ท่าทีทรัมป์กระทบสินค้าเกษตร เม็กซิโกลดนำเข้าธัญพืช-เนื้อไก่หลังกังวล‘นาฟต้า’

23 มิ.ย. 2560 | 23:40 น.
ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และเม็กซิโกจากท่าทีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มส่งผลกระทบต่อตัวเลขการส่งออกของผู้ผลิตสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ ในช่วงต้นปี 2560

ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2560 เม็กซิโกนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ ลดลงหลายรายการ โดยมูลค่าการนำเข้าถั่วเหลืองสำหรับเป็นอาหารสัตว์จากสหรัฐฯ ของเม็กซิโกลดลง 15% นับเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 4 ปี การนำเข้าเนื้อไก่ลดลง 11% สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2547 และการนำเข้าข้าวโพดลดลง 6% ซึ่งเม็กซิโกถือเป็นตลาดส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้ที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ

เดอะ วอลล์ สตรีต เจอร์นัล ระบุว่า ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าบริษัทเม็กซิโกเริ่มเปลี่ยนมาซื้อธัญพืชจากสหรัฐฯ ในระยะสั้น และหันไปสั่งซื้อไก่จากบราซิลเพิ่มมากขึ้น สะท้อนถึงความต้องการของเม็กซิโกที่จะลดทอนการพึ่งพาสหรัฐฯ และสั่งซื้ออาหารจากประเทศต่างๆ ในวงกว้างขึ้น

"เราต้องส่งสัญญาณไปให้ผู้กำหนดนโยบายในสหรัฐฯ รู้ และเน้นย้ำว่าเราไม่ได้อยู่เฉย" นายราอูล เออร์เทียก้า ทรานี หัวหน้าฝ่ายกิจการต่างประเทศของกระทรวงเกษตรเม็กซิโก กล่าว โดยเมื่อเดือนที่ผ่านมา นายเออร์เทียก้าได้นำทีมตัวแทนจากบริษัทเอกชน 17 รายของเม็กซิโกไปเปิดลู่ทางด้านการค้าในทวีปอเมริกาใต้ เน้นไปที่สินค้าประเภทข้าวโพด ถั่วเหลือง และข้าวสาลีเป็นหลัก

เม็กซิโกเป็นผู้นำเข้าสินค้าเกษตรขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหรัฐฯ ด้วยมูลค่าการนำเข้า 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปีก่อน ขณะที่สหรัฐฯ เองก็เป็นตลาดส่งออกสินค้าอาหารขนาดใหญ่ที่สุดของเม็กซิโก ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ทางการค้าอันใกล้ชิดที่พัฒนาขึ้นมาบนพื้นฐานของความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือนาฟต้า

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เตรียมทบทวนและเจรจาข้อตกลงนาฟต้าใหม่ในเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากกล่าวอ้างว่าเม็กซิโกดึงการจ้างงาน เม็ดเงินลงทุน และรายได้จากสหรัฐฯ ผ่านข้อตกลงดังกล่าว

[caption id="attachment_130397" align="aligncenter" width="503"] T07-3236-b ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ[/caption]

การอ่อนค่าของเงินเปโซเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลกับตัวเลขการส่งออก ทำให้สินค้าจากสหรัฐฯ บางรายการมีราคาแพงขึ้น และสินค้าจากอเมริกาใต้มีความน่าสนใจมากกว่าในสายตาของผู้ซื้อชาวเม็กซิโกบางราย อย่างไรก็ตาม ในขณะที่การส่งออกธัญพืชและไก่ชะลอตัวลง เม็กซิโกมีการนำเข้าเนื้อวัวและไข่ไก่จากสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้นในช่วง 4 เดือนแรก กระนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเกษตรของสหรัฐฯ บางรายแสดงความกังวลว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าอาจส่งผลกระทบด้านลบต่อตลาดส่งออกหลักอย่างเม็กซิโก ที่ปีที่ผ่านมาทำรายได้ให้กับสหรัฐฯ เป็นสัดส่วน 13% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด

เมื่อเร็วๆ นี้ สภาธัญพืชของสหรัฐฯ ได้ส่งคณะผู้บริหารไปยังเม็กซิโกเพื่อเน้นย้ำถึงพันธะสัญญาของผู้ผลิตสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ ที่มีต่อตลาดเม็กซิโก "แน่นอนว่าเรากังวล ผมได้ยินมาหลายต่อหลายครั้งเกี่ยวกับแนวความคิดที่เม็กซิโกจะลดการพึ่งพาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรจากสหรัฐฯ และหันไปซื้อจากแหล่งอื่น" นายทอม สไลธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสภาธัญพืชสหรัฐฯ กล่าว

เช่นเดียวกับความกังวลจากผู้ผลิตเนื้อไก่ว่าความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และเม็กซิโกจะผลักดันให้ผู้ซื้อชาวเม็กซิโกหันไปซื้อไก่จากบราซิลแทน ข้อมูลจากสภาส่งออกไก่และไข่ของสหรัฐฯ ระบุว่า ยอดขายไก่จากบราซิลไปเม็กซิโกเพิ่มขึ้นจาก 387 ตันในปี 2556 เป็น 52,800 ตันในปี 2559 หลังจากรัฐบาลเม็กซิโกเปิดให้นำเข้าไก่จากบราซิลและประเทศอื่นๆ โดยไม่ต้องเสียภาษี และแนวโน้มยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปีนี้

อย่างไรก็ดี ผู้ส่งออกสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ ยังคงมีความได้เปรียบเรื่องความรวดเร็วในการส่งสินค้าไปเม็กซิโกด้วยต้นทุนถูก ขณะที่คู่แข่งจากอเมริกาใต้ต้องอาศัยการส่งสินค้าทางเรือ

นายเออร์เทียก้ากล่าวว่า เม็กซิโกเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ด้านการค้าสินค้าเกษตรที่ใกล้ชิดกับสหรัฐฯ แต่ขณะเดียวกันยอมรับว่าหลายบริษัทมีความกังวลจากข่าวที่ได้ยินหรือได้อ่านเกี่ยวกับอนาคตของข้อตกลงนาฟต้า

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,272 วันที่ 22 - 24 มิถุนายน พ.ศ. 2560