รายย่อย IFEC จ่อฟ้องอาญา หลังพาณิชย์ชี้ประชุม 2 พ.ค.โมฆะ

26 มิ.ย. 2560 | 06:56 น.
ผู้ถือหุ้นรายย่อย IFEC เริ่มมีหวัง! พาณิชย์เตรียมเช็กบิล “หมอวิชัย” จัดประชุมผู้ถือหุ้น 2 พ.ค.ที่ผ่านมา มิชอบด้วยกฎหมาย หลังเลือกใช้วิธีลงคะแนนเลือกตั้งกก.การแบบ Cumulative Vote เพื่อรวบอำนาจบริหาร ระบุมติบอร์ดหลังวันที่ 2 พ.ค. ถือเป็น “โมฆะ” และอาจมีผลย้อนหลังถึงการประชุมเมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ใช้วิธีการเลือกตั้งกรรมการด้วยวิธีเดียวกัน รายย่อยล่ารายชื่อ เตรียมฟ้องอาญา โทษฐานทำให้ผู้ถือหุ้นเสียหายอย่างร้ายแรง

ifec (2) นายประจักษ์ รัศมี ทนายความที่ได้รับการมอบหมายจากผู้ถือหุ้นรายย่อย บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (IFEC) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวอ้างคำวินิจฉัยของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โดยที่ประชุมมีความเห็นว่าการประชุมผู้ถือหุ้นไอเฟค เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา เป็นโมฆะ หลังจากที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังกระทรวงพาณิชย์ เนื่องจากวิธีการเลือกตั้งกรรมการ มิชอบด้วยกฎหมายและขัดข้อบังคับของไอเฟค ซึ่งผลที่ตามมาคือ มติกรรมการหลังจากวัน 2 พ.ค.2560 เป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

นอกจากนี้ จะต้องมีการตีความข้อผูกพันด้านกฎหมาย ถึงมติบอร์ดไอเฟค ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงกรรมการ บริษัท อินเตอร์ฟาร์อีสท์ แคปแมเนจเม้นท์ จำกัด (ICAP) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นโรงแรมดาราเทวี และการเข้าควบคุมอำนาจการบริหารโรงแรมดาราเทวี ภายใต้การบริหารงานของประธานไอเฟค และกรรมการชุดปัจจุบัน ถูกกฎหมายหรือไม่

“โรงแรมดาราเทวีถือเป็นทรัพย์สินหลักที่มีมูลค่าสูงที่สุด ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาทราบว่ามีการโอนเงินทุนหมุนเวียนออกไปหลายสิบล้านบาทอาจก่อให้เกิดปัญหาทางด้านการเงินและเครดิตทางการค้ากับโรงแรมได้ รวมไปถึงมีพนักงานระดับบริหารลาออกหลายท่าน และมีค่าใช้จ่ายหลายรายการที่เพิ่มสูงกว่าเดิมอย่างมีนัยยะสำคัญเรื่องต่างๆเหล่านี้ต้องมีผู้รับผิดชอบ"นายประจักษ์ กล่าว

สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นในไอเฟค ในห้วงเวลา 8 เดือนที่ผ่านมา ถือเป็นการพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่า นายวิชัยยึดอำนาจการบริหารบริษัทฯอย่างไม่ถูกต้องมาตั้งแต่การประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ใช้การลงคะแนนเลือกกรรมการแบบเดียวกันกับที่ถูกกระทรวงพาณิชย์สั่งให้เป็นโมฆะ นายวิชัยและคณะกรรมการที่จัดประชุมผู้ถือหุ้นแบบผิดกฎหมายทั้ง 2 ครั้งจะถูกดำเนินคดีอาญา โดยขณะนี้ผู้ถือหุ้นรายย่อยอยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อ เพื่อฟ้องร้องดำเนินคดีอาญา เนื่องจากสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับบริษัทฯและผู้ถือหุ้น