พาณิชย์เผยบริการจัดส่งพัสดุจีนโตเร็วตามพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์

25 มิ.ย. 2560 | 11:49 น.
 

นางอภิรดี  ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการเดินทางไปเยือนประเทศจีนที่ผ่านมา ทราบว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมบริการจัดส่งพัสดุ (courier) ของจีนมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและ ก้าวกระโดดติดต่อกันมาถึง 6 ปีแล้ว โดย มีอัตราเติบโตประมาณร้อยละ 50 ต่อปี  เป็นผลมาจากความนิยมการ  ซื้อขายสินค้าออนไลน์ในจีน ในส่วนของพื้นที่ที่มีการจัดส่งพัสดุมากที่สุดคือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคตะวันตก ตามลำดับ และเมืองที่มีปริมาณการจัดส่งมากที่สุด ได้แก่ นครกวางโจว มหานครเซี่ยงไฮ้เมืองเสิ่นเจิ้น กรุงปักกิ่ง นครหางโจว เมืองจินหวา เมืองตงก่วน เมืองซูโจว นครเฉิงตู และนครอู่ฮั่น ตามลำดับ

ปัจจุบัน  จีนมีการจัดส่งพัสดุด่วน (express delivery) มากที่สุดในโลกแทนที่สหรัฐฯ เมื่อปี 2557 และปี 2558 และเป็นผู้นำในการจัดส่งพัสดุมากกว่า 31,000 ล้านชิ้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 51.4 จากปี 2558 รายได้รวม 57,670 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 43.5 มีการจ้างงานรวมมากกว่า 2 ล้านคน ในปี 2559 โดยธุรกิจบริการฯ ของจีนมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 40 ของธุรกิจบริการฯ ทั่วโลก และคิดเป็นร้อยละ 60 ของการขยายตัวในธุรกิจดังกล่าว พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญในการเติบโตของตลาด มีมูลค่าการซื้อ-ขายในตลาด ถึง กว่า 600,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 26 จากปีก่อนหน้า และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 13 ของมูลค่าการค้าปลีกรวมของประเทศปีที่ผ่านมาเฉพาะในวันคนโสด (วันที่ 11 พฤศจิกายน 2559) เพียงวันเดียวมีการจัดส่งและส่งมอบสินค้ารวมเป็นพัสดุ 251 ล้านชิ้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 52 จากปีก่อนหน้า

หน่วยงานไปรษณีย์แห่งชาติ ได้ประกาศแผนงานเพื่อการพัฒนาตลาดการจัดส่งพัสดุด่วนสำหรับปี 2559-2563 โดยเสนอให้สร้างกลุ่มบริษัทจัดส่งพัสดุขนาดใหญ่มากกว่าสองกลุ่มที่มีขีดความสามารถแข่งขันในระดับนานาชาติกับคู่แข่งจากต่างประเทศ เช่น UPS และ FedEx ได้ ภายในปี 2563 เป้าหมายจัดส่งพัสดุ 70,000 ล้านชิ้นต่อปี รายได้มากกว่า 116,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีอัตราการเจริญเติบโตต่อปีเป็นร้อยละ 27.6 และร้อยละ 23.6 ตามลำดับ

จากสถิติของช่วงไตรมาสแรกของปี 2560 พบ ว่า มีพัสดุ 7,590 ล้านชิ้น ที่ได้รับการจัดส่งโดยบริษัท  จัดส่งพัสดุของจีน เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.5 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สร้างรายได้ 98,460 ล้านหยวน ซึ่งเพิ่มขั้นร้อยละ 27.4 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวย้ำว่า จีนเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องการพัฒนาด้าน E Commerce  เชื่อว่าความนิยมของการค้า ออนไลน์ ยังคงเติบโต และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อการขยายตัวของธุรกิจบริการและธุรกิจขนส่งสินค้าในอนาคตจะมีการลงทุนในด้านนี้มากขึ้น  ซึ่งจะเป็นผลดีในด้านตันทุนที่ถูกลง สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเตรียมความพร้อม และผู้ประกอบการรายใหม่ๆที่จะเข้าสู่ธุรกิจ กระทรวงพาณิชย์มี สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการรายใหม่ หรือ New Economy Academy (NEA) ที่สามารถให้คำแนะนำ บ่มเพาะ โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับ E Commerce ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการค้า ออนไลน์ ให้เติบโตทันกระแสโลกได้