เคลียร์บัญชี-ตามคดีข้าว คืนชีวิตให้ชาวนา

28 มิ.ย. 2560 | 08:23 น.
"เคลียร์บัญชี-ตามคดีข้าว คืนชีวิตให้ชาวนา" จากบทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ 'ฐานเศรษฐกิจ' ฉบับวันที่ 29 มิ.ย. - 1 ก.ค. 2560

รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้ระยะ 3 ปีในการระบายข้าวจากโครงการรับจำนำกว่า 17 ล้านตันออกไปจนหมดสต๊อก โดยเปิดประมูลครั้งแรก เมื่อเดือนส.ค. 2557 หลังจากนั้นเปิดประมูลในช่วงเวลาที่เหมาะสมอีกกว่า 10 ครั้ง ปริมาณที่ระบายออกไป13.94 ล้านตัน ล่าสุดเปิดประมูล เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2560 เป็นข้าวที่ไม่สามารรถบริโภคได้ประมูลขายเข้าภาคอุตสาหกรรมอีก 2.2 ล้านตัน รวมทั้งหมด 16.14 ล้านตัน เหลือปริมาณข้าวในสต๊อกตามบัญชี อีกประมาณ 0.94 ล้านตัน เป็นปริมาณไม่มาก ไม่มีผลต่อการกดดันราคาข้าว

เคลียร์บัญชี-ตามคดีข้าว คืนชีวิตให้ชาวนา


การระบายข้าวออกจากสต๊อก เป็นการกอบกู้ตลาดข้าวไทยให้กลับฟื้นคืนสู่ภาวะปกติ คลายแรงกดดันจากสต๊อกข้าวที่แบกอยู่ อันจะมีผลกดราคาข้าวทั้งตลาดโลกและราคาภายในประเทศ เป็นเหตุให้ภาวะตลาดชะงักงัน โดยตลาดโลกรอจังหวะในการลงออเดอร์ข้าว เพราะหากส่งคำสั่งซื้อแล้ว รัฐบาลไทยขายสต๊อกผู้ซื้อจะเสียเปรียบราคา เมื่อคำสั่งซื้อชะลอผู้ส่งออกลดการสั่งซื้อจากโรงสี ทางโรงสีก็ชะลอซื้อข้าวจากชาวนา กระทบราคาเป็นลูกโซ่ทั้งวงจร การระบายข้าวออกไปจึงเป็นการหยุดยั้งวงจรความชั่วร้ายและยังเป็นการลดภาระการเก็บสต๊อก ที่รัฐบาลต้องสูญเสียงบประมาณจำนวนมหาศาลด้วย

ภายหลังจากการระบายข้าวรอบนี้เสร็จแล้ว รัฐบาลจะต้องแสดงบัญชีโครงการทันทีโดยไม่ชักช้า พร้อมกับเปิดเผยตัวเลขทั้งหมดของโครงการ ตั้งแต่ยอดเงินที่ใช้ไปในการรับจำนำ ยอดเงินที่ได้จากการขายข้าว ยอดเงินที่เป็นต้นทุนดำเนินการทั้งการเก็บรักษา ภาระดอกเบี้ยแยกแยะให้ชัดเจนในแต่ละรอบปี ให้เกิดความโปร่งใส ให้เป็นโมเดลของการใช้เงินในโครงการประชานิยมในลักษณะนี้ ที่หมดวาระโครงการลง ต้องแสดงบัญชีให้ทุกฝ่ายได้มีตรวจสอบ วิพากษ์ วิจารณ์และร่วมกันหาทางปิดจุดอ่อนการรั่วไหลของโครงการ ไม่ให้ตามมาหลอกหลอนคนไทยซ้ำ ๆ อีก

เคลียร์บัญชี-ตามคดีข้าว คืนชีวิตให้ชาวนา

นอกจากนั้นรัฐบาลโดยพล.อ.ประยุทธ์ ต้องเป็นผู้นำสั่งการ กำชับให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง หรือแสดงท่าที่ชัดเจนส่งสัญญาณไปถึงองค์กรอิสระให้ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความเสียหายให้กับงบประมาณแผ่นดินอย่างตรงไป ตรงมา โดยไม่ชักช้า ภายใต้หลักให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาและนำคดีทั้งหมด เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ที่ผ่านมามีเพียง 2 คดีเท่านั้นที่เกี่ยวกับเรื่องข้าวที่ไปถึงศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งยังมีหลายคดีที่ใช้เวลาไต่สวนอย่างยาวนาน โดยไม่มีความคืบหน้า เช่น คดีทุจริตข้าวถุง จึงต้องสร้างความกระจ่างให้เกิดขึ้น โดยไม่คำนึงถึงปัจจัยทางการเมือง และต้องทำให้ปราศจากข้อสงสัย ในทำนองผ่อนปรนให้กับผู้ที่ถูกกล่าวหา

รัฐบาลยังต้องฉวยจังหวะที่ระบายข้าวหมดสต๊อกแล้วนี้ วางแผนบริหารจัดการข้าวใหม่อย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการตลาด โดยวางเป้าหมายสำคัญในการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวในตลาดโลก ที่จะส่งผลสะท้อนถึงราคาตลาดภายในประเทศ ฟื้นฟู สร้างประสิทธิภาพ สร้างความเข้มแข็งกลับคืนมาให้ทุกภาคส่วนในวงจรผลิตข้าว  คืนชีวิตให้ชาวนาและผืนนาไทย