ศปมผ.บังคับใช้ก.ม. หวังแก้ปัญหาประมงอย่างเป็นธรรม
ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) ทำความเข้าใจกับชาวประมงแหลมผักเบี้ย จ.เพชรบุรี ในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อแก้ปัญหาการทำการประมงอย่างเป็นธรรม
วันนี้ (16 มิถุนายน)ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.)โดยทัพเรือภาค 1 นำโดย พล.ร.ต.เดชดล ภู่สาระ รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมกับนายกสมาคมประมงเพชรบุรี, ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรบ้านแหลม และหัวหน้าศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า – ออกเรือประมง เพชรบุรี (PIPO เพชรบุรี) กำหนดแถลงข่าว และทำความเข้าใจกับผู้ที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งชาวประมงบ้านแหลม ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ในการบังคับใช้กฎหมายของ ศปมผ.
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2560 นางสาวบุญรวม ทองตัน เจ้าของเรือประมง ล.รัตนพานิช 5 เป็นเรือขนาด 40.23 ตันกรอส ได้แจ้งออกกับศูนย์ PIPO เพชรบุรี ซึ่งเอกสารเป็นไปตามแบบฟอร์มที่ ศปมผ.กำหนด โดยมี นายไสว จันทะสาร เป็นผู้ควบคุมเรือ นายสุรเดช ฮั้นพะเนิน เป็นช่างเครื่อง
ต่อมาในวันที่ 10 มิถุนายน 2560 นายสุรเดช ฮั้นพะเนิน เจ้าของเรือ ส.แสงทวีทรัพย์ดี ได้มาดำเนินการส่งสมุดบันทึกการทำการประมง(Fishing Logbook)ที่ศูนย์ฯ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่จึงพบว่า มีการแจ้งรายชื่อของนายสุรเดช ออกไปทำการประมงกับเรือ ล.รัตนพานิช 5 ในตำแหน่งช่างเครื่องจึงได้เชิญนายสุรเดช พร้อมกับ นางสาวบุญรวม เจ้าของเรือ ล.รัตนพานิช 5 มาพบพร้อมกับติดต่อให้เรือ ล.รัตนพานิช 5 กลับเข้าท่า โดยเรือเดินทางมาถึงท่าเรือแหลมผักเบี้ยในวันที่ 11 มิถุนายน เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการตรวจสอบ และแจ้งข้อกล่าวหา ภายหลังจากที่ นางสาวบุญรวม รับทราบข้อกล่าวหาแล้ว เจ้าหน้าที่ของศูนย์ PIPO จึงส่งตัว นางสาวบุญรวมให้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านแหลม เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2560 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ศูนย์ PIPO เพชรบุรีได้ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเป็นขั้นตอน ตลอดจนอธิบายถึงเหตุผลในการดำเนินการซึ่งความผิดที่เกิดขึ้นเป็นการแสดงออกถึงเจตนาแจ้งความเท็จต่อเจ้าหน้าที่ และเป็นผลให้ผู้ที่ปฏิบัติตามกฎหมายได้รับผลกระทบ ดังนั้น เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปตามแนวทางในการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพตามที่ ศปมผ. กำหนดให้เกิดการแก้ปัญหาในภาพรวมอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งยังเป็นการคุ้มครองผู้บริสุทธิ์ให้สามารถประกอบการทำการประมงอย่างปกติ เจ้าหน้าที่จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการต่อผู้ที่ละเมิดกฎหมายอย่างเป็นธรรม เพื่อให้การทำการประมงเกิดความยั่งยืนและไม่ให้มีการอาศัยช่องว่างของกฎหมายทำให้ผู้บริสุทธื์ต้องเสียประโยชน์ที่พึงได้
ในการนี้ ศปมผ. โดย พล.ร.ต.เดชดล ภู่สาระ และคณะจึงได้เชิญผู้ประกอบการประมงในพื้นที่ ตลอดจนสื่อมวลชนได้รับทราบถึงความตั้งใจในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม และละมุนละม่อม อันจะทำให้การแก้ปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายเดินหน้าต่อไปอย่างมีมาตรฐาน อันจะส่งผลให้เกิดความยั่งยืนในการทำการประมงของไทยสืบไป
วันนี้ (16 มิถุนายน)ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.)โดยทัพเรือภาค 1 นำโดย พล.ร.ต.เดชดล ภู่สาระ รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมกับนายกสมาคมประมงเพชรบุรี, ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรบ้านแหลม และหัวหน้าศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า – ออกเรือประมง เพชรบุรี (PIPO เพชรบุรี) กำหนดแถลงข่าว และทำความเข้าใจกับผู้ที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งชาวประมงบ้านแหลม ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ในการบังคับใช้กฎหมายของ ศปมผ.
