แบรนด์ผู้ดีปูพรมโมเดลใหม่ ปอนด์ดิ่ง เบนท์ลีย์ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ยิ้มร่า
ค่ายรถยนต์แบรนด์หรูสัญชาติอังกฤษ ใส่เกียร์เดินหน้าปูพรมเปิดตัวรถใหม่เอาใจเศรษฐีไทย ส่วนหนึ่งได้อานิสงส์จากค่าเงินปอนด์อ่อนเอื้อประโยชน์รถนำเข้า “จากัวร์ แลนด์โรเวอร์” ปรับฐานราคาขายลดลง และเล็งเปิดตัวรถเพิ่มอีก 2 รุ่น ทั้ง “ดิสคัฟเวอรี โฉมใหม่” และ“เรนจ์โรเวอร์ เวลาร์” ส่วน “เบนท์ลีย์” จัดเอสยูวีตัวแรง “เบนเทย์ก้า” ขาย 24.5 ล้านบาท โดนจองแล้ว 3 คัน
รถยนต์แบรนด์อังกฤษ ถือว่ามีความคลาสสิกที่เป็นเสน่ห์เฉพาะตัว แม้ในปัจจุบันเจ้าของจะเป็นทุนต่างชาติ เช่น “เบนท์ลีย์” อยู่ในเครือโฟล์คสวาเกน เยอรมนี “จากัวร์ แลนด์โรเวอร์” สู่มือ “ทาทา มอเตอร์ส” ยักษ์ใหญ่ของอินเดีย ขณะที่การทำตลาดในเมืองไทยผ่านผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
[caption id="attachment_168594" align="aligncenter" width="503"]
แบรนด์ผู้ดีปูพรมโมเดลใหม่ ปอนด์ดิ่ง เบนท์ลีย์ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ยิ้มร่า[/caption]
ในส่วน“จากัวร์ แลนด์โรเวอร์” ได้ผู้ดูแลตลาดในไทยรายใหม่เมื่อปีที่แล้วชื่อ “อินช์เคป” มีเฮดออฟฟิศและโชว์รูมศูนย์บริการใหญ่ตั้งอยู่ถนนพระราม 4 โดยผ่านไป 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค.60) 2 แบรนด์รวมกันทำยอดขายได้ประมาณ 60 คัน โดยแลนด์โรเวอร์ขายดีกว่าจากัวร์ในสัดส่วน 60/40
“รถธงของแลนด์โรเวอร์ยังเป็น เรนจ์โรเวอร์ อีโวค ล่าสุดเปิดตัวรุ่นคอนเวอร์ติเบิล หรือเอสยูวีตัวถังเปิดประทุน โดยบริษัทจะนำเข้ามาตามการสั่งซื้อของลูกค้าที่สามารถเลือกออพชัน การตกแต่งได้ ราคาเริ่มต้น 6.299 ล้านบาท รอรถประมาณ 4 เดือน ด้านจากัวร์ รุ่นที่ได้รับความนิยมคือ เอฟ-เพซ เอสยูวีที่เปิดตัวในเมืองไทยปีที่แล้ว” นายชาญชัย มหันตคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย)ฯจำกัด กล่าวและว่า
ปีนี้บริษัทยังมีแผนแนะนำแลนด์โรเวอร์เพิ่มเติมอีก 2 รุ่น คือ “ดิสคัฟเวอรี โฉมใหม่” (All new Discovery) เจเนอเรชันที่ 5 ทำตลาดในไทยด้วยเครื่องยนต์ดีเซล วี 6 ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบ พร้อมเปิดตัวช่วงเดือนสิงหาคมนี้ ราคากว่า 6 ล้านบาท และปลายปีเตรียมพบไฮไลต์ “เรนจ์โรเวอร์ เวลาร์” (Range Rover Velar) ราคาเกือบ 6 ล้านบาท โดยจะนำเข้างานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2017 แน่ๆ แต่บริษัทพยายามหาช่วงเวลาเปิดตัวให้เร็วกว่านั้น เพราะปัจจุบันมียอดจองเข้ามากว่า 10 คันแล้ว ซึ่งปลายปีนี้สามารถส่งมอบให้ลูกค้าได้ครบ
นายชาญชัย กล่าวว่าอินช์เคปเริ่มลุยตลาดเมืองไทยหลังจากอังกฤษประกาศถอนตัวจากสหภาพยุโรปพอดี ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์อ่อน ซึ่งเป็นผลดีต่อการดำเนินธุรกิจที่นำเข้ารถยนต์ ทว่าบริษัทมอบส่วนต่างของราคาที่เป็นประโยชน์นี้ไปสู่ผู้บริโภคทั้งหมด หรือเริ่มปรับฐานราคาใหม่ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
