ผนึกร้านค้ารับชำระเงินผ่าน ทรูมันนี่ และอาลีเพย์ วอลเล็ท

22 มิ.ย. 2560 | 11:10 น.
ทรูมันนี่ รุกบริกา fintech และอีเพย์เมนท์ ตั้ง 6 ตัวแทนเป็นขุนพลจัดหาพันธมิตรรับชำระเงินผ่าน ทรูมันนี่ และอาลีเพย์ วอลเล็ท  ตั้งเป้าขยายฐานร้านค้าที่รับบริการชำระเงิน จาก 12,000 ร้านค้าเป็นกว่า 100,000 ร้านทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด เพื่อผลักดันและส่งเสริมนโยบาย National E-Payment และ Thailand 4.0 หวังกระตุ้น Cashless LIfestyle

นางสาวสราญรัตน์ ศรีจิรารัตน์ กรรมการผู้จัดการ ประจำประเทศไทย บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด นางสาวสราญรัตน์ ศรีจิรารัตน์ กรรมการผู้จัดการ ประจำประเทศไทย บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด เปิดเผยว่า “สังคมไทยตอนนี้ยังเป็นสังคมเงินสด (cash economy) เราต้องการผลักดันให้เกิดสังคมไร้เงินสด (cashless lifestyle) อย่างครบวงจรและเป็นรูปธรรมในประเทศไทย ให้ตรงกับพันธกิจของ ทรูมันนี่ ที่ต้องการสร้างโอกาสให้ทุกคน ได้เข้าถึงนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งการขยายจุดรับชำระเงินผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์หรืออีวอลเล็ท คือหนึ่งในเป้าหมายหลักของเราในปีนี้ โดยได้ตั้งเป้าไว้ที่ 100,000 จุดรับชำระทั่วประเทศ ผ่านตัวแทนจำนวน 6 ราย โดยตัวแทนของ ทรูมันนี่ ทั้งหมดจะเป็นคนกลางในการประสาน สรรหาร้านค้า ธุรกิจบริการที่ได้คุณภาพและตรงกับชีวิตประจำวันของผู้ใช้ ทรูมันนี่ วอลเล็ท รวมถึงร้านค้าที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีนเพื่อการชำระผ่าน อาลีเพย์ วอลเล็ท”

นอกจากการขยายเครือข่ายธุรกิจร้านค้า ทาง ทรูมันนี่ ยังคงมองหาตัวแทนอย่างเป็นทางการ ที่มีศักยภาพในการเสาะหาธุรกิจร้านค้า เพื่อเข้ามาเป็นพันธมิตรในการให้บริการชำระค่าสินค้าและบริการผ่าน ทรูมันนี่ และอาลีเพย์ วอลเล็ท สำหรับบริษัทที่ได้รับมอบประกาศนียบัตร การแต่งตั้งตัวแทนผู้จัดหาเครือข่ายในการรับชำระเงินค่าสินค้าและบริการผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ประกอบด้วย 6 บริษัท คือ:บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด , บริษัท ฮวนยูจิ จำกัด , บริษัท จีมู่ อินเตอร์เน็ต เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด , บริษัท เพย์วิง (ประเทศไทย) จำกัด  , บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต คอร์ปอเรชั่น จำกัด   และบริษัท วงใน มีเดีย จำกัด

“ร้านค้าสามารถมั่นใจได้ว่า ตัวแทนอย่างเป็นทางการทั้ง 6 จะเป็นตัวแทนในการสรรหาธุรกิจร้านค้าต่างๆ ที่มีคุณภาพ ให้กับทรูมันนี่ และอาลีเพย์ วอลเล็ท รวมทั้งการสร้างความรู้ ความเข้าใจ รวมถึงผลประโยชน์ที่ร้านค้าจะได้รับจากการเข้ามาร่วมเป็นเครือข่าย การเพิ่มโอกาส ในการสร้างรายได้ให้ธุรกิจมากขึ้น และเป็นการช่วยผลักดันให้เกิดสังคมไร้เงินสดอย่างครบวงจรและเป็นรูปธรรมในประเทศไทย ที่เห็นได้ชัดมากยิ่งขึ้น” นางสาวสราญรัตน์กล่าว

ด้านนางสาวพิภาวิน สดประเสริฐ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย – ANT Financial Services Group ผู้ให้บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์อาลีเพย์ (Alipay) กล่าวว่า “อาลีเพย์เป็นแอปพลิเคชันที่ใช้ในการตอบสนองไลฟ์สไตล์ดิจิทัลสำหรับผู้ใช้ชาวจีนทุกรูปแบบ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้อาลีเพย์เป็นประจำ (active users) มากกว่า 450 ล้านคน และในจำนวนนี้ มีผู้ใช้อาลีเพย์ซึ่งเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยปีละเกือบ 10 ล้านคน และยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี การขยายเครือข่ายร้านค้าและบริการที่รับชำระเงินด้วยระบบอาลีเพย์ที่ชาวจีนมีความคุ้นชินและชื่นชอบอยู่แล้ว จึงเท่ากับเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้กับร้านค้า ไปสู่ฐานลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง เช่น นักท่องเที่ยวชาวจีน ทาง Ant Financial Services Group ให้ความสำคัญกับการเจริญเติบโตของร้านค้า และหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้ SME ไทยมีโอกาสได้ทดลอง เรียนรู้ และพัฒนาไปสู่โลกดิจิทัล ตามหลักการ Thailand 4.0 ของรัฐบาลไทย ทางเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับทาง ทรูมันนี่ เราเห็นถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจ และเชื่อมั่นในศักยภาพและมาตรฐานทางด้านการให้บริการทางการเงินของ ทรูมันนี่ ซึ่งดำเนินการอย่างถูกต้องตามหลักเกณฑ์การให้บริการอีเพย์เมนต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย  และเชื่อมั่นว่านอกจาก ทรูมันนี่ จะช่วยร้านค้าให้เติบโตจากรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนผ่านอาลีเพย์ วอลเล็ทแล้ว  ทรูมันนี่ ยังสามารถสร้างโอกาสให้ร้านค้าเพิ่มช่องทางการตลาดสู่ผู้บริโภคชาวไทย ผ่านทาง ทรูมันนี่ วอลเล็ท อีกด้วย”