เอกซเรย์เมกะโปรเจ็กต์หมื่นล. สิงห์ เอสเตท‘มัลดีฟส์’

25 มิ.ย. 2560 | 01:09 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

จากจุดขายของหมู่เกาะในมหาสมุทรอินเดีย ความหรูหราของรีสอร์ตกลางทะเล ที่ 1 เกาะจะมีเพียง 1รีสอร์ต และโลโกชัน ที่ใช้เวลาเดินทางโดยเครื่องบินจากยุโรป 10 ชั่วโมง จีน 7 ชั่วโมงและไทยเพียง 4 ชั่วโมง ทำให้มัลดีฟส์ จึงเป็นจุดปักธงในการขยายการลงทุนของกลุ่มธุรกิจโรงแรมไทย

โดยก่อนหน้านี้ มี 4 กลุ่มทุนโรงแรมรายใหญ่ของไทย เข้าไปลงทุนกันแล้ว อย่างไมเนอร์อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ลงทุนโรงแรมภายใต้แบรนด์อนันตรา 4 แห่ง เซ็นทารา 2 แห่ง ดุสิตธานี 1 แห่ง และออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ (บริษัทในเครืออิตัลไทย) นำแบรนด์อมารีเข้าไปเปิดธุรกิจ และล่าสุดคือการลงทุนของสิงห์ เอสเตท ที่แม้จะลงทุนช้ากว่า แต่ฮือฮากว่า

**เฟสแรกลงทุนบน 3 เกาะ
เนื่องจากการลงทุนของสิงห์ เอสเตท จัดได้ว่าเป็นเมกะโปรเจ็กต์ที่รองรับการท่องเที่ยวในทุกๆความต้องการ ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในหมู่เกาะมัลดีฟส์ (โครงการ Tourist Facilities)การลงทุนที่เกิดขึ้นจึงไม่ได้มีเพียงแค่โรงแรม แต่มีทั้งแหล่งช็อปปิ้ง แหล่งบันเทิง สีสัน การพักผ่อน ที่กำลังจะเกิดขึ้น บนพื้นที่ 9 เกาะในมัลดีฟส์ ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ที่ได้เช่าเกาะ มาจากรัฐบาลมัลดีฟส์

ทั้งนี้การลงทุนกำลังจะเริ่มขึ้นแล้วในเฟสที่ 1 หลังจากสิงห์ เอสเตท ซื้อพื้นที่มา 3 เกาะจากบริษัทบุญรอดฯใช้งบลงทุนไปราว 83 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 2,931 ล้านบาท) เพื่อพัฒนาโครงการในเฟสแรก ซึ่งตามแผนการลงทุนที่วางไว้ เกาะที่ 1 จะลงทุนโครงการมิกซ์ ยูส ที่จะเป็นเมืองในลักษณะ Township หรือชุมชุนเมืองเล็กๆที่ประกอบไปด้วย ทรานซิต รีสอร์ต ขนาด 200 ห้อง, รีเทลและเอ็นเตอร์เทนเมนต์, ดิวตี้ฟรี ศูนย์กิจกรรมทางทะเล, มารีน่า, บีชคลับ เป็นต้น คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนกรกฎาคม 2561

เกาะที่ 2 เป็นธีม รีสอร์ต 201 ห้อง คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนกรกฎาคม 2561 และเกาะที่ 3 จะเป็นการลงทุนโรงแรมในลักษณะ อัพสเกล ไลฟ์สไตล์ รีสอร์ต ขนาด 120 ห้อง คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนกรกฎาคม 2563 โดยการลงทุนทั้ง 3 เกาะในเฟสแรกนี้ ทางสิงห์ เอสเตท จะใช้งบลงทุนราว 311.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1.1 หมื่นล้านบาท)