[caption id="attachment_168592" align="aligncenter" width="503"]
แบรนด์ผู้ดีปูพรมโมเดลใหม่ ปอนด์ดิ่ง เบนท์ลีย์ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ยิ้มร่า[/caption]
ขณะเดียวกัน บริษัทเปิดบริการใหม่ “จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ แอพพรูฟ” ช่วยให้ลูกค้านำรถเข้ามาขายและเปลี่ยนเป็นรถรุ่นใหม่ได้จบในที่เดียว หากอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทกำหนดเช่น อายุรถไม่เกิน 5 ปี ระยะไม่เกิน 96,000 กม. ไม่เคยประสบอุบัติเหตุ มีประวัติเช็กระยะครบ บริษัทจะรับซื้อสูงกว่าราคาตลาด 5% ส่วนลูกค้าที่ซื้อต่อไปก็มั่นใจได้ จากการตรวจสภาพ 165 รายการ พร้อมการรับประกัน 2 ปี หรือ 100,000 กม. ผ่านการตรวจสอบประวัติรถยนต์อย่างละเอียด เช่น ระยะทาง การขับขี่จริง ประวัติการเป็นเจ้าของที่ตรวจสอบได้เพื่อให้แน่ใจว่ารถยนต์ไม่ติดปัญหาด้านไฟแนนซ์ ไม่ได้ถูกขโมยมาหรือเป็นรถที่สูญหาย
“ปัจจุบันตลาดรถยนต์แบรนด์หรูมือสองเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโปรแกรมนี้จะเข้ามาตอบสนองความต้องการของลูกค้า และรักษาระดับราคาซื้อ-ขายรถมือสองของจากัวร์และแลนด์โรเวอร์ไปในตัว” นายชาญชัย กล่าว
ด้าน“เบนท์ลีย์” ภายใต้การดูแลของเอเอเอส ออโต้เซอร์วิส เพิ่งจัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการให้ “เบนเทย์ก้า” (Bentayga) อัครเอสยูวีที่แรงที่สุดในโลกตอนนี้ ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน W12 ขนาด 6.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 608 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 900 นิวตัน-เมตร ที่ 1,350 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 4.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 301 กิโลเมตร/ชั่วโมง
สำหรับเบนเทย์ก้า ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด ออกแบบผสานระหว่างความแข็งแกร่งและความอ่อนช้อยงดงาม โคมไฟคู่หน้า และกระจังตาข่ายขนาดใหญ่บ่งบอกถึงดีเอ็นเอของเบนท์ลีย์ ส่วนภายในห้องโดยสารเต็มไปด้วยรายละเอียดของชิ้นงานโลหะ ลายไม้ และหนังแท้ ขายราคาเริ่มต้น 24.5 ล้านบาท ขึ้นแท่นเอสยูวีที่แพงที่สุดในเมืองไทย
นายเอกราช นพเกตุ ผู้จัดการทั่วไป เบนท์ลีย์ไทยแลนด์ กล่าวว่า เบนเทย์ก้าได้การตอบรับจากลูกค้าพอสมควร มียอดจองแล้ว 3 คัน ซึ่งกระบวนการตั้งแต่จองจนถึงส่งมอบจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ส่วนยอดขายรวมปี 2559 บริษัททำได้ 17-18 คัน เป็นไปตามที่ได้คาดการณ์ไว้ และปีนี้ตั้งเป้าหมายไว้ 20 คัน
