นิทาน 4.0 ‘บิ๊กตู่’ต้องการบอกอะไร?

24 มิ.ย. 2560 | 23:59 น.
tp14-3273-a มดไม่ใช่สัตว์สังคม หรือมีปฏิสัมพันธ์กับสัตว์อื่น? ซึ่งต่างกับมนุษย์ที่เป็นสัตว์สังคมที่มีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ด้วยกันเอง หรือกับสัตว์อื่น? และประชุมคณะรัฐมนตรีหรือครม.เมื่อวันอังคาร (20 มิ.ย.) ที่แล้ว พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เล่านิทานสอนใจเรื่องหนึ่งให้ครม.ฟัง...ซึ่งถือเป็นนิทานที่ให้ทั้งแง่คิดและข้อขบคิดแก่คนอ่านอย่างยิ่ง!!!!

พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัตร ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้เล่านิทานเรื่องหนึ่งที่เพิ่งอ่านมาจากสื่อ “สังคมออนไลน์” ให้ครม.ฟังเพื่อเป็นคติสอนใจ เนื้อหาสำคัญของนิทานเรื่องนี้ ว่า ทุกๆ วันที่มดเข้ามาทำงานก็จะทำงานทันทีตั้งแต่เช้า ทำให้สร้างผลงานต่างๆ มากมาย โดย “สิงโต” ซึ่งเป็นหัวหน้าไม่ได้เข้าไปควบคุมดูแลแต่อย่างใด

แม้มดจะสามารถทำงานได้ดีขนาดนี้ แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกที่สิงโตกลับคิด ว่า หากมีหัวหน้าเข้าไปควบคุมดูแลมดก็คงทำงานได้มากกว่านี้ สิงโตจึงจ้าง “แมลงสาบ” ที่มีความสามารถในเรื่องเขียนรายงานมาเป็นหัวหน้ามด...แมลงสาบเริ่มต้นด้วยการตั้งระบบลงเวลาทำงานแบบตอกบัตร และจ้างควายมาเป็นเลขานุการส่วนตัว (เพื่อช่วยทำงานและจับผิดมด)

ขณะที่สิงโตเองก็รู้สึกเป็นปลื้มกับวิธีทำงานของแมลงสาบ ส่วนแมลงสาบเอง ก็พลอยได้หน้าไปกับเขาด้วย จึงจัดทำเรื่องขอซื้อคอมพิวเตอร์เพิ่มเติม โดยให้เหตุผลว่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับสิงโต รวมทั้งยังเสนอให้เพิ่มแผนก “สารสนเทศ” ขึ้นมาด้วย

ส่วนสิงโตก็ไปจ้าง “เห็บ” ให้มาเป็นผู้จัดการฝ่ายสารสนเทศ และเห็บก็เสนอของงบเพิ่ม เพื่อจ้างลูกมือและหาอุปกรณ์เพิ่มเติม...ขณะที่มดเองก็เริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับระบบการทำงานแบบใหม่ที่ต้องเขียนรายงาน รวมทั้งทำงานเอกสารเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตามเมื่อแมลงสาบเห็นมดทำงานช้าลง จึงจัดส่ง “ทาก” ที่เป็นหัวหน้าแผนก ให้เข้ามาดูแลการทำงาน อีกครั้งหนึ่ง...วิธีทำงานของทากก็คือ ทำทุกอย่างให้รอบคอบแม้วิธีนี้จะส่งผลให้การทำงานล่าช้าบ้าง?ก็ตาม แต่สุดท้าย มด ก็ทำงานยากขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นแผนกที่ไร้เสียงหัวเราะ ในที่สุด

เรื่องยังไม่จบเพียงแค่นั้น เมื่อสิงโตไปจ้าง “ตัวเงินตัวทอง” เป็นที่ปรึกษา เพื่อหาวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ก่อนจบลงด้วยข้อสรุปว่า สาเหตุที่งานด้อยคุณภาพลงก็เพราะแผนกมดมีการจัดจ้างคนมากเกินไป และสุดท้าย “มด” ก็ถูกปลดออกจากงาน เนื่องจากทำงานไม่มีประสิทธิภาพ

พ.อ.อธิสิทธิ์เปิดเผยด้วยว่า เมื่อพล.อ.ประยุทธ์เล่าจบ!!!! ก็ขอให้รัฐมนตรีทุกคนพิจารณาดูตัวเองจากนิทานสอนใจที่เล่าว่า เราเป็นใครในนิทานเรื่องนี้ และการทำงานของเราอยู่ในบทบาทไหน? และที่สำคัญการเพิ่มบุคลากรนั้น แท้ที่จริงแล้ว ส่งผลให้การทำงานง่ายขึ้น หรือทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงกันแน่!!??

ฟังจากที่ผู้ช่วยโฆษกชี้แจง เรื่องราวทำนองนี้ บางครั้งบางคราวมันก็ยากเกินกว่าจะค้นหาคำตอบ เช่นเดียวกับเรื่องของการเข่นฆ่าของคนทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งส่วนตัวไม่มีใคร?เคยรู้จักกันมาก่อน การเกิดขึ้นของความเกลียดชังหรือโกรธแค้น ไม่ได้เริ่มต้นในปัจจุบันหรือวันนี้ แต่อาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นยาวนานย้อนหลังไปเป็นชั่วอายุคนเลยทีเดียว

เช่นเดียวกับมูลเหตุแห่งความเกลียด เมื่อถูก “ตอกลิ่ม” ให้ขยายแยก ก็สามารถทำให้คนคิดทำสิ่งที่คนทั่วไปไม่คาดคิด และอย่าแปลกใจที่ความเกลียดชังของมนุษย์จะก่อให้เกิดการทำลายล้างในที่สุด และเหตุของความเกลียดชัง ก่อนนำมาสู่การตอกลิ่มนั้นก็ไม่มีอะไร?มาก ถ้าเพียงแต่ผู้มีอำนาจรัฐไม่คอร์รัปชันกันมากหรือหาผลประโยชน์กันต่อไป

มาถึงตรงนี้ ก็คงคาดการณ์ปลายทางแห่งการคอร์รัปชัน และนิทานสอนใจว่าด้วยเรื่องมดกับสิงโตที่เล่ามาข้างต้นได้ไม่ยากแล้วนะครับ...เพราะ “ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงตํ่าอยู่ที่ทำตัว ถูกหรือผิด ใจตนย่อมรู้ดีกว่าคนอื่น”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,273 วันที่ 25 - 28 มิถุนายน พ.ศ. 2560