ครม.ไฟเขียวโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2560

27 มิ.ย. 2560 | 09:26 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้( (27 มิ.ย.60) มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลัง(กค.) เสนอ คือ

1.เห็นชอบการดำเนินโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2560 ซึ่งเป็นการดำเนินงานต่อเนื่องจากโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2559 ภายใต้วงเงินงบประมาณ จำนวน 1,841,100,000 บาท โดยใช้เงินงบประมาณคงเหลือในส่วนที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้เบิกจ่ายจากสำนักงบประมาณเพื่อดำเนินการโครงการฯ ในปีการผลิต 2559 จำนวน 203,944,675.34 บาท และเสนอของบประมาณเพิ่มเติมจำนวน 1,637,155,324.66 บาท

2.เห็นชอบให้ ธ.ก.ส. ทดรองจ่ายเงินอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยแทนรัฐบาลในส่วนของงบประมาณเพิ่มเติมจำนวน 1,637,155,324.66 บาท และเบิกเงินชดเชยตามจำนวนที่จ่ายจริงพร้อมด้วยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือน ประเภทบุคคลธรรมดาของ 4 ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ (FDR)บวก1% ในปีงบประมาณถัดไปให้กับ ธ.ก.ส. ทั้งนี้ หากสิ้นสุดระยะเวลาในการขายกรมธรรม์แล้วพบว่า มีจำนวนพื้นที่เอาประกันภัยมากกว่าพื้นที่เป้าหมายที่เสนอของบประมาณอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยจำนวน 30 ล้านไร่ กค. จะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบวงเงินงบประมาณเพิ่มเติม

3.มอบหมายให้ ธ.ก.ส. ดำเนินการขายกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2560 ให้ได้ตามเป้าหมายขั้นต่ำ จำนวน 25 ล้านไร่ โดยเกษตรกรผู้เอาประกันภัยสามารถเลือกใช้บริการพร้อมเพย์ (Promptpay) ในการรับ -โอนค่าเบี้ยประกันภัยและค่าสินไหมทดแทน พร้อมทั้งให้ ธ.ก.ส. บริหารจัดการความเสี่ยงในแต่ละพื้นที่ให้สอดคล้องกับหลักการประกันภัย โดยเฉพาะการเข้าร่วมโครงการฯ ของเกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่ไม่เหมาะสมตามการกำหนดเขตพื้นที่ปลูกข้าว (Zoning) ซึ่งประกาศโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) และร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัยไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการประชาสัมพันธ์โครงการฯ และให้ความรู้ด้านการประกันภัยแก่เกษตรกรและบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความตระหนักรู้ในความสำคัญของการประกันภัย

4.มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตร กษ. ประสานงานกับสมาคมฯ และ ธ.ก.ส. ดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลเอกสารทะเบียนเกษตรกร แบบประมวลรวบรวมความเสียหายและการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัย (แบบ กษ 02) และแบบรายงานข้อมูลความเสียหายจริงของเกษตรกรผู้เอาประกันภัยข้าว เพื่อรับค่าสินไหมทดแทน (แบบ กษ 02 เพื่อการรับประกันภัย) ตลอดจนดำเนินการเพื่อให้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบฐานข้อมูลสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ เพื่อรองรับการเพิ่มพื้นที่เป้าหมายในอนาคตและรองรับการแก้ไขปัญหาการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้รวดเร็วและถูกต้องมากขึ้น พร้อมทั้งให้กรมส่งเสริมการเกษตรเก็บข้อมูลพื้นที่ประสบภัย ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2556 โดยแยกประเภทพืชต่าง ๆ

5.มอบหมายให้ กษ. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเก็บข้อมูลและปรับปรุงฐานข้อมูล ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ดัชนีผลผลิตต่อเขตพื้นที่ (Area Yield Index)และเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ เพื่อเตรียมการรองรับการประกันภัยข้าวและการประกันภัยพืชผลทางการเกษตรอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต

6.มอบหมายให้กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการในการตรวจสอบเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายแต่มิได้อยู่ในพื้นที่ที่มีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2556 เช่นเดียวกับการดำเนินการของโครงการฯ ปีการผลิต 2559 และขอให้จัดส่งข้อมูลให้สมาคม ฯ และ ธ.ก.ส. เพื่อพิจารณาดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาต่อไป

7. มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยปรับปรุงกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปี ให้เป็นไปตามรูปแบบและหลักเกณฑ์ของการรับประกันภัยของโครงการฯ ปีการผลิต 2560 และดำเนินการสร้างความรู้ความเข้าใจ ตลอดจนประชาสัมพันธ์โครงการฯ ในภาพรวมและเชิงรุกให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

8.มอบหมายให้สมาคมฯ ประสานงานกับ ธ.ก.ส. และกรมส่งเสริมการเกษตร กษ. พัฒนาระบบการรับประกันภัยและการจ่ายค่าสินไหมทดแทน ตลอดจนดำเนินการประชาสัมพันธ์โครงการฯ ปีการผลิต 2560 เพื่อให้เกษตรกรผู้เอาประกันภัยได้รับประโยชน์สูงสุด