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2560 นางสาวบุญรวม ทองตัน เจ้าของเรือประมง ล.รัตนพานิช 5 เป็นเรือขนาด 40.23 ตันกรอส ได้แจ้งออกกับศูนย์ PIPO เพชรบุรี ซึ่งเอกสารเป็นไปตามแบบฟอร์มที่ ศปมผ.กำหนด โดยมี นายไสว จันทะสาร เป็นผู้ควบคุมเรือ นายสุรเดช ฮั้นพะเนิน เป็นช่างเครื่อง
ต่อมาในวันที่ 10 มิถุนายน 2560 นายสุรเดช ฮั้นพะเนิน เจ้าของเรือ ส.แสงทวีทรัพย์ดี ได้มาดำเนินการส่งสมุดบันทึกการทำการประมง(Fishing Logbook)ที่ศูนย์ฯ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่จึงพบว่า มีการแจ้งรายชื่อของนายสุรเดช ออกไปทำการประมงกับเรือ ล.รัตนพานิช 5 ในตำแหน่งช่างเครื่องจึงได้เชิญนายสุรเดช พร้อมกับ นางสาวบุญรวม เจ้าของเรือ ล.รัตนพานิช 5 มาพบพร้อมกับติดต่อให้เรือ ล.รัตนพานิช 5 กลับเข้าท่า โดยเรือเดินทางมาถึงท่าเรือแหลมผักเบี้ยในวันที่ 11 มิถุนายน เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการตรวจสอบ และแจ้งข้อกล่าวหา ภายหลังจากที่ นางสาวบุญรวม รับทราบข้อกล่าวหาแล้ว เจ้าหน้าที่ของศูนย์ PIPO จึงส่งตัว นางสาวบุญรวมให้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านแหลม เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2560 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ศูนย์ PIPO เพชรบุรีได้ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเป็นขั้นตอน ตลอดจนอธิบายถึงเหตุผลในการดำเนินการซึ่งความผิดที่เกิดขึ้นเป็นการแสดงออกถึงเจตนาแจ้งความเท็จต่อเจ้าหน้าที่ และเป็นผลให้ผู้ที่ปฏิบัติตามกฎหมายได้รับผลกระทบ ดังนั้น เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปตามแนวทางในการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพตามที่ ศปมผ. กำหนดให้เกิดการแก้ปัญหาในภาพรวมอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งยังเป็นการคุ้มครองผู้บริสุทธิ์ให้สามารถประกอบการทำการประมงอย่างปกติ เจ้าหน้าที่จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการต่อผู้ที่ละเมิดกฎหมายอย่างเป็นธรรม เพื่อให้การทำการประมงเกิดความยั่งยืนและไม่ให้มีการอาศัยช่องว่างของกฎหมายทำให้ผู้บริสุทธื์ต้องเสียประโยชน์ที่พึงได้
ในการนี้ ศปมผ. โดย พล.ร.ต.เดชดล ภู่สาระ และคณะจึงได้เชิญผู้ประกอบการประมงในพื้นที่ ตลอดจนสื่อมวลชนได้รับทราบถึงความตั้งใจในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม และละมุนละม่อม อันจะทำให้การแก้ปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายเดินหน้าต่อไปอย่างมีมาตรฐาน อันจะส่งผลให้เกิดความยั่งยืนในการทำการประมงของไทยสืบไป