ตลาดเครื่องสำอางเปิดเกมลุยครึ่งปีหลังดันยอดขายโต “มิสทิน” อัดโปรโมชัน ผ่านแอพดันช่องทางออนไลน์คึกคัก “บิวตี้ คอมมูนิตี้”ชูตลาดครบเครื่อง ฟาก “คาร์มาร์ท” ผนึกพันธมิตรผุดโปรเจ็กต์ยักษ์ดันเงินสะพัด
ข้อมูลจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทย ระบุว่า ตลาดเครื่องสำอางเมืองไทยในปีที่ผ่านมามีมูลค่ากว่า 2.8 แสนล้านบาท คาดว่าปีนี้จะเติบโต 6-7% โดย 1.68 แสนล้านบาทหรือคิดเป็นสัดส่วน 60% เป็นสินค้าที่ทำตลาดภายในประเทศ ส่วนที่เหลือเป็นการส่งออกไปทำตลาดในต่างประเทศ ขณะที่ตลาดเครื่องสำอางโดยรวมในครึ่งปีแรกยังถือว่าเติบโตได้ดี ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญจนเครื่องสำอางกลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน ตลาดจึงเติบโตโดยไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจหรือกำลังซื้อที่ชะลอตัวและคาดว่าในครึ่งปีหลังยังจะเติบโตต่อเนื่อง จากการโหมทำตลาดของผู้ประกอบการนั่นเอง
โดยนายดนัย ดีโรจนวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายเครื่องสำอางแบรนด์มิสทิน (Mistine) เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ได้เตรียมแคมเปญการตลาดผ่านแอพพลิเคชั่น "ยุพิน" หลังจากได้เริ่มทำตลาดอย่างจริงจังในช่วงครึ่งปีแรก รวมถึงการเปิดตัวสินค้าใหม่ 13-14 รายการ พร้อมกับการโฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้าใหม่ดังกล่าวด้วย ซึ่งแนวทางการบริหารสื่อโฆษณาในปีนี้ ได้มุ่งเน้นประสิทธิภาพการใช้งบประมาณให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับสินค้าแต่ละชนิด
"นักการตลาดหรือเจ้าของธุรกิจต้องแข่งกับช่องทางออนไลน์ ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง จึงต้องหาแนวทางทำอย่างไรให้ผู้บริโภคนึกถึงแบรนด์ของเราตลอดเวลา ในอดีตคนส่วนใหญ่จะดูทีวีช่องหลัก คือ ช่อง 3 ช่อง 7 แต่วันนี้สายตามองทีวีถูกแบ่งไป ดิจิตอลทีวี ยูทูป ทำให้ผู้บริโภคกระจายไม่เป็นกลุ่มเป็นก้อน โลกวันนี้ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางเลย และบริษัทให้ความสำคัญกับช่องทางการรับรู้ข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ แต่สื่อหลักก็ยังคงให้ความสำคัญ แต่กระจายงบประมาณไปยังสื่อที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของสินค้านั้นๆ"
ในปีนี้บริษัทเตรียมงบการตลาดและโฆษณาไว้ประมาณ 1,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาใช้ 900 ล้านบาท แบ่งเป็นสื่อเทรดดิชั่นนอล 60% สื่อออนไลน์ 40% เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีที่ผ่านมา ซึ่งแอพพลิเคชั่นยุพิน ถือเป็นการตลาดออนไลน์ที่เริ่มทำตลาดอย่างจริงจังในปีนี้ ปัจจุบันมีสาวมิสทินดาวน์โหลดแล้วกว่า 2 แสนคน มียอดสั่งซื้อสินค้ากว่า 9 หมื่นคน เฉลี่ยยอดซื้อต่อบิล 400 บาท คาดว่าภายในสิ้นปีจะมียอดสาวมิสทินและลูกค้าดาวน์โหลดกว่า 5 แสนคน และจะมีผู้ใช้สั่งซื้อสินค้ากว่า 2 แสนคน มียอดขายผ่านแอพพลิเคชั่นเกือบ 6,000 ล้านบาท จากเป้าหมายยอดขายในปีนี้ 1.4 หมื่นล้านบาท ขณะที่ภาพรวมตลาดเครื่องสำอางในช่วงครึ่งปีแรก น่าจะเติบโตประมาณ 3-4% ส่วนภาพรวมของบริษัทเติบโตประมาณ 5%
