ปณท.ชูจุดแข็งสู่ไปรษณีย์ไทย 4.0

18 มิ.ย. 2560 | 07:30 น.
เตรียมผลักดันแผนงานเร่งปรับปรุงพัฒนาระบบงานไปรษณีย์ นำระบบไอทีมาใช้ในการให้บริการ งานรับฝาก งานคัดแยก งานส่งต่อ งานนำจ่าย พร้อมปรับตัวรองรับธุรกิจอี-คอมเมริซ์ ตั้งเป้าสู่การเป็นไปรษณีย์ไทย 4.0 ภายในปี 2562

นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (รมว.ดศ.) ได้แสดงปาฐกถาพิเศษแก่คณะผู้บริหารของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด หรือ ปณท.เมื่อเร็ว ๆนี้ ว่า นโยบายไทยแลนด์ 4.0 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลของประเทศไทย ซึ่งมีแนวทางการพัฒนาประเทศให้มีการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเต็มศักยภาพ โดยจะส่งเสริมให้ชุมชนที่มีการติดตั้งเน็ตประชารัฐ สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลมาสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ในการนำสินค้าและบริการของชุมชนมาซื้อขายบนร้านค้าออนไลน์ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องการจัดหาเทคโนโลยีดิจิทัล ระบบงาน อุปกรณ์ การสร้างความรู้ในการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อนำมาส่งเสริมให้ชุมชนสามารถทำการค้าขายแบบออนไลน์ตามโครงการ e-Commerce ชุมชนของรัฐบาล

เนื่องจาก ไปรษณีย์ไทยมีเครือข่ายสาขาที่ทำการไปรษณีย์กระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 5,000แห่ง มีคนไปรษณีย์ทั่วประเทศกว่า 30,000 คน มีเเส้นทางการขนส่งไปรษณีย์ มากกว่า 400 เส้นทาง ร่วมกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง จำนวน 24,700 หมู่บ้าน ตามโครงการเน็ตประชารัฐ ใช้ประโยชน์จากช่องทางการจำหน่ายสินค้าไม่ว่าจะจำหน่ายหน้าร้าน ณ ที่ทำการไปรษณีย์ จำหน่ายผ่านแคตตาล็อก หรือจำหน่ายผ่านระบบซื้อขายสินค้าออนไลน์ โดยใช้ระบบพร้อมโพสต์ที่ไปรษณีย์ไทย จะพัฒนาระบบบริหาร ณ จุดขาย (POS : Point of Sale)ขึ้นเพื่อให้เป็นเครื่องมือช่วยประชาชน ชุมชน ศูนย์ดิจิทัลชุมชนและร้านโชห่วย ใช้ในการบริหารจัดการการขายสินค้าในอนาคต
ส่วนแนวทางการดำเนินงานภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพื่อมุ่งสู่การเป็นไปรษณีย์ไทย 4.0 รวมทั้งขับเคลื่อนและส่งเสริมสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศผ่านโครงการดิจิทัลชุมชนด้าน e-Commerce ของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด

[caption id="attachment_164115" align="aligncenter" width="503"] ปณทชูจุดแข็งสู่ไปรษณีย์ไทย 4.0 ปณทชูจุดแข็งสู่ไปรษณีย์ไทย 4.0[/caption]

ด้านพล.อ. สาธิต พิธรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า “แผนงานไปรษณีย์ไทย 4.0 จะต้องปรับปรุงระบบงานไปรษณีย์ รวมไปถึงการนำระบบไอทีมาใช้ในการให้บริการครบวงจร มุ่งเน้นความสะดวกสบายของลูกค้าและสามารถกำหนดความต้องการในการใช้บริการได้ พร้อมพัฒนาและปรับปรุงการบริการหน้าเคาน์เตอร์ให้ได้มาตรฐาน นำเครื่องคัดแยกอัตโนมัติมาใช้งานใน ศูนย์ไปรษณีย์ทั่วประเทศ ส่งเสริมให้มีการใช้กล่องที่มีมาตรฐานเพื่อป้องกันการเสียหายในขั้นตอนการคัดแยก

สำหรับความคืบหน้าโครงการ e-Commerce ชุมชนนั้น ไปรษณีย์ไทยได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายต่างๆ พร้อมทั้งให้ที่ทำการไปรษณีย์ในแต่ละจังหวัดทำหน้าที่ประสานความร่วมมือกับส่วนราชการ หน่วยงานต่างๆ ภายในจังหวัด รวมไปถึงสถาบันทางวิชาการต่างๆ เพื่อนำไปสู่การดำเนินงานที่ได้มาตรฐาน และนำจุดแข็งด้านการขนส่งและระบบไอทีเข้ามาช่วยในการทำงานและไปรษณีย์ไทยจะเป็นช่องทางการขนส่งและกระจายสินค้าให้พี่น้องเกษตรกรไทยด้วย

คาดว่าจะสามารถเชื่อมโยงระบบพร้อมโพสต์ และเว็บไซต์ www.thailandpostmart.com รวมไปถึงเครื่อง POS เพื่อเป็นช่องทางการให้บริการผ่านระบบของ ปณท เดียวกันทั้งหมดภายในสิ้นปี 2560 ตลอดจนใช้ประโยชน์จากโครงการเน็ตประชารัฐ และสนับสนุนให้ที่ทำการไปรษณีย์ และไปรษณีย์อนุญาตเอกชน เป็นแหล่งศูนย์กลางของชุมชนในการหาข้อมูลความรู้

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,271 วันที่ 18 - 21 มิถุนายน พ.ศ. 2560