค่การลงโทษ” นายปริญญ์กล่าว

ปัจจุบัน ตลาดหลักทรัพย์ฯ จำเป็นต้องมีเงินสำรองไว้ เพราะการแข่งขันด้านเทคโนโลยี และด้านไอที รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในยุคของนายจรัมพร โชติกเสถียร ใช้เงินเพื่อไปพัฒนาระบบไอทีจำนวนมาก ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีวันนี้ได้ รองรับโปรแกรมเทรดจากต่างชาติหลายพันล้านบาทได้ต่อวัน รวมถึงทำสิ่งต่างๆ ให้แข่งขันกับต่างชาติได้อีกหลายเรื่อง และในอนาคตความคล่องตัวในระบบไอทีต่างๆ ก็จำเป็น

จี้ล้มกองทุน สอนเชิง \'ก.ล.ต.\' ปั้นตลาดหุ้น!




อย่างไรก็ตามหากจะจัดตั้งกองทุน CMDF ต้องไม่มีการบังคับว่าต้องส่งกำไรเข้ากองทุนปีละกี่เปอร์เซ็นต์ การเฮียริ่งของสำนักงานก.ล.ต. ก็ควรเปิดกว้าง ควรจัดการประชุมให้ประชาชนมีสิทธิออกเสียงด้วย ไม่ควรจำกัดเฉพาะคนในวงการตลาดทุน ส่วนคณะกรรมการกองทุน ก็ควรแต่งตั้งกรรมการที่ให้เอกชนมีเสียงข้างมาก เช่น ถ้ากรรมการมี 11 คน ควรให้มีเอกชนเกิน 6-7 คนขึ้นไป และต้องเป็นคนที่รู้และปฏิบัติจริง ไม่ใช่การแต่งตั้งผู้มีคุณวุฒิ โดยคณะกรรมการก.ล.ต.  เหมือนที่ระบุไว้ในร่างการแก้ไขพ.ร.บ.หลักทรัพย์

นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ กรรมการ ตลท.ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศ ไทย)ฯ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์จำเป็นจะต้องมีเงินเพียงพอสำหรับการดำเนินธุรกิจ ส่วนการที่จะให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ นำส่งกำไร 90% เข้ากองทุนไม่ควรระบุจำนวน 90% ในกฎหมาย และไม่ควรเกิน 50% ก่อนในช่วงแรก

จี้ล้มกองทุน สอนเชิง \'ก.ล.ต.\' ปั้นตลาดหุ้น!
แหล่งข่าวจากตลาดทุน กล่าวว่า การส่งมอบกำไรเกือบทั้งหมดเข้ากองทุน ทำให้การทำงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ คล้ายกับรัฐวิสาหกิจที่จะต้องการเงินลงทุนเท่าไร ต้องไปขอจากกองทุน ทำให้ไม่คล่องตัว  ก.ล.ต. และกระทวงการคลังควรจะดูตัวอย่างความล้มเหลวการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ และก.ล.ต.ควรปรับปรุงการทำงานใหม่ เช่น ไม่ควรทำการตลาด หาสินค้า ซํ้าซ้อนกับตลาดหลักทรัพย์