ด้านน.พ.สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดเครื่องสำอางในช่วงครึ่งปีแรกยังคงเติบโตได้ดีต่อเนื่อง จากหลายปีที่ผ่านมาซึ่งเติบโตในอัตราเฉลี่ย 9% เนื่องจากผู้บริโภคมองว่าเครื่องสำอางเป็นสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน ขณะที่แนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลัง ตลาดเครื่องสำอางยังคงเติบโตต่อเนื่องเช่นกัน เพราะเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการจะทำตลาด การขยายสาขาใหม่ การเปิดตัวสินค้าใหม่ และเป็นช่วงไฮซีซั่น รวมถึงภาวะการท่องเที่ยวที่เติบโตด้วยดี
สำหรับแนวทางการทำตลาดของบริษัท ยังคงเป็นไปตามแผนธุรกิจที่วางไว้ โดยปีนี้เตรียมงบประมาณ 160 ล้านบาท เป็นงบประมาณการขยายสาขาใหม่ 110 ล้านบาท และงบด้านการพัฒนาสาธารณูปโภคต่างๆ อีก 50 ล้านบาท ส่วนการทำตลาดจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ รายการส่งเสริมการขาย การจัดโปรโมชั่น การแจกของพรีเมียม และการสื่อสารผ่านสื่อออนไลน์
[caption id="attachment_164283" align="aligncenter" width="383"]
3บิ๊ก‘เมกอัพ’เปิดศึก จัดหนักชิงแชร์ตลาด2.8แสนล้านบาท[/caption]
"ครึ่งปีหลังจะเน้นกลยุทธ์ออนไลน์สู่ออฟไลน์ มาเสริมการขายสินค้าที่ร้าน และใช้กลยุทธ์โลคัล สโตร์ มาร์เก็ตติ้ง ที่ให้ผู้จัดการสาขาทำกิจกรรม ณ จุดขายให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค ในแต่ละพื้นที่มากขึ้น ซึ่งช่วยให้การขายสินค้าของร้าน ในแต่ละสาขาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยแต่ละปีบริษัทเพิ่มงบประมาณในสื่อออนไลน์อย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีมูลค่าไม่สูงเนื่องจากใช้ทีมงานภายในสำหรับการจัดทำคอนเทนต์ กราฟฟิค รวมถึงการใช้สื่อออนไลน์ฟรี โดยปีนี้คาดว่าบริษัทจะมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20%"
ขณะที่นายพงศ์วิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาดและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลังได้เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่อีก 9 รายการ แบ่งเป็นสินค้าภายใต้แบรนด์โอปป้า สไตล์ (oppa style) 3 รายการ และภายใต้แบรนด์สกินแลป (skin lab) อีก 6 รายการ ซึ่งสินค้าทั้ง 2 แบรดน์บริษัทเพิ่งเปิดตัวในช่วงเดือนที่ผ่านมา เพื่อเป็นการทดลองตลาดและหาโอกาสทางการตลาดกับกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ เพื่อสร้างยอดขายและการเติบโตให้กับบริษัท ที่ในปีนี้คาดว่าจะสร้างการเติบโตได้กว่า 20% จากปีที่ผ่านมามีรายได้เกือบ 1,500 ล้านบาท
"แบรนด์โอปป้า สไตล์เป็นสินค้าจับกลุ่มผู้ชาย ที่ได้เปิดตัวสินค้าไปแล้ว 1 รายการ เพื่อทดลองทำตลาด ส่วนแบรนด์สกินแลปเป็นแบรนด์เวชสำอาง ที่จับกลุ่มเป้าหมายผู้มีปัญหาเฉพาะจุด หรือผิวแพ้ง่าย ซึ่งเปิดตัวแผ่นปิดสิวไปแล้ว 1 รายการ โดยแนวทางการทำตลาดทั้งสองแบรด์จะมุ่งเน้นผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการรีวิว การสื่อสารออนไลน์ ที่ปีนี้เพิ่มสัดส่วนงบประมาณเป็น 50% จากปีที่ผ่านมาใช้งบ 30% โดยปีนี้ใช้งบการตลาดเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาอีก 10-15% และในครึ่งปีหลังนี้ยังเตรียมโปรเจ็กต์ใหญ่ที่บริษัทจะทำรวมกับพันธมิตรทางธุรกิจด้วย"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,271 วันที่ 18 - 21 มิถุนายน พ.ศ. 2560