“ตลาดลักชัวรีคาร์ยังมีทิศทางที่ดี แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาลูกค้าจะมีความกังวลใจเกี่ยวกับกรณีรถหรูที่ถูกอายัดจากดีเอสไอ ซึ่งช่วงแรกๆลูกค้าได้เข้ามาสอบถามข้อมูล และบริษัทมีการแจ้งลูกค้าเกี่ยวกับการเสียภาษีทุกอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งภายหลังการยืนยันลูกค้าก็เกิดความเชื่อมั่นและกลับเข้ามาดูรถและซื้อรถตามปกติ ” นายเอกราช กล่าวสรุป
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,273 วันที่ 25 - 28 มิถุนายน พ.ศ. 2560
รถยนต์แบรนด์อังกฤษ ถือว่ามีความคลาสสิกที่เป็นเสน่ห์เฉพาะตัว แม้ในปัจจุบันเจ้าของจะเป็นทุนต่างชาติ เช่น “เบนท์ลีย์” อยู่ในเครือโฟล์คสวาเกน เยอรมนี “จากัวร์ แลนด์โรเวอร์” สู่มือ “ทาทา มอเตอร์ส” ยักษ์ใหญ่ของอินเดีย ขณะที่การทำตลาดในเมืองไทยผ่านผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
[caption id="attachment_168594" align="aligncenter" width="503"]
ในส่วน“จากัวร์ แลนด์โรเวอร์” ได้ผู้ดูแลตลาดในไทยรายใหม่เมื่อปีที่แล้วชื่อ “อินช์เคป” มีเฮดออฟฟิศและโชว์รูมศูนย์บริการใหญ่ตั้งอยู่ถนนพระราม 4 โดยผ่านไป 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค.60) 2 แบรนด์รวมกันทำยอดขายได้ประมาณ 60 คัน โดยแลนด์โรเวอร์ขายดีกว่าจากัวร์ในสัดส่วน 60/40
“รถธงของแลนด์โรเวอร์ยังเป็น เรนจ์โรเวอร์ อีโวค ล่าสุดเปิดตัวรุ่นคอนเวอร์ติเบิล หรือเอสยูวีตัวถังเปิดประทุน โดยบริษัทจะนำเข้ามาตามการสั่งซื้อของลูกค้าที่สามารถเลือกออพชัน การตกแต่งได้ ราคาเริ่มต้น 6.299 ล้านบาท รอรถประมาณ 4 เดือน ด้านจากัวร์ รุ่นที่ได้รับความนิยมคือ เอฟ-เพซ เอสยูวีที่เปิดตัวในเมืองไทยปีที่แล้ว” นายชาญชัย มหันตคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย)ฯจำกัด กล่าวและว่า
ปีนี้บริษัทยังมีแผนแนะนำแลนด์โรเวอร์เพิ่มเติมอีก 2 รุ่น คือ “ดิสคัฟเวอรี โฉมใหม่” (All new Discovery) เจเนอเรชันที่ 5 ทำตลาดในไทยด้วยเครื่องยนต์ดีเซล วี 6 ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบ พร้อมเปิดตัวช่วงเดือนสิงหาคมนี้ ราคากว่า 6 ล้านบาท และปลายปีเตรียมพบไฮไลต์ “เรนจ์โรเวอร์ เวลาร์” (Range Rover Velar) ราคาเกือบ 6 ล้านบาท โดยจะนำเข้างานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2017 แน่ๆ แต่บริษัทพยายามหาช่วงเวลาเปิดตัวให้เร็วกว่านั้น เพราะปัจจุบันมียอดจองเข้ามากว่า 10 คันแล้ว ซึ่งปลายปีนี้สามารถส่งมอบให้ลูกค้าได้ครบ
นายชาญชัย กล่าวว่าอินช์เคปเริ่มลุยตลาดเมืองไทยหลังจากอังกฤษประกาศถอนตัวจากสหภาพยุโรปพอดี ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์อ่อน ซึ่งเป็นผลดีต่อการดำเนินธุรกิจที่นำเข้ารถยนต์ ทว่าบริษัทมอบส่วนต่างของราคาที่เป็นประโยชน์นี้ไปสู่ผู้บริโภคทั้งหมด หรือเริ่มปรับฐานราคาใหม่ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
[caption id="attachment_168592" align="aligncenter" width="503"]
