กรมโรงงานฯหนุน SMEs แปลงเครื่องจักรเป็นเงินสูงสุดรายละ 15 ล้าน

20 มิ.ย. 2560 | 07:46 น.
20 มิ.ย.60 –  กรมโรงงานอุตสาหกรรม เร่งส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs  แปลงเครื่องจักรเป็นทุน วงเงินกู้รายละไม่เกิน 15 ล้านบาท  พร้อมชวนผู้ประกอบการเข้าร่วม เพื่อรับ 5 สิทธิประโยชน์  ทั้งนี้ ปี 2560 คาดว่าจะมีผู้ประกอบการ SMEs ยื่นขอจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักร ไม่น้อยกว่า 1,000 ราย  เผย 5 เดือนแรกปี 2560 มียอดการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรแล้ว 2,209 เครื่อง รวมมูลค่ากว่า 7 หมื่นล้านบาท

[caption id="attachment_165748" align="aligncenter" width="324"] นายมงคล พฤกษ์วัฒนา นายมงคล พฤกษ์วัฒนา[/caption]

นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมกระทรวงอุตสาหกรรม   กล่าวว่า สถิติการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรช่วง เดือนมกราคม-พฤษภาคม ปี2560 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมียอดจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรแล้ว 499 ราย จำนวน 2,209 เครื่อง รวมมูลค่าทุนจดทะเบียนเครื่องจักร 77,909,447,023 บาท และมียอดจดทะเบียนจำนองเครื่องจักรช่วงดังกล่าว กว่า  48,375,100,741 บาท โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่จดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ลำดับที่ 1 คืออุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ที่ทำจากโลหะ 125 ราย จำนวนเครื่องจักร 254 เครื่อง ลำดับที่ 2 คือ ผลิตภัณฑ์จากพลาสติก 64 ราย จำนวนเครื่องจักร 341 เครื่อง ลำดับที่ 3 คือ ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า 60 ราย จำนวนเครื่อง 414 เครื่อง ลำดับที่ 4 คือการพิมพ์ 60 ราย จำนวนเครื่อง 86 เครื่อง และลำดับที่ 5 คือ ผลิตภัณฑ์จากอโลหะอื่น 23 ราย จำนวนเครื่อง 30 เครื่อง อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลสถิติตั้งแต่ปี 2515 ถึงปัจจุบันมีโรงงานอุตสาหกรรมจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรรวม 59,345 ราย จำนวน 809,208 เครื่อง รวมมูลค่าทุนจดทะเบียนเครื่องจักร 5.8 ล้านล้านบาท

rv03 นายมงคล กล่าวต่อว่า ในช่วงไตรมาส 3 ของ ปี2560 นี้ กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ ดำเนินโครงการเร่งรัดการจดทะเบียนเครื่องจักรของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อเร่งส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ในกิจกรรมการแปลงเครื่องจักรเป็นทุน และ กิจกรรมการปรับเปลี่ยนเครื่องจักร โดยให้นำเครื่องจักรภายในโรงงาน เข้ามาจดทะเบียนกรรมสิทธิ์กับกรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อนำใบจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน   โดยประโยชน์ที่ผู้ประกอบการ SMEs จะได้รับในการเข้าร่วมโครงการ ได้แก่

1.ได้รับเงินทุนหมุนเวียนและเครื่องจักรใหม่ โดยผู้ประกอบการ SMEs ที่เข้าร่วมกิจกรรมจะต้องนำเครื่องจักรเดิมมาจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินเพื่อจะได้รับเงินหมุนเวียนในกิจการหรือซื้อเครื่องจักรใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

2. ได้รับสิทธิพิเศษด้านงานเงิน ผู้ประกอบการจะได้วงเงินกู้รายละไม่เกิน 15 ล้านบาท สามารถกู้ได้สูงสุดถึง 90% ของใบสั่งซื้อเครื่องจักร โดยดอกเบี้ย 4% ต่อปี ตลอดอายุสัญญาและสามารถผ่อนนานได้ถึง 7 ปี โดยปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน

rv02 3.ได้รับการยกเว้นภาษี   ผู้ประกอบการจะได้ยกเว้นอากรขาเข้าของเครื่องจักร และยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี เป็นสัดส่วนร้อยละ 50 ของเงินทุนโดยไม่รวมค่าที่ดิน และทุนหมุนเวียนในการปรับปรุง ทั้งนี้ให้ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากรายได้ของกิจการที่ได้ดำเนินการอยู่เดิมแล้ว

4.ได้รับ Fast Track จดทะเบียน  ผู้ประกอบการสามารถยื่นคำขอจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรผ่านช่องทางพิเศษสำหรับผู้ประกอบการ SME ได้รวจเร็วทันใจ ภายใน 3 วัน

5.ได้รับคำแนะนำ  ผู้ประกอบการทุกท่านจะได้รับคำปรึกษาในการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรอุปกรณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การนำพลังงานทดแทนมาใช้ในกิจการเพื่อการประหยัดพลังงาน และคำแนะนำในการลดต้นทุนทั้งในด้านพลังงาน ด้านสิ่งแวดล้อม และได้นวัตกรรมใหม่ๆ ใช้ในการต่อยอดประกอบธุรกิจ

rv04 ทั้งนี้ ในปี 2560 คาดว่าจะมีผู้ประกอบการ SMEs ยื่นขอจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักร ไม่น้อยกว่า 1,000 ราย และผู้ประกอบการ SMEs ได้รับการให้คำปรึกษาแนะนำในการลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักร และสามารถนำเครื่องจักร ไม่น้อยกว่า 1,000 เครื่อง เพื่อยื่นขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน ที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม โดยมีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นที่ปรึกษาโครงการเร่งรัดการจดทะเบียนเครื่องจักรของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ได้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือร่วมกับธนาคารไว้ 5 แห่งด้วยกัน ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารเกียรตินาคิน วงเงินที่จะปล่อยสินเชื่อได้รวม 10,400 ล้านบาท รวมถึงสามารถขอรับสิทธิประโยชน์ในด้านการนำเข้าเครื่องจักรและสิทธิประโยชน์ด้านภาษีอื่นๆ กับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมตามนโยบายของรัฐบาลที่จะผลัดดันและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลกต่อไป