ลงนามแล้วรถไฟฟ้าสีเหลือง-ชมพูแสนล้านประเดิมพีพีพีฟาสต์แทร็ก

16 มิ.ย. 2560 | 13:29 น.
รองนายกฯสมคิดเป็นประธาน พิธีลงนามสัญญาโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู – สีเหลือง มูลค่ากว่าแสนล้านบาท มั่นใจจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการลงทุนของไทย

[caption id="attachment_164353" align="aligncenter" width="503"] นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์[/caption]

วันนี้ (16 มิถุนายน 2560) เมื่อเวลา 13.30 น. นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีลงนามโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง ณ ห้องวิภาวดีบอลรูม โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าว พร้อมกล่าวว่า รถไฟฟ้าทั้ง 2 โครงการ มีมูลค่ารวมกว่า 100,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นเส้นทางสร้างความเชื่อมั่นให้กลุ่มนักลงทุนเข้ามาลงทุนอีกมาก โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะเร่งผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่ มูลค่า 2.4 ล้านล้านบาท ให้เป็นไปตามแผนภายใน 2 ปีนี้ โดยภายในปีนี้จะผลักดันให้มีการลงนามสัญญาว่าจ้างอีกหลายโครงการ อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ สายสีส้มตะวันตก และสายสีแดง รวมถึงโครงการรถไฟทางคู่ 5 สายทาง รถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ – ระยอง อีกด้วย

โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง เป็นโครงการนำร่องตามมาตรการ PPP Fast Track ของรัฐบาลในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม เพื่อเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการลงทุน และสร้างแรงขับเคลื่อนการลงทุนร่วมกับภาครัฐให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยทั้ง 2 โครงการ เป็นการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนในรูปแบบ PPP Net Cost ภาครัฐลงทุนค่างานจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และสนับสนุนวงเงินลงทุนบางส่วน ส่วนภาคเอกชนลงทุนค่างานโยธา ค่างานระบบและขบวนรถไฟฟ้า และค่าจ้างที่ปรึกษาโครงการ รวมทั้งให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง เป็นระยะเวลาตามสัญญา 33 ปี 3 เดือน แบ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 งานออกแบบและก่อสร้างโครงการ พร้อมติดตั้งระบบและขบวนรถไฟฟ้า ระยะเวลา 3 ปี 3 เดือน และ ระยะที่ 2 งานให้บริการเดินรถ ระยะเวลา 30 ปี

ทั้ง 2 โครงการเป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยวแบบคล่อมราง (Straddle Monorail) เป็นโครงสร้างยกระดับตลอดสาย มีทางเดินสำหรับการอพยพกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน (Emergency Walkway) ตลอดทาง แนวเส้นทางเป็นระบบขนส่งมวลชนขนาดรอง (Feeder Line) ที่จะกระจายความหนาแน่นของกิจกรรมเมือง และเชื่อมโยงการเดินทางกับระบบขนส่งมวลชนหลัก (Main Line) เป็นโครงข่ายอย่างเป็นระบบ ซึ่งคาดว่าทั้ง 2 โครงการจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2563

MRT_2822 เมื่อแล้วเสร็จจะอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน จากพื้นที่รอบนอกกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงจังหวัดนนทบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ ให้สามารถเชื่อมต่อการเดินทางเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าสายหลัก ได้แก่ สายสีม่วง สายสีแดง สายสีเขียว สายสีส้ม และสายสีน้ำเงิน เพื่อเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพมหานครได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และช่วยบรรเทาปัญหาจราจรในพื้นที่ของโครงการทั้ง 2 สาย นอกจากนี้ผู้โดยสารจะสามารถใช้บัตรโดยสารใบเดียวกันเดินทาง ทั้งบัตรประเภทเที่ยวเดียว และบัตรเติมเงิน (บัตรแมงมุม) โดยสามารถเดินทางได้ทั้ง 3 ระบบ คือสายสีเขียว สายสีชมพู และสายสีเหลือง โดยจะออกแบบให้เป็นลักษณะการเชื่อมต่อแบบ Paid to Paid ที่ผู้โดยสารไม่ต้องออกนอกระบบ เพียงแตะบัตรเข้าและออก เพียงครั้งเดียว ซึ่งจะเพิ่มความสะดวกสบายและรวดเร็วในการเดินทางให้กับผู้โดยสารมากยิ่งขึ้น