ขณะเดียวกัน บริษัทเปิดบริการใหม่ “จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ แอพพรูฟ” ช่วยให้ลูกค้านำรถเข้ามาขายและเปลี่ยนเป็นรถรุ่นใหม่ได้จบในที่เดียว หากอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทกำหนดเช่น อายุรถไม่เกิน 5 ปี ระยะไม่เกิน 96,000 กม. ไม่เคยประสบอุบัติเหตุ มีประวัติเช็กระยะครบ บริษัทจะรับซื้อสูงกว่าราคาตลาด 5% ส่วนลูกค้าที่ซื้อต่อไปก็มั่นใจได้ จากการตรวจสภาพ 165 รายการ พร้อมการรับประกัน 2 ปี หรือ 100,000 กม. ผ่านการตรวจสอบประวัติรถยนต์อย่างละเอียด เช่น ระยะทาง การขับขี่จริง ประวัติการเป็นเจ้าของที่ตรวจสอบได้เพื่อให้แน่ใจว่ารถยนต์ไม่ติดปัญหาด้านไฟแนนซ์ ไม่ได้ถูกขโมยมาหรือเป็นรถที่สูญหาย
“ปัจจุบันตลาดรถยนต์แบรนด์หรูมือสองเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโปรแกรมนี้จะเข้ามาตอบสนองความต้องการของลูกค้า และรักษาระดับราคาซื้อ-ขายรถมือสองของจากัวร์และแลนด์โรเวอร์ไปในตัว” นายชาญชัย กล่าว
ด้าน“เบนท์ลีย์” ภายใต้การดูแลของเอเอเอส ออโต้เซอร์วิส เพิ่งจัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการให้ “เบนเทย์ก้า” (Bentayga) อัครเอสยูวีที่แรงที่สุดในโลกตอนนี้ ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน W12 ขนาด 6.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 608 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 900 นิวตัน-เมตร ที่ 1,350 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 4.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 301 กิโลเมตร/ชั่วโมง
สำหรับเบนเทย์ก้า ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด ออกแบบผสานระหว่างความแข็งแกร่งและความอ่อนช้อยงดงาม โคมไฟคู่หน้า และกระจังตาข่ายขนาดใหญ่บ่งบอกถึงดีเอ็นเอของเบนท์ลีย์ ส่วนภายในห้องโดยสารเต็มไปด้วยรายละเอียดของชิ้นงานโลหะ ลายไม้ และหนังแท้ ขายราคาเริ่มต้น 24.5 ล้านบาท ขึ้นแท่นเอสยูวีที่แพงที่สุดในเมืองไทย
นายเอกราช นพเกตุ ผู้จัดการทั่วไป เบนท์ลีย์ไทยแลนด์ กล่าวว่า เบนเทย์ก้าได้การตอบรับจากลูกค้าพอสมควร มียอดจองแล้ว 3 คัน ซึ่งกระบวนการตั้งแต่จองจนถึงส่งมอบจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ส่วนยอดขายรวมปี 2559 บริษัททำได้ 17-18 คัน เป็นไปตามที่ได้คาดการณ์ไว้ และปีนี้ตั้งเป้าหมายไว้ 20 คัน
“ตลาดลักชัวรีคาร์ยังมีทิศทางที่ดี แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาลูกค้าจะมีความกังวลใจเกี่ยวกับกรณีรถหรูที่ถูกอายัดจากดีเอสไอ ซึ่งช่วงแรกๆลูกค้าได้เข้ามาสอบถามข้อมูล และบริษัทมีการแจ้งลูกค้าเกี่ยวกับการเสียภาษีทุกอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งภายหลังการยืนยันลูกค้าก็เกิดความเชื่อมั่นและกลับเข้ามาดูรถและซื้อรถตามปกติ ” นายเอกราช กล่าวสรุป
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,273 วันที่ 25 - 28 มิถุนายน พ.ศ. 2560