**ดึงพันธมิตรระดับโลก
ด้วยความที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ ทำให้ทางสิงห์ เอสเตท จึงโฟกัสที่จะดึงพันธมิตรระดับโลก เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ (Strategic parner) ซึ่งในส่วนของการพัฒนาเกาะที่ 2 ซึ่งเป็นการลงทุนธีมรีสอร์ท ก็ได้เซ็นสัญญาร่วมมือกับ ฮาร์ด ร็อค โฮเทล กรุ๊ป มาร่วมพัฒนาโรงแรมแรกในโครงการเมกะโปรเจ็กต์นี้แล้ว ซึ่งถือว่าตอบโจทย์ความเป็นธีมรีสอร์ต เนื่องจากการพัฒนาโรงแรมของฮาร์ด ร็อค จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่มีสีสันและความรื่นเริง ที่จะเปิดตัวในราวกลางปีหน้า

ส่วนการพัฒนามิกซ์ ยูส บนเกาะที่ 1 นั้น เมื่อไม่นานมานี้ ทางสิงห์ เอสเตท ก็ได้เซ็นสัญญากับ Cafe Del Mar ผู้บริหารบีชคลับแถวหน้าของโลกจากเกาะ Ibiza ประเทศสเปน เพื่อมาพัฒนาบีชคลับบนเกาะแห่งนี้ด้วย ซึ่งจะเป็นบีชคลับแห่งแรกในมหาสมุทรอินเดียของ Cafe Del Mar ที่มีขนาดใหญ่ถึงกว่า 5,000 ตารางเมตร ที่มีการทำเพลงเป็นของตัวเอง สร้างสีสันปาร์ตี้สนุกสนาน และมีการให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม ที่ทำในห้องครัวผสมผสานในสไตล์ Wood Fired Cooking รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารในเครือสิงห์

[caption id="attachment_168607" align="aligncenter" width="503"] เอกซเรย์เมกะโปรเจ็กต์หมื่นล. สิงห์ เอสเตท‘มัลดีฟส์’ เอกซเรย์เมกะโปรเจ็กต์หมื่นล. สิงห์ เอสเตท‘มัลดีฟส์’[/caption]

**เฟส 2 เล็งผุด 6 รีสอร์ต
ไม่เพียงการลงทุนที่กำลังเกิดขึ้นบน 3 เกาะ ในเฟสแรกเท่านั้น ในส่วนการลงทุนเฟสที่ 2 บน 6 เกาะที่เหลือ ที่ต่อไปสิงห์ เอสเตท ก็จะทยอยซื้อพื้นที่จากบุญรอดมาพัฒนาต่อ ซึ่ง ตามแผนวางไว้ว่า เกาะที่ 4 เป็นรีสอร์ต ระดับ 4.5 ดาว ขนาด 150 ห้อง เกาะที่ 5 เป็นรีสอร์ต ระดับ 3.5 ดาว 200 ห้อง เกาะที่ 6 จะพัฒนาเป็นรีสอร์ต ระดับ 4 ดาว 225 ห้อง เกาะที่ 7 จะเป็นรีสอร์ต 5 ดาว ขนาด 100 ห้อง เกาะที่ 8 เป็นรีสอร์ตในลักษณะไทม์แชร์ (การจัดสรรเวลาในการพักผ่อน) 100 ห้อง และเกาะที่ 9 เป็น ลักชัวรี ไทม์แชร์ รีสอร์ต โดยการลงทุนในเฟส 2 ตามเป้าหมายจะพัฒนาทุกโรงแรมให้แล้วเสร็จเปิดบริการได้ในราวเดือนเมษายน 2565

นี่จึงเป็นอีกก้าวในการลงทุนโรงแรมของสิงห์ เอสเตท เพิ่มจากปัจจุบันที่เป็นเจ้าของโรงแรมในไทย 2 แห่ง คือ สันติบุรี บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา เกาะสมุย, พีพี ไอส์แลนด์ บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา และมีโรงแรมอังกฤษ 29 แห่งที่เกิดจากการร่วมลงทุนกับ ฟิโก้ คอร์เปอเรชั่น ตั้งแต่เมื่อปี 2558 ถึงปัจจุบัน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,273 วันที่ 25 - 28 มิถุนายน พ.ศ. 2560